วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์

จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งศูนย์ดำรงธรรม รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ และให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้มีประกาศ คสช.ฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัด และให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัดสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและประชาชนได้รับความพึงพอใจ ดังนั้น จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการข่าวร่วม ตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว รวมทั้งการพัฒนาจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล การป้องกันภัยพิบัติสาธารณะ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า และทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การคุ้มครองป้องกันหรือช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรมและการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม ตามนโยบายของรัฐบาล

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า) ชั้น 2 หมายเลขโทรศัพท์ 0 7534 8028

จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ

จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Service) ตามนโยบาย คสช. คาดมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายไปจดทะเบียนกว่า 7,000 คน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้(22 ก.ค.57) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Service)จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ ศาลาประชาคมอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการทำหน้าที่พิจารณาออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้แก่คนต่างด้าว เริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้(22 ก.ค.57) ถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นในนโยบายของ คสช.ว่าจะส่งผลให้มีการจัดระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าวดีเป็นอย่างยิ่ง และจะส่งผลให้ระบบของการจ้างแรงงานต่างด้าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลในการส่งเสริมในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Service) ทำให้ได้รับบริการเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย ทั้งผู้ใช้แรงงานและเจ้าของธุรกิจเอกชน ก็ได้รับความสะดวกมาที่เดียวได้รับบริการทุกเรื่อง สามารถลดขั้นตอน ประหยัดค่าใช้จ่ายและโปร่งใส โดยมีการเก็บค่าบริการเพียงคนละ 1,305 บาท ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชใช้ศาลาประชาคมอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ดำเนินการเริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้(22 ก.ค.57) ถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ยกเว้นวันที่ 12 สิงหาคม 2557 หยุดให้บริการหนึ่งวัน โดยสามารถให้บริการได้วันละประมาณ 200-300 คน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายประมาณ 7,332 คน แยกเป็นสัญชาติพม่า 4,571 คน ลาว 1,228 คน และกัมพูชา 1,533 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาชีพประมง อาชีพกิจการต่อเนื่องการเกษตร อาชีพเกษตรและปศุสัตว์ อาชีพก่อสร้าง ตามลำดับ โดยกระจายอยู่ในทุกอำเภอมากที่สุดคือ อำเภอขนอม รองลงมาอำเภอเมือง สิชล ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ สำหรับแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายมี จำนวน 13,590 คน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแล้ว เจ้าหน้าที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป

โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทร์ นครศรีธรรมราช จัดพิธีรำลึกและถวายราชสุดดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทร์ นครศรีธรรมราช จัดพิธีรำลึกและถวายราชสุดดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

วันนี้ (22 ก.ค.57) เวลา 08.30 น. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 18 กรกฎาคม ซึ่งโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ นครศรีธรรมราชจัดขึ้น เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ทรงพระราชทานเงินเพื่อก่อสร้างโรงเรียนกว่า 184 แห่ง และทรงรับเอาโรงเรียนของตำรวจตระเวนชายแดนไว้ในพระราชาอุปถัมภ์ โดยมีคณะผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วมในพิธี และโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประดับเครื่องหมายชุดพิธีการให้แก่นักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ นครศรีธรรมราชด้วย

ทั้งนี้ วันที่ 18 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งในปี พ.ศ. 2557 เป็นปีที่ 19 แห่งการสวรรคต

ชาวตรังพร้อมใจกันใส่ชุดขาว ร่วมปฏิบัติธรรม และทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 70 รูป “มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ”

ที่บริเวณวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางณัฐพิศุทธิ์ เหมทานนท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นายนิพันธ์ ศิริธร ปลัดจังหวัดตรัง และนายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมพิธีปฏิบัติธรรม และทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 70 รูป ตามโครงการมหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ ระหว่างวันที่ 22-27 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับพิธีที่กระทรวงมหาดไทยจัดขึ้น ณ มณฑลท้องสนามหลวง ทั้งนี้ เพื่อสนองนโยบายตามแนวทางดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดตรัง (ศปป.จ.ตรัง) กำหนดจัดกิจกรรมพิธีทำบุญตักบาตร "มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ” จังหวัดตรัง ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคี และพร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกันเดินหน้าประเทศไทยไปสู่ความสงบสุข
   

