วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ว่าฯ พร้อมพุทธศาสนิกชนชาวภูเก็ต ร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชากันอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะคู่รักจูงมือเวียนเทียนเนื่องในวันแห่งความรัก

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 14 ก.พ.57 ที่วัดมงคลนิมิตร อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา โดยมีนางสาวสมหมาย  ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  นายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต  หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวภูเก็ต พร้อมครอบครัว เข้าร่วมในพิธีเวียนเทียน โดยการร่วมกันไหว้พระ ฟังธรรมเทศนา และเวียนเทียนกันเป็นจำนวนมาก

เพื่อความเป็นริสิมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว และร่วมกันสืบทอดหลักคำสอนพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดไป และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการจัดให้มีพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันดังกล่าวที่วัดมงคลนิมิตรแล้ว และวัดวิชิตสังฆารามแล้ว วันนี้ที่วัดทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ตก็ได้จัดให้มีพิธีเวียนเทียนขึ้นเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามวันมาฆบูชา เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูป ได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” คือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง

พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6 และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้น จึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต”หรือวันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ทั้งนี้ วันมาฆบูชาในปีนี้ตรงกับวันแห่งความรักสากลทำให้มีคู่รักหนุ่มสาวพร้อมใจกันมาเวียนเทียนอย่างหนาตา

ผู้ว่าฯ เปิดประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่อง “ธรรมาภิบาลในภูมิภาคอุษาคเนย์: ความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และองค์ความรู้ร่วมกันในด้านรัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์การปกครอง จากนักวิชาการและนักวิจัยระดับนานาชาติ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.พ.57 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่อง “ธรรมาภิบาลในภูมิภาคอุษาคเนย์: ความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย” ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมมือ กับศูนย์ความเป็นเลิศด้านนโยบายสาธารณะและธรรมาภิบาลเยอรมัน-อุษาคเนย์ และสถาบันพัฒนาภูมิปัญญาตะวันออก จัดการประชุมดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และองค์ความรู้ร่วมกันในด้านรัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์การปกครอง จากนักวิชาการและนักวิจัยระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นเวทีให้นักวิจัย นักวิชาการ คณาจารย์ และนิสิต/นักศึกษา ได้เข้าร่วมฟังการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิ

ผศ.ดร. ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า การจัดการประชุม ในครั้งนี้ คือเป็นเวทีสำหรับการศึกษาวิเคราะห์ และอภิปรายในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับศาสตร์ทางด้านสังคมและการเมืองระหว่างมหามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการขยายความร่วมมือทางวิชาการกับสถานศึกษาอื่นๆ เนื่องจากมหาวิทยาลัยตระหนักว่ามหาวิทยาลัยจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้ยาก หากขาดความร่วมมือการสนับสนุนจากภาคีความร่วมมือ เนื่องจากทุกวันนี้ประเด็น เรื่อง ธรรมาภิบาลเป็นประเด็นที่ทุกประเทศในเขตภูมิภาคอาเซียนต่างให้ความสำคัญ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและกระแสโลกาภิวัตน์ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ไม่เท่าเทียมและไม่ยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจและสังคม ของแต่ละประเทศหลายประเทศในเขตภูมิภาคนี้ ต่างพยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใส และสร้างระบบการเมืองที่เป็นอิสระตรวจสอบได้

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์หลายท่านต่างสนับสนุนหลักธรรมาภิบาล ในฐานะแนวทางแก้ไขวิกฤตและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และสังคม การประชุมวิชาการในวันนี้จึงเกิดขึ้นจากประเด็นดังกล่าวเพื่ออภิปรายหารือและหาแนวทางในการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล ในเขตภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมุ่งหวังที่จะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม การเมือง และชาติพันธุ์ ตามหลักธรรมาภิบาล ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมวิชาการในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันและแบ่งปันประสบการณ์ทางวิชาการอันทรงคุณค่าซึ่งกันและกัน

“มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างเครือข่ายทางวิชาการระหว่างสถาบันการศึกษาทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ และเตรียมความพร้อมของบุคลากร และนักศึกษาเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 จึงได้ส่งเสริมการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆที่ช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรและบัณฑิตเพื่อรองรับการแข่งขันในระดับสากล” ผศ.ดร.ประภา กล่าวในที่สุด

งานห่มผ้าพระธาตุวัดเขียนบางแก้ว

พุทธศาสนิกชม หลั่งไหลร่วมงานมหกรรมย้อนรอยอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ศรีวิชัยมาฆะบูชาแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์วัดเขียนบางแก้วอย่างเนืองแน่น

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานจัดงานมหกรรมย้อนรอยอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ศรีวิชัยมาฆะบูชาแหผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์วัดเขียนบ้างแก้ว ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๔ กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้งานประเพณีดังกล่าวมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ซึ่งตรงกับวันมาฆะบูชาเพื่อเป็นพุทธบูชาและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่มีติดต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งปกติจะจัดขึ้นเพียงวันเดียวในชื่อว่างานประเพณีมาฆะบูชาแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์วัดเขียนบางแก้ว แต่ปีนี้ทางจังหวัดพัทลุงโดยนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เข้ามารับเป็นประธานจัดงานและมองว่าวัดเขียนบางแก้วเป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองพัทลุง โดยเป็นที่ตั้งของเมืองพัทลุงมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีโบราณสถานสำคัญคือพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งสร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกันกับพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช

ดังนั้นจึงมีความสำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแก่การฟื้นฟูให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนาทั้งชาวพัทลุงและชาวพุทธทั่วไปอีกครั้ง โดยใช้งานแห่ผ้าขึ้นห่มพระธาตุฯเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังศรัทธาของชาวพุทธ และเป็นชื่อการจัดงานมาเป็น "งานมหกรรมย้อนรอยอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ศรีวิชัยมาฆะบูชาแหผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์วัดเขียนบ้างแก้ว” และขยายเวลาการจัดงานจากวันเดียว เป็น ๓ วันซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ ๑๒ – ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น พิธีบวงสรวงพระบรมธาตุเจดีย์โดยพิธีพราหมณ์ พิธีกวนข้าวมธุปายาส หรือที่ชาวใต้เรียกข้าวยาคู การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน แสดง แสง สี เสียง และการแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ทั้งนี้วัดเขียนบางแก้ว ตั้งอยู่ หมู่ที่ ๔ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เป็นโบราณอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี สร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔

โดยมีตำนานการสร้างอยู่หลายตำนาน เช่น ในจารึก "เพลาวัด” กล่าวถึงวัดเขียนบางแก้วว่า นางเลือดขาวกับพระยากุมาร เป็นผู้สร้างวัดขึ้น มีกุฏิ วิหาร ศาลาการเปรียญ พระพุทธรูป พระมหาเจดีย์ เสร็จแล้วให้จารึกเรื่องราวการก่อสร้างลงบนแผ่นทองคำเรียกว่า "เพลาวัด” ระบุว่าสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๑๔๙๒ และต่อมาในปี พ.ศ. ๑๔๙๓ พระยากุมารกับนางเลือดขาว ได้เดินทางไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเกาะลังกามาบรรจุไว้ในพระมหาธาตุเจดีย์ นอกจากนี้ในประวัติวัดเขียนบางแก้วของ พระครูสังฆรักษ์ (เพิ่ม) กล่าวว่าเจ้าพระยากรุงทอง เจ้าเมืองพัทลุงเป็นผู้สร้างวัดขึ้น เมื่อวันพฤหัสบดีเดือน ๘ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีกุน เอกศก พ.ศ. ๑๔๘๒ (จ.ศ. ๓๐๑) พร้อมกับสร้างพระมหาธาตุและก่อพระเชตุพนวิหาร ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. ๑๔๘๖ ส่วนทำเนียบวัดในจังหวัดพัทลุงของพระครูอริยสังวร (เอียด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพัทลุงกล่าวว่า วัดเขียนบางแก้วสร้างเมื่อ พ.ศ. ๑๔๘๒

