วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

การให้ใบเหลือง ใบแดงของ กกต. สามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ส่วนการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น สามารถอุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ศาลอุทธรณ์

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 กำหนดให้มี คณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นองค์กรอิสระมีหน้าที่ควบคุม ดูแลการเลือกตั้งและวินิจฉัยชี้ขาด ปัญหาการเลือกตั้งเพื่อให้การเลือกตั้งทุกระดับเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งใน การดำเนินการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ไม่อาจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพหากปราศจาก ซึ่งบทบัญญัติในการดำเนินการเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดเมื่อปรากฎว่าการเลือกตั้งไม่เป็นไป โดย สุจริตและเที่ยงธรรมซึ่งได้แก่การให้ใบเหลืองและใบแดง

การให้ใบเหลือง คือ การที่ กกต. ไม่ประกาศการรับรองผลการเลือกตั้งให้แก่ ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่วนการให้ใบแดง คือ การสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่กระทำการทุจริตการ เลือกตั้ง ส่งผลให้สิทธิในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหมดไป อำนาจหน้าที่ของ กกต. ดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่ารวมศูนย์เบ็ดเสร็จตั้งแต่การใช้อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจจากองค์กรอื่น

ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงได้จำกัดอำนาจของ กกต. ให้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่ก่อน ประกาศผลการเลือกตั้ง หากเป็นกรณีที่ กกต . ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว กกต. มีอำนาจเพียงทำ การสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อส่งสำนวนให้ศาลฎีกาวินิจฉัยสั่งการต่อไป สำหรับในกรณีของการ เลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นให้ส่งต่อศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาวินิจฉัย เพื่อให้การใช้อำนาจของ กกต. มีการตรวจสอบและกลั่นกรองความถูกต้องโดยศาลก่อน


วิชราวุฒิ แกล้วกล้าหาญ//เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ประจำปี 2556 ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ ที่จังหวัดสงขลา


วันนี้ (28 ม.ค. 57) ที่วัดแหลมทราย อ.เมือง จ.สงขลา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระภิกษุในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ โดยมี พระสงฆ์ที่เข้ารับตั้งใหม่ 66 รูป เลื่อนชั้น 59 รูป รวมทั้งหมด 125 รูป

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสงฆ์ ที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ดำรงสมณศักดิ์ตามสมควรแก่ฐานานุรูป มีพระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ตั้งแต่รองสมเด็จพระราชาคณะลงมาถึงระดับพระราชาคณะชั้นสามัญ รวม 71 รูป ซึ่งเข้ารับพระราชาทานสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 สำหรับพระสงฆ์ ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรระดับชั้นต่างๆ 2,017 รูป โดยได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ใหม่ 1,125 รูป พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ 892 รูป มีพระบรมราชานุญาตถวายผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กราบนมัสการขออนุญาตให้เจ้าคณะภาค 16 ,17, 18 เจ้าคณะจังหวัดสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถวายเครื่องสักการะ แด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มอบสัญญาบัตรและพัดยศ แก่พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ตามลำดับ


สุรินทิพย์ คงสุข //ข่าว
ชิดนัย แก้วมณีโชติ//ภาพ
27 ม.ค.57
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 จัดการซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเขตเทศบาลนครยะลา

วานนี้ (27 มกราคม 2557) เวลา 10.00 น.  ที่บริเวณสวนสาธารณะ “สวนขวัญเมือง” ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 ได้จัดการซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยในเขตเทศบาลนครยะลา ขั้นการควบคุมสถานการณ์และบริหารที่เกิดเหตุ โดยเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันของกองกำลังในพื้นที่ ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 , สถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา , อำเภอเมือง , เทศบาลนครยะลา , อาสาสมัครเมืองยะลา , มูลนิธิกู้ภัยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ,มูลนิธิกู้ภัยเจ้าแม่ทับทิม , ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) , ชุดสุนัขทหารและกองกำลังภาคประชาชนในการปฏิบัติงานเมื่อเกิดเหตุ ในพื้นที่ โดยเป็นการตั้งเหตุการณ์สมมติ ซึ่งมีกองกำลังภาคประชาชนผู้พบเหตุการณ์ ได้แจ้งเหตุผ่านวิทยุเครื่องแดง (กุญชร) จากนั้นแจ้งเหตุไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเพื่อกระจายข่าวสารและจัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยในเมือง โดยมีหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 , สถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา,อำเภอเมือง เข้าทำการปิดกั้นพื้นที่ซึ่งมีมูลนิธิกู้ภัยเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว , มูลนิธิกู้ภัยเจ้าแม่ทับทิมสนับสนุน การจราจร และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลาอำนวยความสะดวก เพื่อให้หน่วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) , ชุดสุนัขทหารทำการตรวจค้นตรวจสอบพื้นที่ และทำการเก็บหลักฐานในพื้นที่ โดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้การซักซ้อมแผนฯ เป็นไปด้วยดี ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ในการนี้ พลตรี เกษม    ธนาภรณ์  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา , นายสมเกียรติ  ศรีษะเนตร นายอำเภอเมือง และหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ ได้ร่วมสังเกตการณ์การซักซ้อมแผนฯ ในครั้งนี้ด้วย  พลตรี เกษม ธนาภรณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้กล่าวว่า การซักซ้อมแผนฯ ในครั้งนี้ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยในเขตเทศบาลนครยะลาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งทหาร , ตำรวจ , ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชน ทั้งนี้ เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา ว่าจะได้รับการดูแลจากกองกำลังในพื้นที่ ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข

บริษัทเรือบรรทุกน้ำมันอรพิน 4 เตรียมกู้เรือในสัปดาห์หน้า หลังคลื่นลมลดความรุนแรงลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ

นาวาโทสาธิต ชินวรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพคลื่นลมในอ่าวไทยลดความรุนแรงลงเกือบเข้าสู่ภาวะปรกติ แต่ยังคงอยู่ในช่วงของฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ ทางนายอุทัย พลาศรี กัปตันเรือ อรพิน 4 ของบริษัท ไทยปิโตรเลี่ยมแทงค์เกอร์ จำกัด ได้เตรียมที่จะทำการกู้เรือบรรทุกน้ำมันเกยชายหาดสมิหลาสงขลา บริเวณแหลมสนอ่อน ในสัปดาห์หน้าหลังเรือเกยชายหาดมานานเป็นเวลา 19 วัน โดยถูกคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา ทำให้สภาพเรือเปลี่ยนไปอยู่ในสภาพเกยชายหาดขนานกับชายฝั่ง เปลี่ยนไปจากเดิมที่อยู่ในสภาพที่ตั้งฉากกับฝั่ง ทำให้เป็นการยากในการกู้เรือ โดยจะต้องใช้บริษัทกู้เรือที่มีความชำนาญในการกู้เรือในสภาพแบบนี้เข้ามาดำเนินการ ในขณะนี้ทางบริษัท ไทยปิโตรเลี่ยมแทงค์เกอร์ จำกัด ตกลงให้บริษัท บี.เค.เค จำกัด ทำการกู้เรือ เนื่องจากมีความชำนาญในการกู้เรือในสภาพเกยชายหาดขนานกับชายฝั่ง โดยได้ออกแผนในการกู้เรือเสนอมาทางกรมเจ้าท่าแล้ว ในสัปดาห์นี้อยู่ระหว่างการเตรียมงาน ทั้งเตรียมเรือดูดทราย รถตักเซาะร่องเพื่อขุดทรายเป็นร่อง ให้เรือไหลออกตามร่องได้ โดยใช้เรือทักลากจูงกำลังสูง จำนวน 2 ลำ มาดำเนินการลากจูงออก ทางบริษัทกู้เรือจะเข้าดำเนินการกู้เรือในสัปดาห์หน้าทันที โดยไม่คำนึงว่าจะมีคลื่นลมแรงหรือไม่ เพื่อที่จะเร่งกู้เรือออกจากชายหาดสมิหลา บริเวณแหลมสนอ่อนให้เร็วที่สุด หลังที่ต้องล่าช้ามาหลายสัปดาห์

สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันอรพิน 4 ถูกคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย ซัดมาเกยตื้นบริเวณแหลมสนอ่อนชายหาดสมิหลา ด้านหลังสงขลาอะควาเรี่ยม เขตเทศบาลนครสงขลา เมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 9 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ขณะที่จอดลอยลำทอดสมอ เพื่อหลบคลื่นลมแรงอยู่บริเวณหลังเกาะหนู สมอกราวเกิดเลื่อนหลุด แม้กัปตันจะพยายามเดินเครื่องจักรใหญ่แต่ไม่ทัน ประกอบกับขณะเกิดเหตุมีคลื่นลมแรงจัด ทำให้เรือถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยชายหาดบริเวณแหลมสนอ่อน ชายหาดสมิหลา