ประชาชนตำบลน้ำผุดและตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง สนใจร่วมฟังผลเจาะเลือดกับอบจ.ตรัง

ที่ โรงแรมวัฒนาพาร์ค อำเภอเมืองตรัง นายกิจ หลีกภัย นายกอบจ.ตรัง เป็นประธานและร่วมฟังผลเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ ตามโครงการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน ในเขตพื้นที่ จ.ตรัง ประจำปี 2557 โดยวันนี้เป็นการฟังผลของประชาชนในเขตอำเภอเมืองตรังประกอบด้วย 2 ตำบลคือตำบลน้ำผุดและตำบลนาพละ โดยมีนายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการกลุ่มงานโสต ศอ นาสิก รพ.ตรังให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนนำไปปฏิบัติและขยายผลการเฝ้าระวังถึงคนในครอบครัว และในชุมชนต่อไป โครงการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน ในเขตพื้นที่จ.ตรัง ประจำปี 2557 อบจ.ตรัง ได้ตั้งงบประมาณไว้ 18 ล้านบาท เพื่อทำการเจาะเลือด เก็บตัวอย่างปัสสาวะให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดตรัง จำนวน 30,000 คน ซึ่งจะทำการตรวจร่างกายให้ 14 รายการประกอบด้วยวัดความดัน,ชั่งน้ำหนัก,ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด,ตรวจปัสสาวะสมบูรณ์แบบ,ตรวจหาหมู่เลือด,ตรวจหาไขมันความหนาแน่นต่ำในเลือด,ตรวจการทำงานของไต,ตรวจการทำงานของไต,ตรวจวัดระดับยูริค(โรคเก๊าท์),ตรวจการทำงานของตับ,ตรวจระดับแคลเซียมในเลือด,ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์,ตรวจหามะเร็งจากกลุ่มเสี่ยงร้อยละ 10 หรือ 3,000 คน (ผู้ชายจะตรวจ 3จุดคือ ตับ ลำไส้ และต่อมลูกหมาก ผู้หญิงจะตรวจ มะเร็งเต้านม ปากมดลูก ลำไส้และท่อรังไข่) และปีนี้เพิ่มการตรวจไวรัสตับ ซึ่งหากประชาชนไปตรวจสุขภาพที่รพ.ทั่วไปตามรายการดังกล่าวทั้ง 14 รายการต้องมีค่าใช้จ่ายคนละไม่ต่ำกว่า 3 พันบาท แต่ทางอบจ.ตรังจัดบริการตรวจให้ฟรี

จ.ตรัง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ตามนโยบาย คสช. โดยมีผู้มาจดทะเบียนกันคึกคัก

ที่จังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยเปิดรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย 3 สัญชาติ คือ เมียนม่าร์ ลาว กัมพูชา ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัด ซึ่งเปิดรับจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2557 โดยใช้ อาคารศูนย์คลีนิกอาเซียนตรัง (สำนักงานกาชาดตรังหลังเก่า) ถ.รื่นรมย์ อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพื้นที่ดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) จังหวัดตรัง ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวที่จะจดทะเบียนจะเป็นแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง ผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง มีสถานที่ทำงานและนายจ้างชัดเจน โดยค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการจัดทำทะเบียนประวัติ ,ใบอนุญาตทำงาน ,ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ รวม 1,305 บาท ต่อแรงงาน 1 คน โดยจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนได้วันละประมาณ 200 ราย สำหรับนายจ้างและผู้ประกอบการในจังหวัดตรัง ที่ต้องการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2557 หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง ศาลากลางจังหวัดตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลข 075-214027-8

ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามสถานการณ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ตรวจเยี่ยมการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าววันแรกของจังหวัดตรัง

ที่ห้องประชุม กอ.รมน.จว.ตรัง พลตรี สนธิรัตน์ นาครัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามสถานการณ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และคณะเดินทางมารับฟังบรรยายสรุปจาก พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง (ทหาร) โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง ได้สรุปถึงสถานการณ์ต่างๆที่ได้ปฏิบัติงานตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามยาเสพติด การตัดไม้ทำลายป่า การตรวจยึดอาวุธสงคราม การปราบสิ่งผิดกฎหมาย และอื่นๆ ซึ่งผลงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง เป็นที่น่าพอใจ และอาจนำไปเป็นโมเดลให้กับจังหวัดอื่นๆอีกด้วย หลังจากนั้นได้ลงมาตรวจเยี่ยมลงขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวของจังหวัดตรัง ที่จัดขึ้นเป็นวันแรก พร้อมทั้งกล่าวว่าการปฏิบัติงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนในการอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เป็นที่น่าชื่นชมและมีการทำงานอย่างเป็นระเบียบกว่าหลายจังหวัด