พุทธศาสนิกชนในจังหวัดพัทลุง ร่วมกันฟังพระธรรมเทศนาและเวียนเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในโอกาส ในวันมาฆบูชา

ที่วัดคูหาสวรรค์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงค่ำวานนี้ (๑๔ ก.พ.๕๗) นายสุชาติ สุวรรณกาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานประกอบพิธี "มาฆบูชา ไทยทั่วหล้า ใฝ่ธรรมะ”

ตามที่จังหวัดพัทลุง โดยส่วนราชการต่าง ๆ เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพัทลุง สำนักงานจังวัดพัทลุง สำนักงานสรรพากรพื้นที่พัทลุง ฯลฯ ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวพัทลุง จัดขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาและรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพระพุทธศาสนา มาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๗ ทั้งนี้โดยร่วมกันไหว้พระสวดมนต์ และรับฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งแสดงธรรมโดยพระราชปริยัติมุนี เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง รองเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ พระอารามหลวง ก่อนจะร่วมกันเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ วันมาฆะบูชา "มาฆะ" เป็นชื่อของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า"มาฆบุรณมี" แปลว่าการบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ แต่ถ้าปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในวันพุทธศาสนา คือวันที่มีการประชุมสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปฏิโมกข์ แก่พระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ เพื่อให้พระสงฆ์นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

ซึ่งโอวาทปาฏิโมกข์ เป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพุทธพจน์ ๓ คาถากึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ผู้ไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ พระเวฬุ วนาราม ในวันเพ็ญเดือน ๓ มีเนื้อความสำคัญว่า การไม่ทำความชั่วทั้งปวง, การบำเพ็ญแต่ความดี, การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ การไม่กล่าวร้าย, การไม่ทำร้าย, ความสำรวมในปาฏิโมกข์, ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, ที่นั่งนอนอันสงัด, ความเพียรในอธิจิต นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งที่เข้าใจกันทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส ส่วนคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" แปลว่า "การประชุมด้วยองค์ ๔" กล่าวคือมีเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ คือ ๑. เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันที่เวฬุวันวิหารในกรุงราชคฤห์ โดยมิได้นัดหมาย ๒. พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" คือเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจาก พระพุทธเจ้าทั้งสิ้น ๓. พระภิกษุสงฆ์ทุกองค์ที่ได้มาประชุมในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผุ้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุก ๆองค์ ๔. เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงคุยกับประชาชนทาง สวท.พัทลุงเช้าวันเสาร์นี้ นำแนวทางการปฏิบัติตามพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอมาใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว

ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงคุยกับประชาชนทาง สวท.พัทลุงเช้าวันเสาร์นี้ นำแนวทางการปฏิบัติตามพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอมาใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว เป็นประจำทุกเช้าวันเสาร์ระหว่างเวลา ๐๖.๐๐ – ๐๗.๐๐ น.

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงจะจัดรายการผู้ว่าคุยกับประชาชนทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพัทลุง ความถี่ ๙๘.๐๐ เมกะเฮิร์ต เพื่อนำความรู้และข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์มาบอกกล่าวแก่ประชาชน ซึ่งในวันเสาร์นี้ได้นำความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการปฏิบัติจริงเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ครอบครัว โดยมีวิทยากรรับเชิญมาร่วมรายการจำนวน ๓ ท่าน ประกอบด้วย นายจำเริญ อุศรัตนิวาส ผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพัทลุง นายเจริญสิงห์ ชนะสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๙ ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง และ นางปราณี ตามแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๙ ตำบลตะโหมด ซึ่งทั้ง ๒ คนถือว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการน้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติจริงในพื้นที่ โดยเฉพาะการสร้างอาชีพเสริมจากอาชีพสวนยางพาราที่มีอยู่ ด้วยการปลูกพืชแซมยาง การเลี้ยงไก่ในสวนยาง การเพาะเห็ด การเลี้ยงผึ้ง รวมทั้งการปลูกไม้ใช้สอยในสวนยาง ส่งผลให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดปี สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมีความสุข และยังได้เผื่อแผ่ความรู้ในชุมชนและสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วย

ในส่วนของผู้อำนวยการกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพัทลุง ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยางพาราว่า ขณะนี้ผลผลิตยางพารามีราคาตกต่ำอย่างมาก สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ทำให้ประเทศอุตสาหกรรมต่าง ๆ ลดการผลิตจึงส่งผลให้การใช้ยางพาราซึ่งเป็นวัตถุดิบมีจำนวนลดลง นอกจากนี้เนื่องจากการที่ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถปลูกได้หลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ปัญหาคือต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าประเทศเพื่อบ้าน ทำให้ยางพาราของไทยเสียเปรียบในการขางขันในตลาดโลก โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีความสัมพันธ์ทางการค้าใกล้ชิดกับประเทศลาว และกัมพูชามากกว่าไทย

ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางของไทยเราอยู่รอดในสภาวะดังกล่าวได้ จำเป็นต้องมีการปรับตัวมากขึ้นทั้งในส่วนของการผลิตน้ำยางให้มีคุณภาพ การรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อให้มีอำนาจในการต่อรองราคา ตลอดจนการใช้พื้นที่สวนยางพาราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการเลี้ยงสัตว์ การปลูกแซมยาง ทั้งที่เป็นพืชผัก ผลไม้ หรือไม้ใช้สอย เป็นต้น ก็จะสามารถเลี้ยงตัวเองได้

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เน้นย้ำว่า การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้อย่างจริงจังจะเป็นทางออกของปัญหาต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ ร่วมถึงการสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เนื่องจากเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติด้วยหัวใจ และความร่วมไม้ร่วมมือของทุกคนในครอบครัว ซึ่งหากครอบครัวใดนำไปใช้อย่างจริงจังนอกจากจะไม่จนแล้ว ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวจะเป็นเกราะคุ้มครองให้ลูกหลานปลอดภัยจากปัญหาต่าง ๆ เช่น เรื่องของยาเสพติด เป็นต้น

จังหวัดพัทลุงจัดพิธีแห่ผ้าและสมโภชผ้าพระบฏพร้อมแสดงแสงสีเสียงเพื่อรำลึกประวัติศาสตร์วัดเขียนบางแก้ว ในงานมหกรรมย้อนรอยอารยธรรมศักดิ์สิทธิ์ศรีวิชัย มาฆะบูชาแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ วัดเขียนบางแก้ว

ช่วงเย็นวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้ร่วมกับ ๒๘ สถานศึกษาในจังหวัดพัทลุง และพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเขาชัยสน ร่วมกันประกอบพิธีแห่ผ้าพระบฏและสมโภชผ้าพระบฏและข้าวยาคู เพื่อใช้ในพิธีแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันมาฆะบูชาประจำปี ๒๕๕๗

ทั้งนี้ภายหลังมีการสมโภชผ้าพระบฏและข้าวยาคูเสร็จ เป็นการแสดง แสงสีเสียง สื่อผสมโดยวิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุง ที่ได้นำเรื่องราวประวัติศาสตร์การก่อตั้งชุมชนของเมืองบางแก้ว และการแผ่ขยายเข้ามาของอารยธรรมอินเดียผ่านทางศาสนาพราหมณ์ พุทธศาสนานิกายมหายาน และพุทธศาสนานิกายหินยานในเวลาต่อมา ซึ่งสืบสายต่อมาจนได้ก่อตั้งขึ้นเป็นวัดเขียนบางแก้ว และสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซื่อพระบรมธาตุเจดีย์วัดเขียนบางแก้วขึ้น ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔ ซึ่งตรงกับสมัยอาณาจักศรีวิชัย

