วันนี้ (8 พ.ค.57) ที่สำนักสงฆ์คลองยนต์ ม.6 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการ เหล่ากาชาด และภาคเอกชน ออกหน่วยเคลื่อนที่ ตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ” และโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จ.สงขลา เพื่อออกบริการ และพบปะเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ร่วมกับ สำนักงานสัสดีจังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าประจำเดือนนี้ ซึ่งได้รับเงินบริจาค กว่า 100,000 บาท เงินดังกล่าวได้มอบให้ทางอำเภอสะเดา เพื่อจะนำเงินไปพัฒนาวัด มัสยิดและ โรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดารของ อ.สะเดา
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ เป็นโครงการที่ จังหวัดได้จัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในเชิงรุก โดยให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จัดหน่วยบริการของแต่ละหน่วยงานมาให้บริการและเยี่ยมเยือนประชาชนในพื้นที่ ห่างไกล และในโอกาสที่มาเยี่ยมเยือนครั้งนี้ จังหวัดจะขอความร่วมมือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ช่วยดูแล เร่งรัดป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีเป้าหมาย คือ ทำทุกหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจาก อ.สะเดา เป็นพื้นที่ชายแดน แม้จะไม่เป็นพื้นที่เป้าหมายในการก่อการร้าย แต่ไม่ควรประมาท แต่ก็ขอให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ความร่วมมือกับทางราชการ และในการสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้าที่อาจเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ และสำหรับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่แล้ว เช่น การตัดต้นไม้ขวางถนน หรือโปรยตะปูเรือใบ ขอให้ผู้นำท้องถิ่น เข้าเคลียร์พื้นที่โดยตรง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และมีความรู้ความชำนาญในพื้นที่เป็นอย่างดี และอีกประการหนึ่ง อ.สะเดา ได้มีด่านชายแดนไทย – มาเลเซีย ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อป้องกันกลุ่มผู้อพยพที่หนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาวโรฮิงญา กลุ่มชาวอุยกูร์ หรือกลุ่มอื่น ๆ และสิ่งสุดท้าย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันดูแล ป้องกัน ปัญหาการบุกรุกป่า และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้แจ้งเบาะแส ไม่ว่าจะเป็นการบุกลุกทำลายป่า หรือการลักลอบดูดทราย ซึ่งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมในพื้นที่
สำหรับวันนี้ปัญหาความเดือนร้อน ความต้องการของประชาชน ทางผู้นำท้องถิ่นได้เสนอให้ผู้ว่ารากชารจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี 3 ประเด็น คือ การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค การบุกรุกที่ดินทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และการขยายเขตไฟฟ้า จังหวัดได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจ้ง ทำความเข้าใจกับประชาชน และจะดำเนินการภายหลังจากนี้ จากนั้นจะได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานให้ผู้ว่าราชการทราบในโอกาสต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น