วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557
บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ก่อนเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฏร์ธานีค่อนข้างเงียบเหงา
บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ก่อนเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฏร์ธานีค่อนข้างเงียบเหงา คาดผลกระทบจากการเมืองและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ขณะที่ราคาของสินค้าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
วันนี้ (29 ม.ค. 57) บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน 2557 บริเวณตลาดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี บรรยากาศเป็นไปค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนหนึ่ง ออกมาจับจ่ายเลือกซื้อสิ้นค้าคาวหวาน จำพวกหมู เห็ด เป็ด ไก่ ขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะแก้วมังกร สับปะรด และส้ม ที่มีวางจำหน่ายจำนวนมาก โดยราคาส่วนใหญ่ขยับสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ราคาผักบางอย่างก็มีการปรับราคาสูงขึ้น ส่วนราคาเนื้อหมู ไก่ เป็ด ก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน อาทิ เนื้อหมูกิโลกรัมละ 130 – 140 บาท , หัวหมูราคา 600 – 700 บาท , เป็ด-ไก่ ตัวละ 100 – 200 บาท ตามขนาด , ส้มกิโลกรัมละ 60 – 100 บาท , สับปะรด ลูกละ 10 -15 บาท , ชมพู – แก้วมังกร กิโลกรัมละ 70 บาท , ขนมเข่งลูกละ 5 บาท ในขณะที่เครื่องไหว้พบว่ามีราคาตั้งแต่ชุดละ 150 – 300 บาท
ด้านพ่อค้า แม่ขาย ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้การค้าขายค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีผู้ออกมาจับจ่ายลดน้อยลง ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นและลดปริมาณการจับจ่ายลง สาเหตุอาจมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรปาล์มน้ำมันและยางพาราตกต่ำ ภาวะเศรษฐกิจชลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อลดน้อยลง ประชาชนไม่ออกมาจับจ่ายซื้อของ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศอีกด้วย ทำให้บรรยากาศการค้าการขับจ่ายซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นสร้างอนาคตด้วยการส่งเสริมการศึกษา
หลังจากเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในโรงเรียนบ้านจูโว๊ะ หมู่ที่ 5 ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดทำให้จักรยานของนักเรียนได้รับความเสียหาย ซึ่งในวันนี้ (27 มกราคม 2557 เวลา 14.30 น.) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางให้กำลังใจกับนักเรียน ครู และชาวบ้าน พร้อมทั้งมอบจักรยานให้กับนักเรียนเป็นจำนวน 26 คัน ในโครงการ "ปั่นใจรักน้ำใจจาก ศอ.บต.สู่โรงเรียนบ้านจูโวะ" พร้อมด้วยพลตำรวจตรีสันติ มะลิขาว รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสิทธิชัย ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมในงาน โดยมีนายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเจาะไอร้อง นายกูดอรอแม ยูโซะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจูโวะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ศูนย์เครือข่ายครู นักเรียน และชาวบ้านในอำเภอเจาะไอร้องร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ท่ามกลางการแสดง 2 วัฒนธรรม คือ การแสดงรำกลองยาว จากพี่น้องไทยพุทธและการแสดงร้องเพลงประสานเสียงอนาซีดของพี่น้องมุสลิม ร่วมสร้างสีสันภายในงาน ซึ่งในทันทีที่ได้รับจักรยาน เด็กๆต่างปั่นจักรยานเล่นภายในโรงเรียน บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งผู้ให้และผู้รับ
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าทุกคนได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในกิจกรรมด้านการศึกษา หน้าที่หลักของ ศอ.บต.คือการทำอย่างไรให้ประชาชนทุกศาสนิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและได้รับความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การมองไปที่อนาคต ต้องยอมรับว่าเรื่องที่ทุกคนต้องสร้างร่วมกัน คือ การสร้างอนาคตด้วยการศึกษา ในเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เราได้รับสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในประเทศไทยไม่มีใครไม่รู้จักอำเภอเจาะไอร้อง เราไม่อยากให้จดจำภาพว่าเจาะไอร้องเป็นพื้นที่น่ากลัว ผมได้มาสัมผัสแล้วว่าคนเจาะไอร้องมีความน่ารัก ไม่ใช่น่ากลัว วันนี้มีโชคดีของพื้นที่ตรงที่ว่า เรามีผู้นำที่คอยดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน วันนี้เราจึงต้องมาร่วมสร้างสันติภาพด้วยการศึกษา พี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ควรได้รับโอกาสทางการศึกษา ซึ่งการวัดว่าประเทศไหนมีคุณภาพมากกว่ากัน ไม่ได้วัดกันที่พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของประเทศ แต่วัดกันที่คุณภาพของคน ซึ่งคุณภาพของคน ส่วนหนึ่งก็มาจากการศึกษาที่ดี วันนี้นำจักรยานมาแจกเด็กๆ ซึ่งสีของจักรยานเป็นสีเขียว ซึ่งมีความหมาย เพราะสีเขียวหมายถึงสีแห่งสันติภาพ ผมขอยืนยันว่า การจะแก้ไขและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะต้องเน้นเรื่องการส่งเสริมการศึกษา ซึ่งผมจะทำหน้าที่นี้ให้เต็มความสามารถ