สำหรับการจัดงานในปีนี้ทางจังหวัดพัทลุงได้จัดขึ้นเป็นเวลา ๓ วันระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาของนักเรียนและชุมชน การกวนข้าวมธุปายาส หรือข้าวยาคู  การแห่ผ้าพระบฏทางน้ำและทางบก  พิธีสมโภชผ้าพระบฏ  การแสดงแสงสีเสียงสื่อผสม  การแสดงศิลปวัฒนธรรม และมหรสพท้องถิ่น หนังตะลุง มโนราห์ และการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นต้น

อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ร่วมสืบสานประเพณีแห่พระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่พระธาตุและเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 14 ก.พ.57 พระครูศรีปริยัติยากร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุคีรีเขต ร่วมกับ พุทธศาสนิกชน ชาว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดพระธาตุคีรีเขตขึ้นไปยังพระธาตุคีรีเขตยอดเขาพระพุทธบาท เนื่องในวัน มาฆะบูชา และ ทำพิธีเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณ พระธาตุคีรีเขต เขาพระพุทธบาท อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

สำหรับพระธาตุคีรีเขตนั้นได้มีหลักฐานการปรับพื้นที่มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แต่ไม่ทราบเพราะเหตุอันใดจึงไม่มีการสร้างจนกระทั้งยุคของ พระครูศรีปริยัติยากร ได้ปรารภพร้อมทั้งรวบรวมบรรดาญาติธรรมเพื่อก่อสร้างพระธาตุคีรีเขตให้เป็นรูปธรรมให้เสร็จสิ้นในสมัยรัชกาลที่ 9 โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2553 จนปัจจุบัน ซึ่งก่อนเกิดสงครามนั้น บนยอดเขาพระพุทธบาทยังไม่มีพระธาตุแต่อย่างใด พุทธศาสนิกชนมีเพียงแห่พระบรมธาตุขึ้นสู่ยอดเขาพระพุทธบาทตามประเพณีที่สืบทอดกันมา และห่างหายไปหลังจากเกิดสงคราม ก่อนจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากมีการก่อสร้างพระธาตุ

ชาวเกาะสมุยร่วมทำบุญ ตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา เป็นจำนวนมาก

ชาวเกาะสมุยร่วมทำบุญ ตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา เป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ (14 ก.พ.57) ที่วัดสำเร็จ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พุทธศาสนิกชน และประชาชนชาวเกาะสมุย ร่วมทำบุญ ตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อส่งเสริม ให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เป็นผู้ที่มีจิตใจยึดมั่นในหลักคำสอนตาม พระพุทธศาสนา รวมทั้งร่วมกันสืบทอดหลังคำสอน ของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดไป และสามารถ นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดย ประชาชนได้นำกับข้าว สังฆทาน มาถวายให้กับ พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

สำหรับวันมาฆบูชา หรือวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์คือการประกาศหลักธรรม คำสั่งสอนของพระองค์ ต่อหน้าพระอรหันต์จำนวน 1,250 รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 แต่หากวันเพ็ญเดือน 3 ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองหน เลื่อนเป็นเดือน 4 ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งตรงกับวันแห่งความรักทำให้มีคู่รักมาร่วมกันทำบุญวันนี้ดป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน

จัดทำคำเสนอแนะการจัดทำเอกสารเสนอพระบรมธาตุเจดีย์เป็นมรดกโลก ให้มีความสมบูรณ์

ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุ เดือนมิถุนายนปีนี้ จะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การจัดทำมรดกโลก มาร่วมสัมมนา ให้คำเสนอแนะการจัดทำเอกสารเสนอพระบรมธาตุเจดีย์เป็นมรดกโลก ให้มีความสมบูรณ์

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำเอกสารเสนอพระบรมธาตุเจดีย์เป็นมรดกโลกได้ดำเนินการมาถึงบทที่ 5 จากทั้งหมด 8 บท แต่ละบทมีการตรวจสอบ และมีการสัมมนาเมื่อวันที่ 15ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ข้อมูลนำมาปรับแก้ และมีกำหนดประชุมวิชาการอีกครั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์การทำมรดกโลก ด้านปูชนียสถานจากต่างประเทศ มาประชุม แต่เหตุการณ์บ้านเมืองของเรายังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีได้ ทำให้วิทยากรไม่มั่นใจในสถานการณ์ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ผู้จัดการประชุม จึงได้เลื่อนการสัมมนาไปจัดในวันที่ 22 มิถุนายนปีนี้

ในส่วนของการจัดทำเอกสารฉบับภาษาไทยยังคงดำเนินการต่อไป การสัมมนาในเดือนมิถุนายน เชิญวิทยากรชาวต่างชาติ เข้ามามองพระบรมธาตุเจดีย์ของเรา มองสิ่งที่เราเขียนเป็นภาษาไทยแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วเพื่อไปเสนอเขา เป็นการตรวจสอบว่าสิ่งที่เราเขียนในสายตาของเรา เป็นมุมมองสากลหรือไม่ มีอะไรบ้างที่ต้องเพิ่มเติม จะได้ทำในช่วงเดือนมิถุนายนนี้

ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึง การจัดทำเอกสารนี้หลังจากการประชุมวันที่ 22 มิถุนายนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะแปลเป็นภาษาอังกฤษ เข้าเล่มให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ทันเดือนกันยายนปีนี้ ส่งให้ศูนย์มรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตรวจสอบเบื้องต้น หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ศูนย์มรดกโลกจะแจ้งกลับมาว่า จะมีสิ่งใดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือตัดออกบ้าง จากนั้นจะทำฉบับสมบูรณ์ส่งไปที่ศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส อีกครั้งหนึ่ง ภายในเดือนมกราคมปี 2558

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งและแสดงตนเป็นพุทธมามกะเนื่องในวันมาฆบูชา

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งและแสดงตนเป็นพุทธมามกะเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557

ตอนเช้าของวันที่ (14 ก.พ.57) นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาพร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา นักเรียน นักศึกษาร่วมกันทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 30 รูป เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา "วันมาฆบูชา” ณ วัดประชุมโยธี อ.เมือง จ.พังงา

หลังจากนั้น ในเวลา 09.30 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมโยธี นางสุคนธ์ เจริญกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ การถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และพิธีเวียนเทียนรอบอุโบสถ โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งทางพระพุทธศาสนา ด้วยมีเหตุการณ์ประจวบกัน 4 ประการอันน่าอัศจรรย์คือ พระสงฆ์ 1,250 รูปที่พระพุทธองค์ได้ส่งไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาตามแว่นแคว้นต่างๆ ได้กลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นเอหิภิกขุที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น ซึ่งเรียกว่าเอหิภิกขุอุปสัมปทา, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6 และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมี ดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

ดังนั้น จึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ ๔ โดยพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นหลักคำสอนสำคัญที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่ที่ประชุมพระสงฆ์เหล่านั้น เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทุกคน ต่างพร้อมใจกันเข้าวัดร่วมทำบุญการตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เพื่อบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว อีกทั้งเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวด้วย