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตรัง จัดอบรมโครงการ “ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA”

ที่ห้องประชุมศรีตรัง วิทยาลัยเทคนิคตรัง นายภิญโญ ภู่ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการ "ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA” โครงการ "ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA” เป็นโครงการที่เกิดขึ้น ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ((PEA) กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้ในการตรวจสอบ ปรับปรุง และแก้ไข ระบบไฟฟ้า ภายในอาคารให้กับนักเรียน นักศึกษา สาขาวิชาช่างไฟฟ้า ระดับ ปวช.และ ปวส. ของสถานศึกษาสังกัด สอศ. และเพื่อส่งเสริมนักเรียน นักศึกษา นำทักษะ และประสบการณ์วิชาชีพไปให้บริการประชาชน ตลอดจนเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนและเยาวชนในการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างถูกต้อง ปลอดภัย ประหยัด และลดอุบัติภัยจากการใช้ไฟฟ้า รวมถึงมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน ทั่งนี้ในการดำเนินการโครงการจะจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ เกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างถูกต้องปลอดภัย ประหัด และความรู้เบื้องต้นในการแก้ไขอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นเวลา 1 วัน นอกจากนี้ให้นักศึกษาที่เข้ารับการอบรมตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า วันละ 10 ครัวเรือน และหลังจากเสร็จสิ้นโครงการฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะสามารถให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ จำนวน 6,000 ครัวเรือนโดยมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการจำนวน 150 คน สำหรับในช่วงบ่ายหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม จะปล่อยขบวนรถ นำนักศึกษา ออกให้บริการ ตรวจสอบ และแก้ไข อุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือน โรงเรียนต่าง ๆ อาคารต่าง ๆ ให้กับชุมชนต่อไป

จังหวัดชุมพรเตรียมจัดงาน สัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานภาคใต้ตอนบนประจำปี 2557

จังหวัดชุมพรเตรียมจัดงาน สัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน ภาคใต้ตอนบน ประจำปี 2557 ในระหว่างวันที่ 1 - 2 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมนานาบุรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เพื่อรณรงค์ให้ภาครัฐ และเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญขอความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยของคนทำงาน พร้อมกับทบทวนปัญหาความไม่ปลอดภัย ในการทำงาน ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย และสุขภาพอนามัยในการทำงาน เพื่อไปสู่เป้าหมาย ในการลดการเกิดอันตราย และโรคอันเนื่องมาจากการทำงานลงให้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในภาพรวม

ซึ่งในพิธีเปิดงานได้เชิญ นายพานิช จิตร์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มาเป็นประธาน  โดยในงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน ภาคใต้ตอนบน ประจำปี 2557 ครั้งนี้ ได้กำหนดจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยไว้มากมาย อาทิ การมอบรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านความปลอดภัย การจัดนิทรรศการความปลอดภัย เวทีเสวนาเรื่องการพัฒนาความปลอดภัยในการทำงาน สัมมนาวิชาการเรื่องการทำงานเกี่ยวกับไบโอแก๊สและไบโอดีเซลให้ปลอดภัย การประกวดบทความวิชาการ การสาธิตทีมฉุกเฉิน และอีกมากมาย

นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ชุมพร เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ กำหนดชื่องานว่า วัฒนธรรมความปลอดภัย ปรองดองทั่วไทย เทิดไท้สถาบัน  โดยมุ่งเน้นเพื่อเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นสถาบันสูงสุดของชาติ และเพื่อให้บุคลากรที่เป็นเครือข่ายของกระทรวงแรงงาน เป็นแกนนำสร้างความปรองดองในสถานประกอบกิจการ และชุมชนข้างเคียงภายนอกให้สถานประกอบกิจการต่างๆ ตลอดจน การร่วมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย  เพื่อให้ลูกจ้างได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม และเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศในการก้าวสู่เวทีการค้าโลกรวมทั้งก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ อีกด้วย