นอกจากนี้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้มอบอุปกรณ์กีฬา เพื่อเป็นการเสริมทักษะความสามารถทางด้านการกีฬาให้กับเด็กรุ่นใหม่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬาและสนใจหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าทุกคนได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในกิจกรรมด้านการศึกษา หน้าที่หลักของ ศอ.บต.คือการทำอย่างไรให้ประชาชนทุกศาสนิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและได้รับความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การมองไปที่อนาคต ต้องยอมรับว่าเรื่องที่ทุกคนต้องสร้างร่วมกัน คือ การสร้างอนาคตด้วยการศึกษา ในเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เราได้รับสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในประเทศไทยไม่มีใครไม่รู้จักอำเภอเจาะไอร้อง เราไม่อยากให้จดจำภาพว่าเจาะไอร้องเป็นพื้นที่น่ากลัว ผมได้มาสัมผัสแล้วว่าคนเจาะไอร้องมีความน่ารัก ไม่ใช่น่ากลัว วันนี้มีโชคดีของพื้นที่ตรงที่ว่า เรามีผู้นำที่คอยดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน วันนี้เราจึงต้องมาร่วมสร้างสันติภาพด้วยการศึกษา พี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ควรได้รับโอกาสทางการศึกษา ซึ่งการวัดว่าประเทศไหนมีคุณภาพมากกว่ากัน ไม่ได้วัดกันที่พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของประเทศ แต่วัดกันที่คุณภาพของคน ซึ่งคุณภาพของคน ส่วนหนึ่งก็มาจากการศึกษาที่ดี วันนี้นำจักรยานมาแจกเด็กๆ ซึ่งสีของจักรยานเป็นสีเขียว ซึ่งมีความหมาย เพราะสีเขียวหมายถึงสีแห่งสันติภาพ ผมขอยืนยันว่า การจะแก้ไขและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะต้องเน้นเรื่องการส่งเสริมการศึกษา ซึ่งผมจะทำหน้าที่นี้ให้เต็มความสามารถ
นอกจากนี้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้มอบอุปกรณ์กีฬา เพื่อเป็นการเสริมทักษะความสามารถทางด้านการกีฬาให้กับเด็กรุ่นใหม่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬาและสนใจหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
สำนักสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.รายงาน
ปาวีณี มีศรีสุข//เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
29 ม.ค. 57
ปาวีณี มีศรีสุข//เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
29 ม.ค. 57
ประชาชนในจังหวัดนราธิวาสกลับมามีดวงตาและสายตาที่ดีขึ้นหลังจากทีมจักษุแพทย์ได้ทำการผ่าตัดตาต้อกระจก สามารถมองเห็นได้เหมือนคนปกติ
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 57 ที่โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดตาผู้ผ่าตัดตาต้อกระจกให้กลับมามีชีวิตที่สดใส ตามโครงการ 999 ดวงตา เพื่อชาวนราผ่าตัดต้อกระจก ด้วยรักและห่วงใยจากผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายแพทย์ธีรวัฒน์ กรศิลปะ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา,นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส, เหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส, นายอำเภอ, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยี่งอ, สุไหงโก-ลก, คณะจักษุแพทย์จากกรมแพทย์ทหารบก, โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท,ผู้นำศาสนา, ตลอดจนพี่น้องประชาชน เข้าร่วมในโครงการครั้งนี้
จากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่ได้เร่งรัดให้มีการสำรวจค้นหาผู้ป่วยตาต้อกระจก และทำการผ่าตัดรักษา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส จึงได้จัดโครงการขึ้นเพื่อดำเนินการตรวจคัดกรอง ผู้ป่วยตาต้อกระจก มาทำการผ่าตัดรักษา ให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับประชาชนในพื้นที่อื่นๆ สำหรับในวันนี้ทีมจักษุแพทย์ได้ทำการเปิดตาผู้ป่วยที่ผ่าตัดไปแล้วจำนวน 124 ราย จากการคัดกรอง จำนวน 500 ราย ให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถมองเห็นได้เหมือนคนปกติ พร้อมทั้งมอบแว่นสายตา และให้คำแนะนำการดูแลรักษาดวงตาหลังการผ่านตัด เมื่อคนไข้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน ทั้งนี้ได้กำหนดรณรงค์การคัดกรอง และผ่าตัดต้อกระจกเชิงรุกขึ้น จำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการรณรงค์ครั้งแรก และได้กำหนดขึ้นอีก 4 ครั้ง คือ ครั้งที่ 2 ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ครั้งที่ 3 ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 4 ณ โรงพยาบาลระแงะ และครั้งที่ 5 ณ โรงพยาบาลตากใบ
นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจของหลายฝ่าย ทำให้ประชาชนได้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น มีสายตาที่เป็นปกติ ให้แสงสว่างในชีวิต สามารถทำกิจวัตประจำวันได้เป็นปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนมีความต้องการจริงๆ และเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว
จากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่ได้เร่งรัดให้มีการสำรวจค้นหาผู้ป่วยตาต้อกระจก และทำการผ่าตัดรักษา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส จึงได้จัดโครงการขึ้นเพื่อดำเนินการตรวจคัดกรอง ผู้ป่วยตาต้อกระจก มาทำการผ่าตัดรักษา ให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับประชาชนในพื้นที่อื่นๆ สำหรับในวันนี้ทีมจักษุแพทย์ได้ทำการเปิดตาผู้ป่วยที่ผ่าตัดไปแล้วจำนวน 124 ราย จากการคัดกรอง จำนวน 500 ราย ให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถมองเห็นได้เหมือนคนปกติ พร้อมทั้งมอบแว่นสายตา และให้คำแนะนำการดูแลรักษาดวงตาหลังการผ่านตัด เมื่อคนไข้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน ทั้งนี้ได้กำหนดรณรงค์การคัดกรอง และผ่าตัดต้อกระจกเชิงรุกขึ้น จำนวน 5 ครั้ง โดยครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการรณรงค์ครั้งแรก และได้กำหนดขึ้นอีก 4 ครั้ง คือ ครั้งที่ 2 ณ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ครั้งที่ 3 ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 4 ณ โรงพยาบาลระแงะ และครั้งที่ 5 ณ โรงพยาบาลตากใบ
นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจของหลายฝ่าย ทำให้ประชาชนได้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น มีสายตาที่เป็นปกติ ให้แสงสว่างในชีวิต สามารถทำกิจวัตประจำวันได้เป็นปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนมีความต้องการจริงๆ และเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว
ภาพข่าว บวรศักดิ์
ปาวีณี มีศรีสุข//เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
29 ม.ค. 57
ปาวีณี มีศรีสุข//เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
29 ม.ค. 57
ทำไม? ต้องงดจำหน่ายจ่ายแจกสุราก่อนวันเลือกตั้ง และวันเลือกตั้งจริง
อาจจะดูค่อนข้างเยอะ สำหรับข้อห้ามก่อนวันเลือกตั้ง และวันเลือกตั้งจริง ซึ่งขอย้ำเตือนข้อห้ามก่อนการเลือกตั้งว่า ตั้งแต่เวลา 18.00น. ของวันที่ 1 ก.พ. 2557 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ. 2557ห้ามมิให้มีการจำหน่ายจ่ายแจกสุรา และห้ามการหาเสียงในทุกรูปแบบ ทั้งทางอินเตอร์เน็ท และสังคมโซเชียลเน็ทเวิร์ค เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และการส่งต่อข้อความที่เข้าข่ายการหาสียง แต่ความจริงแล้วตามกฎหมายข้อห้ามมีรายละเอียดมากกว่านั้น เชื่อว่าประชาชนสงขลาจำนวนมากที่ยังไม่รู้ โดยเฉพาะคอสุรา และนักท่องราตรีทั้งหลาย
โดยตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว ตั้งแต่เวลา 18.00 น. หรือ6โมงเย็นของ วันที่ 1 ก.พ. 2557 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ. 2557 หรือเที่ยงคืนของที่ 2 ก.พ. 2557 ตามกฎหมายแล้วห้ามทำอะไรบ้าง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนด "การกระทำต้องห้าม" ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง อาทิ
-มาตรา 57 ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด นับแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ดังนั้น หลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะต้องหยุดปราศรัย หยุดหาเสียงทันที ฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 147 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-มาตรา 76 ห้ามกระทำการใดๆ โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้งหรือเข้าไป ณ ที่ลงคะแนนเลือกตั้ง หรือมิให้ไปถึง ณ ที่ดังกล่าวภายในกำหนดเวลาที่จะลงคะแนนเลือกตั้งได้ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 152 จำคุกตั้งแต 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
-มาตรา 155 ผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้งระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้งต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีดังกล่าวใช้บังคับกับวันลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งหรือเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย
- มาตรา 156 ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใดๆ เกี่ยวกับผลของการเลือกตั้งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
ถึงแม้ว่าข้อห้ามดังกล่าวจะเป็นที่ทราบโดยทั่วกัน แต่ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งก็ยังมีผู้ที่โดนจับจับจากการทำผิดข้อห้ามดังกล่าว เพราะฉะนั้น หากรู้แล้วก็บอกต่อ และอย่าไปทำเป็นอันขาด ใน 1 ปี มี 365 วัน การงดเหล้าแค่วันเดียวคงไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป
วิชราวุฒิ แกล้วกล้าหาญ//นำเสนอ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบเครื่องแบบนักเรียนและตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จังหวัดสงขลา ประจำปีการศึกษา 2556
วันนี้ (29 ม.ค.57) ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จ.สงขลา ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน แก่นักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จังหวัดสงขลา จำนวน 478 ชุด และตรวจเยี่ยมโรงเรียน โดยมี นายพงศว์เฑพ จิรสุขประเสริฐ นายอำเภอนาทวี กล่าวต้อนรับ
นายวชิระ ขวัญเพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จ.สงขลา กล่าวว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จ.สงขลา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2547 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ปัจจุบันมีนักเรียนชายหญิงรวม 478 คน เป็นชาย 230 คน เป็นหญิง 248 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษารวม 76 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้แก่เด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน เด็กด้อยโอกาสที่ครอบครัวมีฐานะยากจน และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ มี 20 ห้องเรียน และห้องปฏิบัติการ 10 ห้อง โดยมีระบบการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมจากโรงเรียนวังไกลกังวลเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน ความสามารถมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับดี นอกจากนี้ยังมีความสามารถของนักเรียนในด้านกีฬาและ มีการจัดการเรียนการสอน ตามสายสามัญและอาชีพ ได้ทำความร่วมมือการศึกษากับวิทยาลัยการอาชีพนาทวี ปศุสัตว์อำเภอและภาคเอกชน โรงเรียนมีศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำนาปลูกข้าวในเนื้อที่ 5 ไร่ ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ไว้รับประทานเองและจำหน่ายในตลาดนัดชุมชน เลี้ยงแกะ เลี้ยงไก่พื้นเมือง ไก่ไข่ ไก่สายสามพันธุ์ และเป็ดไข่ บ่อเลี้ยงปลาดุก ปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา 500 ต้น มีโรงทำอิฐบล็อกที่ผลิตได้วันละ 200 – 300 ก้อน เพื่อใช้ในโรงเรียนและจำหน่ายในชุมชน โรงเพาะเห็ด โรงขยะรีไซเคิล ซึ่งส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการออม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีความรู้ในอาชีพเพื่อต่อยอดในอนาคต
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดสงขลา รู้สึกปลื้มปิติยินดีอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระเมตตาและได้พระราชทานเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การกีฬา และทุนพระราชทานเรื่อยมากระทั่งปัจจุบัน นักเรียนทุกคนถือว่าเป็นบุคคลที่มีความโชคดีที่ได้ศึกษาในสถาบันแห่งนี้ ขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจและขยันหมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้ให้เป็นผู้มีความประพฤติดีงาม ประพฤติตนให้เป็นที่รักของครู และผู้ปกครอง เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีของชาติสืบไป
สุรินทิพย์ คงสุข //ข่าว
ชิดนัย แก้วมณีโชติ//ภาพ
29 ม.ค.57 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
ชิดนัย แก้วมณีโชติ//ภาพ
29 ม.ค.57 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
คนร้ายลอบวางระเบิด 2 จุด เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุด รปภ.ครู เจ็บ 3 ที่ยะหา