โครงการ “เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ”ที่หาดป่าตอง

กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจัดโครงการ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ”ที่หาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ หรือป้อมตำรวจภูธรสามแยกบางลา ถนนทวีวงศ์ ตำบลป่าตอง อเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พลตำรวจตรี อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ” ต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการนักท่องเที่ยว เสริมประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยว ด้วยการจัดแคมเปญ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ" Stand by you ในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจะได้รับการดูแลตลอดการเดินทางในประเทศไทย พร้อมปล่อยขบวนคาราวานตำรวจท่องเที่ยว พบปะนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลข่าวสาร พร้อมแนะนำช่องทางการให้ความช่วยเหลือ สร้างความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง

พลตำรวจตรี อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวกล่าวด้วยตำรวจท่องเที่ยวปรับแผนกลยุทธ์การดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ ภายใต้แคมเปญ เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการหรือ Stand by you ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทดแทนพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ากรุงเทพ เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกต่างชื่นชอบทะเลในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเช่น นักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย สแกนดิเนเวีย และยุโรป นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว โดยปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวมายังจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น ที่วัดได้จากการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฉลี่ย 3,300 คนต่อวัน หรือเติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความกังวลใจเรื่องความปลอดภัยที่จะได้รับ จังหวัดภูเก็ตจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีเที่ยวบินตรงเข้าพื้นที่จากหลายเส้นทางทั่วโลก ที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย Safety Zoneขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต และการจัดแคมเปญ "เชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ” คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ปลอดภัย อุ่นใจ และมีความสุขตลอดการเดินทางในประเทศไทย เมื่อมีตำรวจท่องเที่ยวอยู่เคียงข้างพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยแคมเปญนี้ได้รณรงค์ให้คนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

พลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลร่วมพิธีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติเนืองแน่น

พลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลร่วมพิธีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติเนืองแน่น ทำให้พื้นที่รอบวัดรัศมี ๒ กม. รถไม่สามารถสัญจรได้ ประชาชนต้องเดินเข้าร่วมพิธี

ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ทั้งในพื้นที่ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมานมัสการ และร่วมพิธีสำคัญหนึ่งเดียวของไทย นั่นคือพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ซึ้งได้ยกระดับเป็นประเพณีวัฒนธรรมระดับนานาชาติมาถึง ๕ ปีแล้ว หลังจากพุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยไม่ต้องมีการนัดหมายหรือจัดกิจกรรมพิเศษใด ๆ นานเกือบ๘๐๐ ปี

โดยพุทธศาสนิกชนได้เดินทางมาเตรียมพร้อมสำหรับร่วมกิจกรรมตั้งแต่เมื่อวานนี้บางส่วน และ ส่วนที่มาในวันนี้ได้เดินทางกันมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อจะได้ร่วมกิจกรรมอย่างครบถ้วน ทั้งการทำบุญตักบาตร การกราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ การปฏิบัติธรรม มีการนำผ้าพระบฎหรือผ้าขึ้นธาตุจัดเป็นขบวนทั้งที่เป็นขบวนเล็ก และคณะใหญ่ ๆ นับพันคณะ ถนนราชดำเนิน ซึ่งอยู่ด้านหน้าวัดพระมหาธาตุ และถนนคู่ขนาน ถนนเชื่อมต่อทุกเส้นทางในระยะทางประมาณ ๒ กิโลเมตร แน่นขนัดไปด้วยพลังศรัทธาของประชาชนซึ่งแต่ละปีเดินทางเข้าร่วมนับแสนคน ซึ่งต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น เนื่องจากรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ทั้งนี้ด้วยเชื่อว่าการได้ปฏิบัติบูชา ที่ใกล้ชิดพระพุทธองค์ จะได้รับอานิสงค์สูงยิ่ง สำหรับในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้พิธีทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ ที่ลานหน้าพระวิหารหลวง ต่อด้วยการเวียนเทียนของทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ ๔ และประชาชนบางส่วนเพื่อบรรเทาความแน่นขนัดในช่วงเย็น และในเวลา ๑๕ ๓๐ น. จะมีพิธีอัญเชิญผ้าพระบฎพระราชทาน และผ้าพระบฎของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จัดริ้วขบวนอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อนำผ้าพระบฎถวายแด่องค์พระบรมธาตเจดีย์เป็นพุทธบูชา โดยมีนายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรีเป็นประธาน

เข้าสู่ฤดูกาลยางผลัดใบ ปริมาณยางเข้าสู่ตลาดลดลง ช่วยสนับสนุนราคายางได้ระดับหนึ่ง

ผ.อ.ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานีระบุขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลยางผลัดใบ ปริมาณยางเข้าสู่ตลาดลดลง ช่วยสนับสนุนราคายางได้ระดับหนึ่ง

นายพนัส แพชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี รายงานถึงสถานการณ์ราคายางแผ่นดิบ ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี เมื่อวานนี้(13 ก.พ.57) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.38 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคามาอยู่ที่กิโลกรัมละ 63.17 บาท เนื่องจากราคายางที่ตลาดล่วงหน้าโตเกียวเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลยางผลัดใบทำให้ปริมาณยางเข้าสู่ตลาดลดลง ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ยางพาราเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ราคาจะปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของโลกด้วย ขณะที่ราคายางท้องถิ่นเมื่อวานนี้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.00 บาท น้ำยางสด เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.00 บาท และเศษยาง เฉลี่ยกิโลกรัมละ 29 .00 บาท

สำรับวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นหยุดราชการ ตลาดกลางยางพาราหยุดทำการ

พิธีรับมอบเครื่องแบบนักเรียนแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 จังหวัดระนอง

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบเครื่องแบบนักเรียนแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 จังหวัดระนอง ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ 38 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ใน พระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้นายรังสรรค์ ตันเจริญ ปลัดจังหวัดระนอง เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องแบบแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 เพื่อเด็กนักเรียนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 จังหวัดระนอง เป็นโรงเรียนแบบศึกษาสงเคราะห์ที่รับเด็กยากไร้ทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีสิทธิ และโอกาสได้รับบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมทั้งพระราชทานการสงเคราะห์แก่นักเรียนโดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มาโดย ตลอด

นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานสิ่งของให้แก่นักเรียนเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งเน้นพัฒนาเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและคุณลักษณะพึงประสงค์ เป็นคนดีมีคุณธรรม โดยยึดแนวพระบรมราโชบาย 12 ข้อ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้นักเรียนในโรงเรียนศึกษา สงเคราะห์ ได้แก่ ความเป็นคนดี มีเมตตากรุณา การรู้รักสามัคคี ไม่โลภ ห่างไกลอบายมุข ช่วยเหลือตนเองได้อย่างแท้จริง รู้จักพึ่งตนเองด้วยการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น หลังจากนั้นได้มอบเครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน จำนวน 373 ชุด ให้แก่นักเรียน

ชาวพังงา ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ ขณะที่ดอกบัวขายดีกว่าดอกกุหลาบ และราคาดอกไม้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ประชาชนชาวอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ ขณะที่ดอกบัวขายดีกว่าดอกกุหลาบ และราคาดอกไม้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