ผลการประกวด Miss Pretty OTOP 2014 จังหวัดชุมพร

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 21.00 น.  นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในการมอบถ้วยรางวัลและสายสะพาย  Miss Pretty OTOP 2014 จังหวัดชุมพร ณ บริเวณลานจอดรถด้านหน้าโรงแรมชุมพรแกรนด์พาเลช อำเภอเมืองจังหวัดชุมพร โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชุมพร จัดขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ในงานมหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดชุมพร "อลังการงานช็อป โอทอป ทั่วไทย" เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมเยาวชนในจังหวัดชุมพร ได้แสดงความสามารถ ที่โดดเด่น ในการประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ผลิตภัณฑ์ชุนชน OTOP ชุมพร พร้อมกับยังเป็นการประชาสัมพันธ์งานในครั้งนี้

โดยการประกวด Miss Pretty OTOP 2014 จังหวัดชุมพร ในครั้งนี้ มีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนและกลุ่มเครือข่ายองค์กร ชุมชน จัดส่งผู้เข้าประกวดรวม 20 คน ซึ่งผลการประกวดปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศได้แก่ น.ส.พจนีย์ รอดสิน ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย ส่วน น.ส.สุริฉาย จันทรา คว้าไปถึง 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินรางวัล 10,000 บาท, รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน เงินรางวัล 8,000 บาท, และรางวัลพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ OTOP ดีเด่น เงินรางวัล 10,000 บาท, ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ น.ส.วงค์ผกา ยมศิริ ได้รับเงินรางวัล 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย  รางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ น.ส.ปิยาภรณ์ อัจกลับ ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและสายสะพาย

ด้านนายอรรณพ สุจริตฉันท์ พัฒนาการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า การจัดประกวด Miss Pretty OTOP 2014 จังหวัดชุมพร ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ชุมพร จะจัดงานในรูปแบบ มหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดชุมพร แบบนี้อีก เพื่อช่วยส่งเสริม ผลักดัน เพิ่มมูลค่า รวมถึงการเปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาการค้าระหว่างผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ของจังหวัดชุมพร อีกด้วย

จังหวัดกระบี่จัดกิจกรรม โครงการ มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนไทยในชาติทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 59 รูป

จังหวัดกระบี่จัดกิจกรรม โครงการ มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนไทยในชาติทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 59 รูป

วันนี้ 22 ก.ค.57เมื่อเวลา 06.30 น. ณ.วัดแก้วโกรวาราม พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน กว่า 100 คน ร่วมทำบุญตักบาตร ในกิจกรรม “มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ”

สำหรับกิจกรรมในวันนี้นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ร่วมกับข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 59 รูป ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียน ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นมีพิธีอาราธนาศีล พระปัญญาวุธ ธรรมคณี เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา จากนั้นประธานในพิธีพร้อมแขกผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่ประธานสงฆ์ และพระสงฆ์ ประธานสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา และประธานในพิธี พร้อมด้วยส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน ร่วมทำบุญใส่บาตรอาหารแห้งพระสงฆ์ จำนวน 59 รูป เป็นอันเสร็จพิธี

จังหวัดกระบี่ เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Sarvice)

จังหวัดกระบี่เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Sarvice)
วันนี้ 22 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.30 น. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Sarvice) ณ ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน ถ.ท่าเรือ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีนายสมควร ขันเงิน ปลัดจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน มีนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมาเข้ารับบริการจดทะเบียนกันอย่างคึกคัก

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเป็นการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายและต้องมีความโปร่งใส ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการผ่อนปรน ของ คสช.จึงขอให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ที่ผิดกฎหมายให้นำมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง เพราะหลังจากพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้วจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

ซึ่งในการดำเนินการนี้ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ เช่น หน่วยงานสังกัดกะทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ สำหรับจังหวัดกระบี่ จากการสำรวจพบว่า แรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสัญชาติพม่า ลาวและกัมพูชา มีจำนวนรวม 4,377 คน เป็นลูกเรือประมง 38 คน ที่เหลือรับจ้างก่อสร้าง และการเกษตร ตั้งเป้าเปิดให้บริการจดทะเบียนได้วันละไม่ต่ำกว่า 200 คน โดยได้กำหนดเป็นรายอำเภอ เริ่มต้นจากอำเภอเมือง เป็นลำดับแรก จนครบ 8 อำเภอ