วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผู้ ว่าฯสงขลา นำส่วนราชการ ออกหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ”และรับฟังปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน ในพื้นที่อำเภอสะเดา

วันนี้ (8 พ.ค.57) ที่สำนักสงฆ์คลองยนต์ ม.6 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการ เหล่ากาชาด และภาคเอกชน ออกหน่วยเคลื่อนที่ ตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ” และโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จ.สงขลา เพื่อออกบริการ และพบปะเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ร่วมกับ สำนักงานสัสดีจังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าประจำเดือนนี้ ซึ่งได้รับเงินบริจาค กว่า 100,000 บาท เงินดังกล่าวได้มอบให้ทางอำเภอสะเดา เพื่อจะนำเงินไปพัฒนาวัด มัสยิดและ โรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดารของ อ.สะเดา

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ เป็นโครงการที่ จังหวัดได้จัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในเชิงรุก โดยให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จัดหน่วยบริการของแต่ละหน่วยงานมาให้บริการและเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ ห่างไกล และในโอกาสที่มาเยี่ยมเยือนครั้งนี้ จังหวัดจะขอความร่วมมือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ช่วยดูแล เร่งรัดป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีเป้าหมาย คือ ทำทุกหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจาก อ.สะเดา เป็นพื้นที่ชายแดน แม้จะไม่เป็นพื้นที่เป้าหมายในการก่อการร้าย แต่ไม่ควรประมาท แต่ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ความร่วมมือกับทางราชการ และในการสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้าที่อาจเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ และสำหรับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่แล้ว เช่น การตัดต้นไม้ขวางถนน หรือโปรยตะปูเรือใบ ขอให้ผู้นำท้องถิ่น เข้าเคลียร์พื้นที่โดยตรง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และมีความรู้ความชำนาญในพื้นที่เป็นอย่างดี และอีกประการหนึ่ง  อ.สะเดา ได้มีด่านชายแดนไทย – มาเลเซีย ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อป้องกันกลุ่มผู้อพยพที่หนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาวโรฮิงญา กลุ่มชาวอุยกูร์ หรือกลุ่มอื่น ๆ และสิ่งสุดท้าย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันดูแล ป้องกัน ปัญหาการบุกรุกป่า และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้แจ้งเบาะแส ไม่ว่าจะเป็นการบุกลุกทำลายป่า หรือการลักลอบดูดทราย ซึ่งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมในพื้นที่

สำหรับวันนี้ปัญหาความเดือนร้อน ความต้องการของประชาชน ทางผู้นำท้องถิ่นได้เสนอให้ผู้ว่ารากชารจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี 3 ประเด็น คือ การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค การบุกรุกที่ดินทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และการขยายเขตไฟฟ้า จังหวัดได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจ้ง ทำความเข้าใจกับประชาชน และจะดำเนินการภายหลังจากนี้ จากนั้นจะได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานให้ผู้ว่าราชการทราบในโอกาสต่อไป

พังงา ครองแชมป์ ๓ เทศกาลซ้อน ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์

นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายสมเกียรติ อินทรคำ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและธารณภัยจังหวัดพังงา นางณัชชา พราหมณ์ยอด ขนส่งจังหวัดพังงา และนางสุดฤทัย เลิศเกษม ประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา และนายประดิษฐ์ เจริญงาน นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านส่งเสริมพัฒนา) เดินทางเข้ารับโล่ประกาศเกียรติยศพร้อมเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐บาท ด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนดีเด่น "สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” จาก ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ณ ห้องประชุมพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรัฐบุรุษฯ ชั้น ๔ ถ.อู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพ เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา โดยจังหวัดพังงาถือเป็นจังหวัดดีเด่นอันดับต้น ที่ประสบผลสำเร็จในการรณรงค์ป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล ทั้งนี้พังงาครองสถิติ แชมป์ ๓ เทศกาลซ้อน ที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ประกอบด้วยช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.๒๕๕๖, พ.ศ. ๒๕๕๗ และเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๗ ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้เอง

สำหรับโล่รางวัลเกียรติยศจังหวัดดีเด่น ที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันไม่ให้มีผู้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน มีสถิติผู้เสียชีวิตในเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๗ เป็นศูนย์ จำนวน ๕ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดพังงา จังหวัดชัยนาท จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดยะลา ส่วนจังหวัดกลุ่มโซนสีแดงที่สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ ๕๐ จากปีที่ผ่านมา ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดกาญจนบุรี

สสจ.พังงา จัดงานมหกรรม “เมืองพังงาร่วมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมกลูก และกิจกรรมวันพยาบาลสากล ประจำปี ๒๕๕๗” ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และสอนการตรวจมะเร็งเต้านม

วันนี้ ๘ พ.ค. ๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ร่วมกับโรงพยาบาลจังหวัดพังงา จัดงานมหกรรม "เมืองพังงาร่วมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมกลูก และกิจกรรมวันพยาบาลสากล ประจำปี ๒๕๕๗” โดยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ตรวจมะเร็งเต้านม และสอนการตรวจมะเร็งเต้านมให้แก่ เจ้าหน้าที่สาธาณสุข พยาบาล และ อสม. ในเขต อ.เมืองพังงา ๒๔๐ คน ณ ห้องประชุมปันหยี อ.เมืองพังงา พร้อมทั้งจัดนิทรรศการด้านสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไปฟรี โดยมีนายประดิษฐ์ เจริญงาน นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านส่งเสริมพัฒนา) เป็นประธานตัดริบบิ้นและกล่าวเปิดงานดังกล่าว

มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า ๑๐ ลำดับแรกของผู้หญิงไทยที่ป่วยโรคมะเร็ง เป็นมะเร็งเต้านมลำดับที่ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๕ และมะเร็งปากมดลูก เป็นลำดับที่ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๑๔.๔๐ สำหรับโรคมะเร็งเต้านมพบว่าเป็นสาเหตุการตายลำดับที่ ๑ ของประเทศ และอัตราแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี มีรายงานพบว่ามะเร็งเต้านมหากตรวจพบในระยะเริ่มแรก ในขนาดที่มีขนาดเล็กน้อยกว่า ๑ ซม. และยังไม่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลือง จะเป็นระยะที่มีผลการรักษาที่ดี ผู้ป่วยจะมีการรอดชีวิตในช่วง ๕ ปี ประมาณร้อยละ ๙๐ ดังนั้นการตรวจคัดกรองโดยการตรวจเต้านมอย่างถูกวิธีและเป็นประจำทุกเดือน สามารถตรวจพบความผิดปกติของเต้านมได้ตั้งแต่ระยะก่อนเป็นมะเร็ง ผู้หญิงไทยจะปลอดภัยจากมะเร็งเต้านมได้

ด้านนายแพทย์วิษณุ โล่ห์สิริวัฒน์ อาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาลตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองนั้นแนะนำให้ตรวจเดือนละ๑ ครั้งในผู้หญิงทั่วไป หรืออายุตั้งแต่ ๒๐ ปีขึ้นไปก็เริ่มตรวจได้แล้ว โดยควรตรวจหลังหมดประจำเดือนประมาณ ๗-๑๐ วัน ซึ่งเป็นช่วงที่เต้านมนุ่มสุดและควรตรวจระหว่างอาบน้ำกำลังดี เริ่มแรกให้ดูจากลักษณะรูปทรงเต้านมของตัวเองหน้าที่กระจกก่อน ส่วนการตรวจเบื้องต้นให้ใช้บริเวณปลายนิ้วมือคลำบริเวณเต้านมให้ทั่ว ในรูปแบบก้นหอยโดยคลำจากบริเวณด้านนอกเข้าในหรือจากด้านในออกนอกก็ได้ หลังจากนั้นให้มาตรวจบริเวณหัวนมและลานหัวนมเพื่อที่จะดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง โดยวิธีกดบีบตรงที่ลานหัวนมเบาๆ และแนะนำให้ตรวจที่บริเวณรักแร้ด้วย ที่ต้องตรวจบริเวณรักแร้เพราะรักแร้จะมีต่อมน้ำเหลือง ถ้าเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งก็จะมีการกระจายมาที่ต่อมน้ำเหลืองได้ อย่างไรก็ดีถ้าเกิดอาการผิดปกติในร่างกายขึ้น ก็ขอให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอีกที เพื่อความแม่นยำในการวินิจฉัยโรค

จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เพิ่มชื่อภาษาอังกฤษในป้ายของหน่วยงาน

จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เพิ่มชื่อภาษาอังกฤษในป้ายของหน่วยงาน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เพิ่มชื่อภาษาอังกฤษในป้ายของหน่วยงาน รวมทั้งป้ายบอกเส้นทาง และป้ายแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ว่าที่ ร.ต. ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเตรียมความพร้อมของจังหวัดในการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ส่วนราชการทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัด ทั้งส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และรัฐวิสาหกิจ เพิ่มภาษาอังกฤษในป้ายชื่อของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งป้ายเส้นทาง ป้ายแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมทั้งให้รายงานผลให้จังหวัดทราบด้วย

ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จังหวัดยังได้ให้ทุกส่วนราชการตั้งมิสเตอร์อาเซียน ประจำหน่วยงาน เพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลอาเซียน ให้ความรู้ ตอบข้อซักถามแก่ผู้ไปติดต่อของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน และจังหวัดยังได้จัดทำเว็บไซต์ “ศูนย์ข้อมูลอาเซียนจังหวัดนครศรีธรรมราช” โดยสามารถสืบค้นข้อมูลอาเซียนได้ที่ http://asean.nakhonsithammarat.go.th. หรือ http:// 123.242.178.1 ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ สนับสนุนข้อมูลอาเซียนให้สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนำลงในเว็บไซต์อาเซียนด้วย

ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์

วันนี้ (8 พฤษภาคม 2557) ว่าที่ร้อยตรีฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ระดับจังหวัด โดยที่ประชุมได้พิจารณาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ผลักดันให้การสหกรณ์เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศอย่างยั่งยืน ในขณะที่แนวทางการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปีงบประมาณ 2557 ได้กำหนดไว้ คือ การสร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะการสหกรณ์สู่วิถีชีวิตในชาติ มีการกำหนดการเรียนรู้สหกรณ์เข้าสู่ระบบการศึกษา โดยการสร้างและพัฒนาเครือข่ายครูผู้สอนวิชาสหกรณ์ ประกวดสถานศึกษาต้นแบบการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ การยกระดับการเรียนรู้การสหกรณ์ในขบวนการสหกรณ์ จัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตคุภาพ โครงการพัฒนากลุ่มผู้ผลิตผลไม้สู่มาตรฐาน การสร้างตลาดสินค้าสหกรณ์ในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีโครงการจัดงาน “7 มิถุนายน วันกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ปี 2557” ตามรอยพระยุคลบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้มีการจัดการเรียนรู้วิชาการสหกรณ์ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ทรงดำริให้โรงเรียนต่าง ๆ จัดการสอนการสหกรณ์เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ โดยเมื่อจบการศึกษาสามารถเป็นสมาชิกสหกรณ์ที่ดีกับสหกรณ์ที่มีอยู่ในประเทศได้ ในขณะที่สถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมีการจัดกิจกรรมสหกรณ์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้เรียน โดยกำหนดจัดงานขึ้นในวันที่ 7 มิถุนายน 2557 ณ โรงเรียน ตชด. บ้านยูงงาม อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในงานกำหนดให้มีกิจกรรมเด่น การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ การจัดการเรียนรู้ด้านการสหกรณ์ในโรงเรียน และการออมทรัพย์ กำหนดให้มีการประกวดสมาชิกสหกรณ์นักเรียนดีเด่น การประกวดเรียงความเกี่ยวกับสหกรณ์ การตอบปัญหาเกี่ยวกับสหกรณ์



พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
 8 พฤษภาคม 2557

สำนักงาน คปภ.จังหวัดตรัง กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองค่ารักษาพยาบาลในส่วนของค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น"

นายสนอง  แสงสิริกาญจนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดตรัง (สำนักงาน คปภ.จังหวัดตรัง) ร่วมกับ ชมรมประกันวินาศภัยจังหวัดตรัง ซึ่งประกอบด้วยบริษัทประกันวินาศภัยสาขาจังหวัดตรัง จำนวน 15 บริษัท  และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง โรงพยาบาลตรัง ได้ร่วมกันจัดทำ "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการออกหนังสือรับรองค่ารักษาพยาบาลในส่วนของค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น

ผอ.สำนักงาน คปภ.จัังหวัดตรัง ยังกล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบกรณีที่มีค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดประสบภัยจากรถส่วนที่เกินจากค่าเสียหายเบื้องต้น (เกิน 15,000 บาท) บริษัทประกันวินาศภัยจะออกหนังสือรับรองค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวให้กับโรงพยาบาลตรัง ทำให้ผู้ประสบภัยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินดังกล่าวแล้วมาเบิกคืนทีหลัง  ทางสำนักงาน คปภ.จังหวัดตรัง ชมรมประกันวินาศภัยจังหวัดตรัง และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง โรงพยาบาลตรัง  จึงได้กำหนดพิธีลงนามข้อตกลงนี้ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเฟื่องฟ้า โรงพยาบาลตรัง  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 075-222613 สายด่วนประกันภัย  Hot Line 1186  เว็บไซต์  www.oic.or.th
   