วันนี้ 29 ม.ค. 57 เวลา 07.50 น. พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.สภ.ยะหา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ในพื้นที่บ้านกูแบรายอ หมู่ที่ 4 ต.ละแอ อ.ยะหา ต.ยะลา หลังรับแจ้งพ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับกรมทหารพรานที่ 47 นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอยะหา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย (ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา) ชุด ฉก.อโนทัย (ทหาร) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 รุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณสามแยกปากทางเข้าโรงเรียนบ้านวังสำราญ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดจุดที่ 1 ขนาดเล็ก ใกล้กันพบกองเลือดของเจ้าหน้าที่ทหารพราน และอาวุธปืนอาก้าของเจ้าหน้าที่ทหารพรานตกอยู่ พร้อมชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดและอุปกรณ์อิเล็กทรานิกส์กระจัดกระจายทั่วบริเวณ ห่างกัน 500 เมตร พบหลุมระเบิด จุดที่ 2 ขนาดเล็ก และชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วิทยุสื่อสาร ทั่วบริเวณ
สวบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุด ร.ทพ.4705 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานออกลาดตระเวนเดินเท้า กำลัง 2 ชุด ชุดละ 9 นาย เพื่อ รปภ.ครู และเส้นทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิดชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กก.บรรจุในกล่องเหล็ก 2 ลูกพร้อมกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ทราบชื่อ อส.ทพ.สามิตร ไชยคงพรหม อายุ 33 ปี ถููกสะเก็ดระเบิดหน้าท้องอาการสาหัส อส.ทพ.มิตรภาพ วงศ์มณี อายุ 30 ปี และ อส.ทพ.สุกรรม เจ๊อามะ อายุ 30 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งหมดถูกนำส่งโรงงพยาบาลศูนย์ยะลา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ติดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนีอย่างกระชั้นชิด คาดเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์
นายนิแอ สามะอาลี / ข่าว
วันจ่ายยะลาคึกคัก ขณะที่พี่น้องชาวจีน บางส่วนไหว้ตรุษจีนเตรียมเดินทางออกนอกพื้นที่
วันที่ 29 ม.ค. 57 บรรยากาศวันจ่าย ในเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2557 ที่ตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) ในพื้นที่จังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อเตรียมไหว้บรรพบุรุษ เจ้าที่ และองค์เทพเจ้า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ราคาของสินค้าในปีนี้ โดยเฉพาะเนื้อหมู ราคาเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ตกกิโลกรัมละ 160-170 บาท ไก่เนื้อกิโลกรัมละ 75 บาท ส่วนภาวะกำลังซื้อของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในปีนี้น้อยกว่าในปีที่ผ่านมาเนื่องราคาเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะราคายางพารามีราคาตกต่ำ ทำให้ได้รับผลกระทบเช่นกัน ผนวกกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ขณะที่พี่น้องชาวไทยเชื้อจีนในพื้นที่จังหวัดยะลาบางส่วน โดยเฉพาะที่ร้านยะลานำรุ่ง (ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง) เริ่มประกอบพิธีไหว้ บรรพบุรุษ เจ้าที่ และองค์เทพเจ้า เนื่องในวันตรุษจีนกันแล้ว และเตรียมปิดร้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเตรียมเดินทางออกนอกพื้นที่
ขณะที่พี่น้องชาวไทยเชื้อจีนในพื้นที่จังหวัดยะลาบางส่วน โดยเฉพาะที่ร้านยะลานำรุ่ง (ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง) เริ่มประกอบพิธีไหว้ บรรพบุรุษ เจ้าที่ และองค์เทพเจ้า เนื่องในวันตรุษจีนกันแล้ว และเตรียมปิดร้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเตรียมเดินทางออกนอกพื้นที่
ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส.ยะลา
จักรยานยนต์บอมบ์ เจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุข บาดเจ็บสาหัส 2 นาย ที่ ต.ลำใหม่ จ.ยะลา ล่าสุดเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้วทั้งสอง
วันที่ 29 ม.ค. 57 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มัธยาท ผู้กำกับการ สภ.ยะหา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุข ในพื้นที่บ้านลำใหม่ หมู่ที่ 1 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา หลังรับแจ้ง พ.ท.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 อ.เมืองยะลา นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร นายอำเภอยะลา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย (ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา) ชุด ฉก.อโนทัย (ทหาร) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 รุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ อยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ ริมถนนใหญ่ เส้นทาง (ลำใหม่-โคกโพธิ์) ทางเข้าโรงเรียนตาดีกาอัตตัรบาวียะห์ เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์บอมบ์ของคนร้ายที่ประกอบระเบิด ชิ้นส่วนพังเสียหายเหลือแต่ซาก ตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซุกิ เจลดาโด้ สีน้ำตาลไหม้ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่จอดล้มอยู่ พร้อมกองเลือด ชิ้นส่วนวงจรอิเล็กททรอนิกส์ และเหล็กตัด กระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดตรวจสอบ
สวบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุข ตั้งฐานปฏิบัติการที่วัดเฉลิมนิคม (วัดลำใหม่) กำลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติหน้าที่งานมวลชน ที่โรงเรียนพัฒนาในพื้นที่ เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านทุ่งคา ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อปฏิบัติการณ์งานมวลชนในพื้นที่ต่อ ขณะขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน รถปิ๊กอัพ 1 คัน กำลังทั้งหมด 8 นาย โดยมี จ.ส.อ.ประทวน แดงดาน หัวหน้าชุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้กดระเบิด จักรยานยนต์บอมบ์ ด้วยวิทยุสื่อสาร ที่จอดไว้ข้างทาง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ททหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ทราบชื่อ ส.อ.สุริยา สหรุงเสือ อายุ 40 ปี และ ส.อ.สมยศ พลายงาม อายุ 38 ปี ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นการเร่งด่วน ล่าสุดทนพิษอาการบาดแผลไม่ไหว เสียเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ติดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนีอย่างกระชั้นชิด คาดเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์
ที่เกิดเหตุ อยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ ริมถนนใหญ่ เส้นทาง (ลำใหม่-โคกโพธิ์) ทางเข้าโรงเรียนตาดีกาอัตตัรบาวียะห์ เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์บอมบ์ของคนร้ายที่ประกอบระเบิด ชิ้นส่วนพังเสียหายเหลือแต่ซาก ตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซุกิ เจลดาโด้ สีน้ำตาลไหม้ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่จอดล้มอยู่ พร้อมกองเลือด ชิ้นส่วนวงจรอิเล็กททรอนิกส์ และเหล็กตัด กระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดตรวจสอบ
สวบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดสันติสุข ตั้งฐานปฏิบัติการที่วัดเฉลิมนิคม (วัดลำใหม่) กำลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติหน้าที่งานมวลชน ที่โรงเรียนพัฒนาในพื้นที่ เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านทุ่งคา ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อปฏิบัติการณ์งานมวลชนในพื้นที่ต่อ ขณะขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน รถปิ๊กอัพ 1 คัน กำลังทั้งหมด 8 นาย โดยมี จ.ส.อ.ประทวน แดงดาน หัวหน้าชุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้กดระเบิด จักรยานยนต์บอมบ์ ด้วยวิทยุสื่อสาร ที่จอดไว้ข้างทาง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ททหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ทราบชื่อ ส.อ.สุริยา สหรุงเสือ อายุ 40 ปี และ ส.อ.สมยศ พลายงาม อายุ 38 ปี ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นการเร่งด่วน ล่าสุดทนพิษอาการบาดแผลไม่ไหว เสียเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ติดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนีอย่างกระชั้นชิด คาดเป็นกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์
ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส.ยะลา
ยะลาเตรียมเปิดศึกฟาดแข้งฟุตบอล PEA YALA FA.CUP ครั้งที่ 14 ประจำปี 2557
วันนี้ 29 ม.ค.57 เวลา 14.30 น. ที่ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคใต้) จ.ยะลา ถนนยะลา-ปัตตานี ต.เขาตูม ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายวิเชียร ตุลยนิษก์ ผู้จัดการการไฟฟ้าเขต 3 ภาคใต้ จ.ยะลา และ นายนรชัย วุฒิเจริญมงคล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคยะลา ได้อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการแข่งขันฟุตบอล PEA YALA FA.CUP ครั้งที่ 14 ประจำปี 2557 จากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคใต้) และ แห่ไปรอบ ๆ เขตเทศบาลนครยะลา ก่อนที่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน นำถ้วยรางวัลไปประดิษฐานหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่วิทยาลัยเทคนิคยะลา ซึ่งใช้เป็นสนามในการจัดการแข่งขัน
