วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดพังงา จัดพิธีวางเรือพระทองสู่ท้องทะเล เพื่อเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.57)  เวลา 10.00 น. พลเรือตรี กิตตินันท์ ศิรินาวิน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่๓ พร้อมด้วยนายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายชัยวัฒน์ ศิรินุพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา คุณกฤษ ศรีฟ้า ประธานมูลนิธิรักษ์พังงา ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวพังงา ร่วมพิธีวางพวงมาลา กล่าวสดุดีและอำลาเรือพระทอง หรือเรือรบหลวงพระทอง ที่ปลดประจำการ ก่อนจะนำเรือวางลงสู่ท้องทะเลไทย เพื่อเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ เรือรบหลวงปัตตานี บริเวณพื้นที่ทะเลทางฝั่งตะวันตกเกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ในขณะที่การกำหนดจัดงานดังกล่าวได้เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากคลื่นลมแรงในทะเลอันดามัน

นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ร่วมกับจังหวัดพังงา กองทัพเรือและชุมชนในพื้นที่อำเภอคุระบุรี ดำเนินโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดพังงา โดยจัดวางเรือรบที่ปลดประจำการ "เรือพระทอง” บริเวณพื้นที่ทะเลทางฝั่งตะวันตกของเกาะพระทอง ระยะทางโดยประมาณ ๖ กิโลเมตร เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ ศึกษาธรรมชาติการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลและแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนในพื้นที่ เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวของอำเภอคุระบุรีและจังหวัดพังงา

สำหรับประวัติเรือพระทอง หรือ เรือหลวงพระทอง เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ต่อที่อู่เจฟเฟอร์สันโบต ประเทศสหรัฐอเมริกา มีนามเรียกขานคือ HSVJ หมายเลขเรือ 715 ขึ้นระวางประจำการ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2519 ขนาดเรือยาว 98.1 เมตร กว้าง 15 เมตร มีระวางขับน้ำ 3,310 ตัน ใช้ในการปฏิบัติภารกิจการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ได้รับใช้ราชการ ปฏิบัติหน้าที่และภารกิจอย่างสมเกียรติ ศักดิ์ศรีตั้งแต่ขึ้นระวางประจำการ และได้ปลดประจำการเมื่อ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๑ รวมระยะเวลารับใช้ประเทศชาติทั้งสิ้น ๓๒ ปี

อย่างไรก็ตาม อุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะลุล่วงและเจริญงอกงามได้ ก็ต้องอาศัยประชาชนทุกคนที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่คู่ทะเลต่อไป


ส.ปชส.พังงา ข่าว