วันที่ (14 ก.พ.57) ที่อำเภอตะกั่วป่า ประชาชนชาวไทย-พุทธส่วนใหญ่นิยมซื้อดอกบัวเข้าวัดทำบุญ และฟังธรรมที่วัดใกล้บ้านมากกว่าการหาซื้อดอกกุหลาบมอบให้กันในวันวาเลนไทน์ จึงทำให้ร้านขายดอกกุหลาบส่วนใหญ่ดูเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา  ปีนี้ราคาดอกกุหลาบและดอกบัวมีราคาต้นทุนสูงขึ้นมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ผลผลิตของดอกไม้มีน้อยจึงทำให้ราคาดอกไม้ดังกล่าวปรับสูงขึ้นกว่าทุกปี โดยในวันนี้จำหน่ายดอกบัวในราคาดอกละ 10 บาท ดอกกุหลาบสีแดงและสีชมพูราคาดอกละ 15 บาท ส่วนสีขาวราคา ดอกละ 20 บาท หากหุ้มซองพลาสติกจะบวกราคาเพิ่มอีก 5 บาท ซึ่งวันวาเลนไทน์ในปีนี้ถือว่ายอดขายดอกกุหลาบลดลง ขณะที่ยอดขายดอกบัวมีเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะวันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จึงทำให้ยอดขายดอกกุหลาบลดลงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน

อย่างไรก็ตามถึงแม้ปีนี้ดอกไม้จะมีราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังมีคู่รักจำนวนไม่น้อยที่ยังคงบอกรักด้วยการมอบดอกกุหลาบแก่กัน แต่ส่วนใหญ่นิยมบอกรักกันทาง social media มากกว่า

โครงการฝึกอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.)สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (14 ก.พ. 57) ที่ค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) โดยมีนายเสรี พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริพงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าร่วม

กระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงของสังคมไทย ฟื้นฟูสมานฉันท์ของคนในชาติ ลดความเสี่ยงจากผลกระทบของภัยคุกคามด้านความมั่นคงในรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ความขัดแย้งในสังคม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ในการสร้างจิตสำนึกด้านความมั่นคงทำให้ประชาชนเกิดความรักและความสามัคคี มีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งองค์กรภาคประชาชน ในพื้นที่ บนพื้นฐานความร่วมมือของคนและชุมชนจึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ขึ้น ในการฝึกอบรมครั้งนี้ได้พิจารณาคัดเลือกราษฎรในพื้นที่ ที่ยังไม่ได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านจำนวน 10 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 10 คนรวม 100 คน เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต โดยใช้วิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ เช่นสมาชิกอส. กรมการปกครองของจังหวัด สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จาก ศพส.จ.ภูเก็ต

ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จัดขึ้นเป็นรุ่นแรก มีหน้าที่ในการช่วยเหลือหน่วยงานส่วนราชการไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ความขัดแย้งในสังคม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ไม่ใช่ลูกน้องแต่เป็นเพื่อนร่วมเดินทางในการสร้างสรรค์สังคม ทุกคนต้องมี หลักคิด มีความคิดริเริ่ม ในการดูแลป้องกันพื้นที่ต่างๆ มีความแข็งขันแข็งแรงต่อการปฎิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ต้องประพฤติตนตั้งมั่นอยู่ในความดีงามวางตนให้ถูต้องถูกกาลเทศะ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานส่วนราชการจะปฎิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบไม่ได้หากการความร่วมมือจากชาวบ้านที่จะดูแลป้องกันและสนับสนุนให้ชุมชนดำรงไปด้วยความผาสุข

ในวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปีเป็นวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ ปรากฎว่าในวันดังกล่าวจะมีคู่รัก คู่สมรสให้ความสนใจ และเห็นความสำคัญของความรักที่มีให้แก่กัน มาขอจดทะเบียนสมรสเป็นจำนวนมาก ได้เห็นความสำคัญของวันดังกล่าว จึงได้จัดให้มีการบริการจดทะเบียนสมรสขึ้นเป็นกรณีพิเศษขึ้นอีกในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีคู่รัก คู่สมรสเดินทางมาจดทะเบียนสมรสมากกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ชายหญิงจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้การจดทะเบียนสมรสในวันดังกล่าวให้เป็นประเพณีนิยมถือปฏิบัติต่อไป ให้เกิดความสัมพันธ์ทางครอบครัวที่ดี มีความรักสมัครสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตลอดจนสิทธิและหน้าที่มีต่อกันฉันท์สามี-ภรรยาตามกฎหมาย อันเป็นการสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว และเป็นที่ยอมรับของสังคม ครอบครัวได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรส ไม่ต่ำกว่า 100 คู่

คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรส เนื่องในวันแห่งความรักคึกคักโดยเฉพาะที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต คาดมีคู่รักมาจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 100 คู่

วันที่ (14 ก.พ. 57) ที่ว่าการอำเภอเมือง จ.ภูเก็ต นายเสรี พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสเนื่องในวันแห่งความรัก โดยมี นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมืองเมืองภูเก็ต รวมถึงบรรดาคู่รักที่มาจดทะเบียนสมรส

เนื่องในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก อ.เมือง จ.ภูเก็ตคักคักไปด้วยคู่สมรสที่เป็นคู่คนไทย และคู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติกับคนไทย ที่จูงมือกันมาจดทะเบียนสมรสกันเป็นจำนวน ซึ่งบางคู่ได้พาลูกตัวเล็ก ๆ มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ทำให้บรรยากาศการจดทะเบียนสมรสในวันนี้มีความอบอุ่นยิ่งขึ้น

ในวันที่ 14 ก.พ.ของทุกปีเป็นวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ ปรากฎว่าในวันดังกล่าวจะมีคู่รัก คู่สมรสให้ความสนใจ และเห็นความสำคัญของความรักที่มีให้แก่กัน มาขอจดทะเบียนสมรสเป็นจำนวนมาก ได้เห็นความสำคัญของวันดังกล่าว จึงได้จัดให้มีการบริการจดทะเบียนสมรสขึ้นเป็นกรณีพิเศษขึ้นอีกในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีคู่รัก คู่สมรสเดินทางมาจดทะเบียนสมรสมากกว่าปีที่ผ่านมา
เพื่อรณรงค์ให้ชายหญิงจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้การจดทะเบียนสมรสในวันดังกล่าวให้เป็นประเพณีนิยมถือปฏิบัติต่อไป ให้เกิดความสัมพันธ์ทางครอบครัวที่ดี มีความรักสมัครสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตลอดจนสิทธิและหน้าที่มีต่อกันฉันท์สามี-ภรรยาตามกฎหมาย อันเป็นการสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว และเป็นที่ยอมรับของสังคม ครอบครัวได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

กิจกรรม “เชื่อมั่นปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยบริการ” เพิ่มขีดความสามารถและ เสริมประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัยการให้บริการนักท่องเที่ยว ในเทศกาลวันวาเลนไทน์

กรมการท่องเที่ยว จับมือ ตร.ท่องเที่ยวจัดกิจกรรม "เชื่อมั่นปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยบริการ” เพิ่มขีดความสามารถและ เสริมประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัยการให้บริการนักท่องเที่ยว ในเทศกาลวันวาเลนไทน์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 13 ก.พ. 57 ที่ลานบริเวณลานอเนกประสงค์ ถนนบางลา หาดป่าตอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดงาน โครงการเชื่อมั่น ปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก โดยมี นายสมชัย ใหม่จันทร์แดง รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวต้อนรับ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการนักท่องเที่ยวเสริมประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติด้วยการจัดแคมเปญ "เชื่อมั่นปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวไทยให้บริการ” Stand by you ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวในการได้รับการดูแลตลอดการเดินทางในประเทศไทย พร้อมปล่อยคาราวานตำรวจท่องเที่ยว พบปะนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลข่าวสาร พร้อมแนะนำช่องทางการให้ความช่วยเหลือสร้างความอุ่นใจแก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ณ ลานอเนกประสงค์ ถนนบางลา หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