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอล PEA YALA FA.CUP ครั้งที่ 14 ประจำปี 2557 นี้ มีทีมฟุตบอลในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 150 ทีม ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งจะมีการเริ่มรับสมัครทีมฟุตบอลในวันที่ 3 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ที่ โรงยิมวิทยาลัยเทคนิคยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และ จะเริ่มเปิดสนามทำการแข่งขันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป สำหรับทีมชนะเลิศจะได้ครองแชมป์ ถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดมูลค่า 150,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับถ้วยจาก นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดมหาดไทย ประธานบอร์ดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมเงิน 70,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 รับถ้วยจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต.พร้อมเงิน 30,000 บาท ผู้เล่นยอดเยี่ยม รับถ้วยจาก นายพงษ์ศักดิ์ สิทธิพงศ์ พร้อมเงิน 5,000 บาท ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รับจาก นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ผู้ทำประตูสูงสุด รับจาก นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ทีมมารยาทยอดเยี่ยม รับถ้วยจาก นายนรชัย วุฒิเจริญมงคล ผอ.วิทยาลัยเทคนิคยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ส่วน 8 ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบ จะได้เงินรางวัลทีมละ 10,000 บาท อีกด้วย
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอล PEA YALA FA.CUP ครั้งที่ 14 ประจำปี 2557 นี้ มีทีมฟุตบอลในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 150 ทีม ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งจะมีการเริ่มรับสมัครทีมฟุตบอลในวันที่ 3 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ที่ โรงยิมวิทยาลัยเทคนิคยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และ จะเริ่มเปิดสนามทำการแข่งขันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป สำหรับทีมชนะเลิศจะได้ครองแชมป์ ถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดมูลค่า 150,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับถ้วยจาก นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดมหาดไทย ประธานบอร์ดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมเงิน 70,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 รับถ้วยจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต.พร้อมเงิน 30,000 บาท ผู้เล่นยอดเยี่ยม รับถ้วยจาก นายพงษ์ศักดิ์ สิทธิพงศ์ พร้อมเงิน 5,000 บาท ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รับจาก นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ผู้ทำประตูสูงสุด รับจาก นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ทีมมารยาทยอดเยี่ยม รับถ้วยจาก นายนรชัย วุฒิเจริญมงคล ผอ.วิทยาลัยเทคนิคยะลา พร้อมเงิน 5,000 บาท ส่วน 8 ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบ จะได้เงินรางวัลทีมละ 10,000 บาท อีกด้วย
นายนิแอ สามะอาลี / ข่าว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ ร.ต.ต.นิยม สุวรรณมณี เหยื่อคนร้ายลอบวางระเบิดที่ธารโต
วันนี้ 29 ม.ค. 57 เวลา 17.30 น. ที่ ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดเนรัญชราวาส เขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประธานในพิธีอัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน วางหน้าหีบศพ ร.ต.ต.นิยม สุวรรณมณี อายุ 54 ปี ตำแหน่ง รอง.สว.สส.สภ.ธารโต ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ บริเวณทางโค้งบนถนนสายบ้านแหร – บ้านบัวทอง หมู่ที่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะนั่งรถยนต์ตราโล่ของทางราชการ หมายเลขทะเบียน 93085 พร้อมลูกน้องรวม 5 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่บ้านบัวทอง เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 24 ม.ค.57 ที่ผ่านมา
ภายในงานมี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอบันนังสตา นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต ข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และครอบครัวเข้าร่วมในพิธี โดยกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.นิยม สุวรรณมณี ในวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ นี้
ภายในงานมี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอบันนังสตา นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต ข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และครอบครัวเข้าร่วมในพิธี โดยกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.นิยม สุวรรณมณี ในวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ นี้
นายนิแอ สามะอาลี / ข่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)