   
   

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตรัง รับสมัครลูกจ้างเหมาบริการ จำนวน 1 อัตรา

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตรัง มีความประสงค์จะจ้างลูกจ้าง ตำแหน่ง จ้างเหมาบริการ จำนน 1 อัตรา เพื่อปฏิบัติงานที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตรัง ระยะเวลาการจ้าง เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ถึงเดือนกันยายน 2557 มีรายละเอียดดังนี้

1. จ้างเหมาบริการดูแลทำความสะอาดเรียบร้อยของอาคารสำนักงาน หน่วยตรวจสอบฯ และบริเวณรอบ ๆ ศูนย์ฯ

เงินเดือน 6,000 บาท / เดือน จำนวน 1 อัตรา

คุณสมบัติของผู้สมัคร

- เพศหญิง อายุไม่น้อยกว่า 18 ปี บริบูรณ์
- วุฒิการศึกษา ประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ขึ้นไป
- สุขภาพร่างกาย แข็งแรง สมบูรณ์

หลักฐานการสมัคร

- สำเนาวุฒิการศึกษา                       จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน           จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้าน                        จำนวน 1 ฉบับ
- รูปถ่าย ขนาด 1-2 นิ้่ว                     จำนวน 1 รูป
- ใบรับรองแพทย์

สมัครด้วยตนเองที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตรัง  เลขที่ 200 ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ตั้งแต่วันที่ 6-23 พฤษภาคม 2557 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 และสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น.  สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 075-274077-8
   
   
   
   

จ.ตรัง ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดตรัง ประจำปี 2557

ที่ห้องประชุมหยงหลิง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดตรัง ประจำปี 2557 ทั้งนี้สืบเนื่องจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ เพื่อเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อยกย่องแม่ดีเด่น และลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ กิจกรรมที่สำคัญประการหนึ่งในวันแม่คือ การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตามหลักเกณฑ์ฯที่กำหนด จังหวัดละ 1 คน สำหรับในส่วนของจังหวัดตรังในปีนี้ มีผู้เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ 4 ราย ประกอบด้วย แม่ดีเด่นประเภท แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม จำนวน 2 ราย คือ นางสวาทวรรณ์ มนัสนิโลบล จากอำเภอปะเหลียนและนางสุภา กันตังกุล จากอำเภอกันตัง แม่ดีเด่นประเภท แม่ของผู้เสียสละ จำนวน 2 ราย คือ นางบุญลาภ วีระสุข จากอำเภอรัษฎา และนางละมุล หลักศิลา จากอำเภอสิเกา ซึ่งผลการคัดเลือกจะทางจังหวัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

จ.ตรัง ประชุมฝึกซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ระดับกลุ่มจังหวัด และการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม

ที่ห้องประชุมพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5 นายสาธร นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมฝึกซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ระดับกลุ่มจังหวัด และการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม จังหวัดตรัง ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ดำเนินการฝึกซ้อมแผนช่วยเหลือภัยพิบัติจากพายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ระดับกลุ่มจังหวัด และการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มจังหวัดตรัง โดยกำหนดฝึกซ้อมแผนฯ พร้อมกันในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 5 จังหวัด คือ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง และ จ.ตรัง เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งประกอบด้วย ส่วนราชการ ภาคเอกชน มูลนิธิ อาสาสมัคร และประชาชน ทั้งในจังหวัดและระดับกลุ่มจังหวัด มีความรู้ ความเข้าใจ มีความพร้อมรับมือกับสาธารณภัยดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วเป็นระบบอันจะนำไปสู่ความปลอดภัยและลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ได้กำหนดจัดการฝึกซ้อมระหว่างวันที่ 20-21 พฤษภาคม นี้ ณ บริเวณน้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

ผู้ว่าฯ ตรัง เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมแต่งกายชุดขาวปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลวิสาบูชา ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2557

นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2557 จังหวัดตรังได้กำหนดจัดกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2557 เพื่อเผยแพร่หลักธรรม ตลอดจนรักษาประเพณีอันดีงามของพุทธศาสนา ให้สมกับที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปีเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาแห่งสากล โดยในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2557 ทั้งนี้ จังหวัดตรัง จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมแต่งกายด้วยชุดขาวหรือชุดปฏิบัติธรรมสีขาวตลอดสัปดาห์ พร้อมทั้งเชิญชวนเข้าวัด ถือศีล ฟังธรรม ลด ละ เลิก อบายมุข และร่วมประดับธงสัญลักษณ์พระพุทธศาสนาและธงชาติตามอาคารบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ และร่วมเวียนเทียนโดยพร้อมเพรียงกัน