ตำรวจท่องเที่ยวได้ปรับแผนกลยุทธ์ในการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทดแทนพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งนักท่องเที่ยวได้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างชื่นชอบทะเลในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ นักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย สแกนดิเนเวียและยุโรป นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว จากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเส้นทางมายังภูเก็ตมากขึ้น วัดได้จากการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ในช่วงเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา เฉลี่ย 3,300 คน ต่อวัน เติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับ เดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในปี 2558จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี ขึ้น ภูเก็ตถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางทางการบินแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าในปี 2558จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่าปีละ 15 ล้านคน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าปลอดภัยที่เดินทางมาเที่ยวในเมืองไทย ภายในงานอกจากจะมีการแสดงบนเวทีสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีการเดินรณรงค์แจกใบปลิวประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยว การเสริมสร้างการป้องกันอาชญากรรม การประทุษร้ายชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวซึ่งในช่วงเดือนแห่งความรัก นอกจากนี้ยังมีรถบริการเคลื่อนที่ของตำรวจท่องเที่ยวมาจอดให้บริการ เพื่อรับแจ้งความ รวมทั้งให้บริการให้คำแนะนำข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว /อินเตอร์เน็ทไร้สายความเร็วสูง เครื่องแฟกซ์ ไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

ชาวภูเก็ต ร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ เพื่อร่วมทำบุญ มอบโลหิตเป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

ประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ เพื่อร่วมทำบุญ มอบ โลหิตเป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

วันที่ (14 ก.พ.57) ที่ชั้น 4 ธนาคารเลือด อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต ประชาชนทั่วไปจำนวนมากต่างเดินทางมาบริจาคโลหิต เนื่องในวันมาฆบูชาและวันแห่ง ความรัก เพื่อร่วมทำบุญในการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยการบริจาคโลหิตพร้อมรับต้นกุหลาบเป็นที่ระลึก นางอัมไพ แสงวิจิตร นักเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยว่า ธนาคารเลือด รพศ.วชิระภูเก็ต จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมทำบุญเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยการบริจาคโลหิตมากขึ้น โดยรพศ.วชิระภูเก็ต เปิดรับบริจาคโลหิตในโอกาสวันสำคัญเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี อาทิ 12 สิงหาคม / 5 ธันวาคม และวันสำคัญอื่น ๆ ซึ่งในครั้งนี้ตั้งเป้าจำนวนโลหิตที่ได้รับบริจาคไว้ จำนวน 80 ยูนิต

นอกจากนี้ ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ทุกวัน ณ ห้องธนาคารเลือด ชั้น 4 ตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต ติดต่อสอบถามได้ที่โทร 076-361234 ต่อ 1285

พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เนื่องในวันมาฆบูชา พร้อมร่วมริ้วขบวนผ้าพระบฏพระราชทาน ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี เป็นประธานปล่อยริ้วขบวนผ้าพระบฏพระราชทาน เนื่องในวันมาฆบูชา ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยในปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดจัดงานประเพณี "มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติที่เมืองนครฯ” ขึ้นในระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช และวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่ปฏิบัติสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนานเกือบ 800 ปี อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสนับสนุนการผลักดันวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร(พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช) เป็นมรดกโลก

โดยวันที่ (14 ก.พ.57) ได้จัดให้มีพิธีปล่อยริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏพระราชทาน จำนวน 5 ผืน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตามด้วยขบวนเกียรติยศ ขบวนผ้าพระบฏของหน่วยงาน อำเภอ สถานศึกษา องค์กร กลุ่มพลังมวลชน จากปะรำพิธีหน้าศาลาประดู่หก ถนนราชดำเนิน ไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยตลอดขบวนได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

งานจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ณ เขามัทรี

วันที่ 14 ก.พ. 2557 ณ บริเวณจุดชมวิวเขามัทรี ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในงานจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ณ เขามัทรี (LOVE ON THE MUST SEE MOUNTAIN) ปีที่ 1 เนื่องในเทศกาลวันแห่งความรัก (Valentines Day) พร้อมด้วย นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอเมืองชุมพร และนายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศบาลเมืองชุมพร เพื่อเชิญชวนและรณรงค์ให้ชายหญิงจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฏหมาย อันเป็นการสร้างความอบอุ่นมั่นคงให้กับสถาบันครอบครัว อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร อีกทางหนึ่งด้วย โดยมีคู่สมรส พร้อมญาติ พี่น้อง รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศแบบเรียบง่าย เต็มไปด้วยธรรมชาติ วิวทะเล ชายหาด และตัวเมืองชุมพร ที่สามารถมองจากยอดเขามัทรีได้ทุกมุม

งานทะเบียนสมรสนอกสถานที่บนเขามัทรีแห่งนี้ อ.เมืองชุมพรจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีคู่สมรสมาจดทะเบียนสมรสถึง 39 คู่ โดยได้แจ้งความประสงค์ไว้ล่วงหน้าจำนวน 26 คู่ นอกจากนี้ยังมีคู่สมรสจากต่างจังหวัด เช่น ประจวบคิรีขันธ์ กระบี่ และตรัง มาร่วมจดทะเบียนสมรสในวันนี้อีกด้วย

จุดชมวิวเขามัทรี มีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 200 คนต่อวันขึ้นมาเยี่ยมชม ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลอ่าวไทยและชุมชนเมืองชุมพรได้แบบ 360 องศา และยังสามารถสักการะองค์พระอวโลกิเตศวร พระมหาโพธิ์สัตว์กวนอิมท่าประทับนั่งแผ่เมตตาบนยอดเขามัทรีได้อีกด้วย โดยขอแสดงความชื่นชมคู่สมรสทุกคู่ที่ได้มาร่วมกิจกรรมวันนี้ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงความรัก ขอให้มีความรักหนักแน่น เข้มแข็ง และมั่นคงเหมือนเขามัทรีแห่งนี้ตลอดไป

สำหรับบรรยากาศการจดทะเบียนสมรส เป็นไปอย่างเรียบง่าย มีการจัดซุ้มดอกไม้ให้คู่รักได้ร่วมถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกรอบๆ บริเวณจุดชมวิว นอกจากนี้ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร ยังได้จับฉลากแจกบัตรห้องพักที่โรงแรมชื่อดังในจังหวัดชุมพร ซึ่งได้ให้การสนับสนุนห้องสวีทรูมฟรี แก่คู่รักที่โชคดีไปฮันนีมูนกว่า 10 คู่อีกด้วย 

บรรยากาศวันมาฆบูชา ที่วัดพระมาหธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่มาร่วมแห่ผ้าห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์

ตั้งแต่ชาวงเช้าที่ผ่านมา ที่วัดพระมาหธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช แน่นขนัดไปด้วยพุทธศาสนิกชน จากทุกสารทิศทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลมาร่วมทำบุญและประกอบพิธีแห่ผ้าพระบฏ เนื่องในวันมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุปี 255โดยมีการนำผ้าขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์อย่างไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ประเพณีมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่ปฏิบัติสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนานเกือบ 800 ปี อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสนับสนุนการผลักดันวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร(พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช) เป็นมรดกโลก ขณะที่การจราจรมุ่งสู่วัดติดขัดเช่นกัน ซึ่งพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นประเพณีเก่าแก่สืบทอดกันมานาน

ส่วนช่วงเย็นวันนี้จะมีพิธีแห่ผ้าอย่างยิ่งใหญ่จากสนามหน้าเมืองไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยจะมีพระภิกษุจากหลายประเทศเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้

องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง มอบเมล็ดพันธ์ข้าวพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี แก่เกษตรกรชาวนา ในพื้นที่ อ.เมืองและอ.ควนขนุน