LOGISPOST WORLD ขนส่งระหว่างประเทศแบบประหยัด

นายสุรพงษ์  เจียพงษ์  ผู้จัดการฝ่ายไปรษณีย์เขต 8 กล่าวว่า โลจิสโพสต์เวิลด์ (LOGISPOST WORLD) เป็นบริการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ไปบังปลายทางต่างประเทศเหมาะสำหรับของที่มีน้ำหนักมากหรือมีบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 20-200 กก. สามารถฝากส่งได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 89 แห่งที่เปิดให้บริการ มีระบบการติดตามและตรวจสอบสิ่งของด้วย Track & Trace ผ่านเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th

เงื่อนไขการฝากส่ง
-  สิ่งของที่ส่งจะต้องบรรจุและหุ้มห่ออย่างเรียบร้อยในกล่องพัสดุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อพร้อมขนส่ง
-  สิ่งของที่ส่งต้องผ่านการดำเนินพิธีการศุลกากรก่อนนำส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์
-  เปิดให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 89 แห่งทั้งในกรุงเทพและภูมิภาค

ประเทศปลายทางที่เปิดให้บริการโลจิสโพสต์เวิลด์ 32 ประเทศทั่วโลก สหรัฐ อเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย อินเดีย อินโดนิเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน อิสราเอล เยอรมนี รัสเซีย เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ อิตาลี ออสเตรีย เดนมาร์ก เบลเยี่ยม ฟินแลนด์ สวีเดน แคนาดา ออสเตรเลีย

บริการนี้จึงเป็นทางเลือกให้ผู้ขายไม่ต้องเก็บรอสินค้าหรือซื้อระวางเพิ่ม เพราะไปรษณีย์ไทยมีเที่ยวขนส่งทางอากาศทุกวัน ผู้ขายจึงสามารถจัดการกับคำสั่งซื้อและบริหารระวางพื้นที่สำหรับการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศได้อีกด้วยสามารถสอบถามราบละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center โทร 1545www.thailandpost.co.th

สถาบันวิชาการป้องกันประเทศจัดประกวดวิดีโอคลิป ความรักชาติ ความเป็นไทย

สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประกวดวิดีโอคลิป "ความรักชาติ ความเป็นชาติไทย" เพื่อเป็นการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทย ด้วยการระลึกถึงบรรพชนนักรบผู้กล้าหาญ ผู้ซึ่งเสียสละชีพเพื่อชาติ เผยแพร่ประวัติวีรกรรมความกล้าหาญ ให้คนไทยได้ตระหนักในความรักชาติ ความสามัคคี ความภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นการประชาสัมพันธ์อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

โดยวิดีโอคลิปที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นวิดีโอที่จัดทำขึ้นใหม่ด้วยตนเอง ผลงานทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดที่ส่งเข้าประกวด จะต้องเป็นแนวคิดและรูปแบบที่ไม่เคยนำเสนอที่ใดมาก่อน มีความยาวของเนื้อหา 3-5 นาที ต้องเสนอเรื่องราวที่สื่อความหมายตามวัสถุประสงค์ในเชิงสร้างสรรค์ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของชาติ เคารพในความกล้าหาญของบรรพบุรุษ ตระหนักถึงความสามัคคี ความรักชาติ ความภูมิใจในความเป็นไทย รวมทั้งให้มีคำอธิบายหรือพากย์ภาษา อังกฤษอยู่ด้านล่าง (Subtitle) อีก 1 ชุด ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศ 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล และรางวัลชมเชย 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล

จึงขอเชิญชวนผู้สนใจ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ส่งผลงานวิดีโอคลิปเข้าร่วมประกวดได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบทีม โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับนักเรียน และระดับอุดมศึกษาหรือบุคคลทั่วไป ส่งได้ไม่เกิน 1 เรื่อง ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2557 โดยระบุชื่อเรื่องและข้อมูลของ ผู้สมัคร หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ลงในแผ่นบันทึกข้อมูล (DVD) และส่งด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ หรือกองพิพิธภัณฑ์ทหารและอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมดอนเมือง ช่วงถนนวิภาวดีรังสิตบรรจบกับถนนพหลโยธิน เลขที่ 9 หมู่ 19 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130 โดยสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่

http://ndsi.rtart.mi.th สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 533 8467, 02 532 1021

กศน.จังหวัดชุมพร จัดสัมมนาภาคีเครือข่ายการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย

สำนักงาน กศน.จังหวัดชุมพร จัดสัมมนาภาคีเครือข่ายการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชุมพร เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในบทบาทภารกิจ กศน.แก่ภาคีเครือข่าย โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ข้าราชการภาคส่วนต่างๆ องค์กรเอกชน คณะครู และบุคลากร กศน. จำนวน 142 คน

วันที่ ( 7 พ.ค. 57) ที่โรงแรมชุมพรแกรนด์พาเลช นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในการเปิดสัมมนาภาคีเครือข่ายการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชุมพร เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในบทบาทภารกิจ กศน.แก่ภาคีเครือข่าย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการดำเนินงาน และการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีคณะวิทยากรจากกองแผน สำนักงาน กศน.สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และวิทยากรสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ข้าราชการภาคส่วนต่างๆ องค์กรเอกชน คณะครู และบุคลากร กศน. จำนวน 142 คน

นายประพันธ์ บุญสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดชุมพร  เปิดเผยว่า จุดมุ่งหมายการจัดการศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเชื่อที่ว่า คนเราสามารถพัฒนาการคิด การตัดสินใจ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ด้วยการฝึกทักษะการใช้ข้อมูลที่หลากหลาย ทั้งด้านตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม และวิชาการมาวิเคราะห์ เชื่อมโยง แล้วประเมินตีค่าตัดสินใจเพื่อ ตนเอง ชุมชน สังคม

การจัดการศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบ แบ่งระดับการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยแต่ละระดับใช้เวลาเรียน 4 ภาคเรียน โดยผู้เรียนจะต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆดังนี้ 1.ผ่านเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้รายวิชาครบตามโครงสร้างหลักสูตร  2.ผ่านเกณฑ์การประเมินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต(กพช.)ไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง 3.ผ่านการประเมินคุณธรรมในระดับพอใช้ขึ้นไป 4.เข้ารับการประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ (สอบ N-Net) เพื่อจบหลักสูตร 

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร แถลงข่าว เตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูผลผลิต

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร จัดแถลงข่าว เตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูผลผลิต เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีมลคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

วันที่ (6 พ.ค. 57) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร จ่าเอกเฉลิมพล ญาณวิสุทธิสกุล เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร พร้อมหัวหน้าสำนักงานหรือผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชุมพร สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชุมพร และ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดชุมพร ได้ร่วมกันแถลงข่าว เตรียมความพร้อมเกษตรกรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูผลผลิต  เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

จ่าเอกเฉลิมพล ญาณวิสุทธิสกุล เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดให้หน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัดดำเนินการ จัดแถลงข่าว เตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูผลผลิต พร้อมเป็นการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ผ่านสื่อมวลชนในท้องถิ่น ถึงเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการเกษตรกร และสนับสนุนการผลิตทางการเกษตรในฤดูการผลิต 2557 -2558 โดยถือวันพระราชพิธีมลคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2557 เป็นวันเริ่มต้นฤดูการผลิต 

ซึ่งในการแถลงข่าวได้กำหนดประเด็นอาทิ ประเด็นด้านการวางแผนการผลิต ด้านเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตรที่เหมาะสม และด้านการให้บริการทางการเกษตร ประกอบกับจังหวัดชุมพร ได้มีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ผลผลิตสินค้าทางการเกษตร เพื่อประเมินสถานการณ์ด้านการเกษตรในจังหวัด  ซึ่งพืชเศรษฐกิจของจังหวัดชุมพร ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ ที่กำลังเข้าสู่การเริ่มต้นใหม่ของฤดูการผลิต

จังหวัดชุมพร จัดพิธีถวายราชสดุดีเนื่องในวันฉัตรมงคล

วันที่ 5 พฤษภาคม 25557 เวลา 09.00 น. ณ หอประชุมเทศบาลเมืองชุมพร นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมถวายราชสักการะและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน “วันฉัตรมงคล”เพื่อแสดงความจงรักภักดี กตัญญูกตเวที และสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรากตรำพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตามพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกร โดยยึดหลักการพัฒนายั่งยืน ภายใต้ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” และทรงสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรือง ผาสุกร่มเย็น แก่ประเทศชาติและปวงชนชาวไทยตลอดมา

วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"เนื่องจากยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษา อยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย ดังนั้นรัฐบาลไทยและ พสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันฉัตรมงคล เพื่อน้อมรำลึกถึงวันสำคัญนี้