เมื่อวันที่ ( 13 กุมภาพันธ์ 2557 ) ที่ลานเอนกประสงค์ สนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุงมอบเมล็ดพันธ์ข้าวพระราชทาน "ข้าวหอมชลสิทธิ์” ซึ่งเป็นเมล็ดพันธ์ข้าวพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมูลนิธิชัยพัฒนา จำนวน 13 ตัน แก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง จำนวน 6 กลุ่ม แยกเป็นพื้นที่ อำเภอเมือง ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรชาวนา หมู่ที่ 1 ต.ชัยบุรี กลุ่มทำนาท่าสำเภา หมู่ที่ 4 ต.ชัยบุรี และกลุ่ม ทำนาบ้านอ้ายใหญ่ หมู่ที่ 2 ต.ชัยบุรี และในพื้นที่ อ.ควนขนุน ประกอบด้วย ศูนย์สาธิตวิสาหกิจชุมชน บ้านท่าช้างพื้นฟูเศรษฐกิจ หมู่ที่ 5 ต.พนางตุง กลุ่มเกษตรกรทำนาบ้านสุนทราออก ต.ปันแต และกลุ่มปลูกข้าว หมุ่ที่ 4 บ้านโคกวา ต.ควนขนุน ซึ่งประสบอุทกภัยตั้งแต่ปลายปี 2556 ทำให้พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหาย สร้างความปลื้มปิติให้กับเกษตรกรอย่างล้นพ้น

สำหรับ ข้าวหอมชลสิทธิ์ เป็นพันธุ์ข้าวหอม ทนน้ำท่วม ไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยว 120 วัน ผลผลิตสูง 820-1000 กก./ไร่ ทนน้ำท่วมได้นานถึง 2 สัปดาห์ ลำต้นใหญ่แข็งแรง รวงยาว ข้าวสารที่สีได้ เป็นข้าวหอมนุ่ม เหนียว ลักษณะข้าวคล้ายหอมมะลิ 105 เป็นลูกผสมของข้าวทนน้ำท่วมกับข้าวขาวดอกมะลิ 105

ข้าวหอมชลสิทธิ์ถูกคัดเลือกให้มีคุณสมบัติการหุงต้มแบบข้าวขาวดอกมะลิ เมล็ดข้าวมีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ทั้งปี ดังนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่นาที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ง่าย


ติยะภพ  ปุรินทราภิบาล/สนง.ประชาสัมพันธ์จ.พัทลุง

พิธีมอบเงินสนับสนุนมูลนิธิเทศบาลเมืองพัทลุง

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 นายสุเมธ บุญยก นายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง เป็นประธานในพิธีมอบเงินสนับสนุนมูลนิธิเทศบาลเมืองพัทลุง ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองพัทลุง ตามที่เทศบาลเมืองพัทลุงดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิเทศบาลเมืองพัทลุง ทะเบียนเลขที่ 3/2556 เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการจัดการศึกษาโรงเรียนในสังกัด กิจกรรมทางด้านการศึกษา รวมทั้งกิจกรรมการกุศลเพื่อสาธารณประโยชน์อื่นๆในการนี้ หน่วยงานองค์กรมูลนิธิ และบุคคล จำนวน 7 องค์กร มีจิตศรัทธา บริจาคสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิเทศบาลพัทลุงในพิธีดังกล่าว ดังนี้

1.คุณสุเมธ-คุณสารภี บุญยก จำนวน 10,000บาท
2.ผู้บริหาร พนักงาน พนักงานครู และพนักงานจ้างเทศบาลเมืองพัทลุง จำนวน 135,000บาท
3.มูลนิธิ อ.พิมพ์ บุญยก จำนวน 5,000บาท
4.โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ จำนวน 20,000บาท
5.คุณศิวาพร มนูญดาหวี จำนวน 20,000บาท
6.คุณเจริญ-คุณสมมิตร ศรีสุวรรณ จำนวน 10,000บาท
7.คุณกนิษฐา ยอมทรัพย์ จำนวน 50,000บาท รวมยอดเงิน จำนวน 250,000บาท

นายสุเมธ บุญยก นายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง กล่าวต่ออีกว่า เทศบาลเมืองพัทลุงขอบพระคุณหน่วยงาน องค์กร และภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนมูลนิธิเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิจะมีการประชุมสรุปเพื่อพิจารณาการดำเนินการมอบทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป  

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งและแสดงตนเป็นพุทธมามกะเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557

วันที่ (14 ก.พ.57) เวลา 07.00 น. นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาพร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา นักเรียน นักศึกษาร่วมกันทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง พระสงฆ์ 30 รูป ณ วัดประชุมโยธี อ.เมือง จ.พังงา เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา "วันมาฆบูชา” ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ในเวลา 09.30 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมโยธี นางสุคนธ์ เจริญกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ การถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และพิธีเวียนเทียนรอบอุโบสถ โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพังงา นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

สำหรับวันมาฆบูชา คือการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๓ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ แก่พระภิกษุอรหันต์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งเดินทางมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และพระภิกษุอรหันต์ทั้งหมดล้วนแต่อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนทุกคน ต่างพร้อมใจกันเข้าวัดร่วมทำบุญการตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เพื่อบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว อีกทั้งเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวด้วย 

พุทธศาสนิกชนในจังหวัดนราธิวาส ประกอบพิธีเวียนเทียนและแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เนื่องในวันมาฆบูชา น้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย

วันที่ (๑๔ ก.พ ๕๗ )  เวลา ๑๖.๓๐  น. ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส  ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส

นายณัฐพงศ์  ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นำข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน  ร่วมพิธีเวียนเทียนและแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เนื่องในวันมาฆบูชา โดยมีพระครูสุวัฒนากร เจ้าอาวาสวัดทุ่งกง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์จำนวน ๙ รูป ร่วมประกอบพิธีและให้ศีล จากนั้นประธานในพิธี และพุทธศาสนิกชน ร่วมประกอบพิธีเวียนเทียน โดยทางวัดได้กำหนดพิธีเวียนเทียนขึ้นในช่วงเย็นเวลา ๑๖.๓๐ น. ซึ่งเร็วกว่าจังหวัดอื่นๆ  ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงาน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนชาวพุทธ พร้อมใจกันทำบุญ เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือน ๓ ของทุก ๆ ปี ในวันมาฆบูชานี้ เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ นับว่าเป็นวันที่พระพุทธศาสนาได้วางรากฐานมั่นคง เรียกวันดังกล่าวนี้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต"

พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ นับว่าเป็นวันที่พระพุทธศาสนาได้วางรากฐานมั่นคง เรียกวันดังกล่าวนี้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต"  

@import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);



นำเสนอโดย  ผลดา ชูสิงห์

จังหวัดนราธิวาส จัดประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ปี ๒๕๕๗

วันที่ ( ๑๔ ก .พ .๕๗ ) เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาการเปรียญวัดพรหมหมนิวาส  อ.เมือง จ.นราธิวาส  นางอุษณีย์    ธุวโชติ   วัฒนธรรมจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโครงการแข่งขันสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ  ระดับจังหวัดประจำปี ๒๕๕๗  แบ่งการแข่งขันเป็นระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา   โดยมีโรงเรียนที่ส่งนักเรียนเข้าประกวดดังกล่าว จำนวน ๑๐ โรง  ทั้งนี้การจัดแข่งขันสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะครั้งนี้ ทีมที่ชนะการแข่งขัน จะได้เข้าประกวดในระดับภาค ที่จังหวัดสตูลต่อไป

สำหรับโครงการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้วัฒนธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ดำเนินการจัดโครงการขึ้นเพื่อให้วัดกับประชาชนมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยโครงการดังกล่าวจัดให้มีกิจกรรม การประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ตามหลักของวิถีชาวพุทธต่อไป

ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญต่างๆ ที่สำคัญเนื่องในวันมาฆบูชา ของจังหวัดนราธิวาส  จัดให้มีตลอดทั้งวัน โดยช่วงเย็นของวันนี้ จะมีพิธีเวียนเทียน รอบอุโบสถ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส  (วัดเขากง ) ต.ลำภู อ.เมือง    จ.นราธิวาส  ในเวลา ๑๖.๓๐ น.


@import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);


นำเสนอโดย  ผลดา ชูสิงห์

พุทธศาสนิกชนนับหมื่นคน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและแห่ผ้าขึ้นธาตุที่นครศรีธรรมราช

พุทธศาสนิกชนนับหมื่นคน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร และแห่ผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ (14 ก.พ.57) ที่หน้าวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแก่พระสงฆ์ไทยและพระสงฆ์นานาชาติ จำนวน 100 รูป โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร/เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช(ธ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นอกจากนี้ได้มีพุทธศาสนนิกชนทุกเพศทุกวัยจากทุกทั่วสารทิศนับหมื่นคน ได้ร่วมพิธีแห่ผ้าพระบฏรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัว และบางครอบครัวได้เดินทางล่วงหน้ามาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 และนอนพักค้างที่วัด บ้านญาติ หรือโรงแรม ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติที่เมืองนครฯ” ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2557

โดยในช่วงเย็นวันนี้(14 ก.พ.57) จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดพิธีแห่ผ้าพระบฏพระราชทานของ 5 พระองค์ ประกอบด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดลั่นฆ้องปล่อยริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏพระราชทาน ริ้วขบวนเกียรติยศ และริ้วขบวนผ้าพระบฏของหน่วยงานต่าง ๆ จากบริเวณถนนราชดำเนิน สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อประกอบพิธีถวายผ้าพระบฏพระราชทานขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และประกอบพิธีเวียนเทียน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีแห่และถวายผ้าพระบฏพระราชทานขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช

พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีแห่และถวายผ้าพระบฏพระราชทานขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เนื่องในงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร ประจำปี 2557

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ (14 ก.พ.57) ที่บริเวณถนนราชดำเนิน สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีปล่อยริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฏพระราชทาน ผ้าพระบฏของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน เนื่องในงานประเพณีมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติที่เมืองนคร ประจำปี 2557 ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างประเทศได้ร่วมทำบุญและกิจกรรมทางวัฒนธรรมในวันมาฆบูชาโดยน้อมนำโอวาทปาฏิโมกข์ไปสู่การปฏิบัติ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวนครศรีธรรมราช ให้เป็นงานบุญนานาชาติ และสนับสนุนการเสนอพระบรมธาตุเจดีย์ สู่มรดกโลก

อีกทั้งเพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมโดยเน้นการรักษาและสร้างผ้าพระบฏให้เป็นเครื่องพุทธบูชาของพุทธศาสนิกชนโลก ซึ่งหลังลั่นฆ้องแล้ว ริ้วขบวนผ้าพระบฏของอำเภอทุกอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา และเอกชน จำนวน 52 ขบวนและริ้วขบวนพระสงฆ์นานาชาติ เริ่มเคลื่อนไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และปิดท้ายด้วยริ้วขบวนเกียรติยศผ้าพระบฏพระราชทาน จำนวน 5 ผืน ประกอบด้วยผ้าพระบฏพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยองคมนตรีได้ร่วมเดินในริ้วขบวนตลอดเส้นทางประมาณ 1 กิโลเมตรด้วย ซึ่งมีประชาชนชาวนครศรีธรรมราชและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก เมื่อริ้วขบวนผ้าพระบฏพระราชทานถึงมณฑลพิธีวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้มีการแสดงมโนราห์บูชาพระบรมธาตุ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีทางศาสนา นำกล่าวถวายผ้าพระบฏ และอัญเชิญผ้าพระบฏพระราชทานขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ประธานถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำเป็นอันเสร็จพิธี ประธานเดินทางกลับ

ต่อจากนั้นนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี2557 พร้อมกล่าวนำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช(ธ)/เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียคาถา กล่าวนำมาฆปูรณมีบูชา แล้วเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ เพื่อถวายเป้นพุทธบูชา ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี

พุทธศาสนิกชนยังคงเนื่องแน่นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

พุทธศาสนิกชนยังคงเนื่องแน่นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อนำผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในวันมาฆบูชา

วันที่ (14 ก.พ.57) ตลอดทั้งวันพุทธศาสนิกชนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากเนื่องแน่นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสักการะบูชาและนำผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต โดยส่วนใหญ่เดินทางกันเป็นครอบครัว มีการซื้อหรือทอนผ้าพระบฏผืนยาวนับสิบเมตรซึ่งส่วนใหญ่มีสีเหลืองจีวรพระ ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ และที่พ่อค้าแม่ค้านำมาให้บริการหลาละ 15 บาท เมื่อได้ผ้าพระบฏมาแล้วต่างก็นำผ้าพระบฏคลี่ออกจากม้วนแล้วเดินเข้าแถวตอนแห่รอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์จำนวน 3 รอบ จากนั้นก็นำผ้าพระบฏดังกล่าวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ หรือเจดีย์รายที่อยู่โดยรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตและพลังแห่งความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในช่วงวันมาฆบูชา ที่เชื่อว่า “เกิดมาหนึ่งชาติ ขอได้กราบพระบรมธาตุสักครั้ง” ถือว่าได้บุญกุศลที่แรงกล้าและเป็นมงคลแก่ชีวิต ส่วนการจราจรในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะถนนราชดำเนินและถนนโดยรอบวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร รถติดยาวนับกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและอาสาสมัครต้องทำงานกันอย่างหนัก

ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนจำนวนมากจากทุกจังหวัดภาคใต้ และจังหวัดต่าง ๆ ได้เดินทางไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสักการะและนำผ้าพระบฏขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ขณะที่บางคนได้เดินทางล่วงหน้ามาก่อน 1 วัน และตลอดทั้งวันของวันนี้ตั้งแต่เวลา 05.00 -21.00 น. พุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังคงเนื่องแน่นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อร่วมพิธีถวายผ้าพระบฏพระราชทานและประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ด้วย

จ.ตรัง จัดพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา พร้อมน้อมนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวัน

วันที่ (14 ก.พ.) เวลา 06.30 น. นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นำคณะส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ณ วัดกะพังสุรินทร์ (พระอารามหลวง) อ.เมืองตรัง ด้วยในวันที่ 14 ก.พ.เป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพระพุทธศาสนา กล่าวคือ เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ คือ วันนั้นตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 มีพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ท่านเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ผู้ได้รับบรรลุอภิญญา 6 พระอรหันต์เหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ คือ เป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธองค์ เมื่อวันนี้เวียนมาถึงพุทธศานิกชนได้ถือโอกาสบำเพ็ญกุศลบูชาพระรัตนตรัยเป็นกรณีพิเศษ เช่น ทำบุญตักบาตร และในช่วงค่ำวันนี้ เวลา 19.00 น. จะมีพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เจริญจิตภาวนา สมาทานศีล ฟังพระธรรมเทศนา และพิธีเวียนเทียน โดยกิจกรรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ คือ การเว้นจากการทำชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อมด้วยกาย วาจา ใจ และทำจิตใจให้มดจดบริสุทธิ์ผ่องใส และได้รำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และน้อมนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องพระไตรปิฎกเถรวาทมาศึกษาและ ปฏิบัติในชีวิตประจำวันของแต่ละคน