ผู้สื่อข่าว : สุธิดา พฤกษ์อุดม
เรียบเรียงขึ้นเว็บไซต์ : สุรินทิพย์ คงสุข

คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา ระบุหากไม่มีข้อยุติ หรือคำสั่งเลื่อนเลือกตั้ง ยะลาพร้อมเดินหน้าเลือกตั้งเต็มที่


ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา ศาลากลางจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 57  นายธวัชชัย อินสะโร คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในส่วนการของจัดการเลือกตั้งของจังหวัดยะลา วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ หาก กกต.กลางไม่มีคำสั่งข้อยุติว่าจะเลือกตั้งหรือไม่ ทาง กกต.จังหวัดยะลา ก็ดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งต่อไป ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.นี้ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดยะลา ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่างแล้ว ทั้งเอกสาร วัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเลือกตั้ง ส่วนในเรื่องของการออกมาคัดค้านการเลือกตั้งของผู้ที่มีความเห็นต่าง ทาง กกต.ยะลา ก็มีความเข้าใจถึงความรู้สึกของกลุ่มผู้คัดค้านการเลือกตั้ง (กลุ่ม กปปส.ยะลา) และกลุ่มผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง (เสื้อแดง) ทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น กกต.จะทำการเลือกตั้งต่อไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับส่วนกลางและรัฐบาลทำการตกลงกัน

นายธวัชชัย อินสะโร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดยะลาไม่มีข้อติดขัดอะไร คงมีเพียงในส่วนของการดำเนินการจัดอบรมเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และการรับบัตรเลือกตั้งจากส่วนกลาง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้จัดส่งมา คาดว่าใน 3-4 วัน หากมีการจัดส่งมาก็สามารถดำเนินการได้พร้อมทันเวลา ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัย ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ดูแลหน่วยเลือกตั้ง ดูแลเส้นทาง อย่างเข้มข้น


ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส.ยะลา

รองเลขาธิการฯ ศอ.บต. มอบนโยบายการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


ที่สำนักการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2557 เวลา 09.20 น. ว่าที่ร้อยตรีเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา  จำนวนกว่า 50 คน

ว่าที่ร้อยตรีเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การดำเนินงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  มีด้วยกัน 2 ส่วน อย่างแรกคือการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ เช่น กฎอัยการศึก และพระราชบัญญัติฉุกเฉินในพื้นที่  ต่าง ๆ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ  โดนหมาย ป.วิอาญา. ซึ่งถือว่าตกในฐานะผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบหรือไม่ หากศาลยังไม่มีคำสั่งถึงที่สุดตัดสินออกมาแล้วว่าเป็นผู้ก่อเหตุกระทำความผิด  ให้ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ งานส่วนที่สอง คือ งานในด้านการพัฒนา     ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในส่วนของผู้กระทำผิดจริงและผู้ที่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ถือว่า ศอ.บต.มีอำนาจโดยตรงในการดูแลช่วยเหลือ การเยียวยาไม่เพียงแต่ในด้านกฎหมายเท่านั้น แต่ต้องเยียวยาที่จิตใจอีกด้วย สำหรับผู้ที่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ  ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยการมอบเงินเยียวยาจำนวน 3 หมื่นบาท  และชดเชยวันละ 400 บาทสำหรับการชดเชยจำนวนวันที่ถูกคุมขัง ส่วนสำหรับผู้ที่พิสูจน์แล้วว่ากระทำความผิดจริง  ศอ.บต.จะดำเนินการช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต  ด้านอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัว พร้อมทั้งดูแลเยียวยาด้านจิตใจ เช่น การพาครอบครัวไปเยี่ยมผู้ต้องหา การย้ายนักโทษให้มาคุมขังในคุกที่อยู่ในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้อยากให้ทุกคนปลอดภัยในการใช้ชีวิต สุขภาพแข็งแรงเป็นกำลังหลักของครอบครัวต่อไป


สำนักการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.รายงาน

คนร้ายป่วน ฉีดพ่นสีสเปรย์ป้ายและพื้นถนน Pattani Merdika"(เอกราชปัตตานี) ที่ท่าสาป ขณะที่เจ้าหน้าที่ 3ฝ่ายซ้อมแผนป้องกันเหตุในพื้นที่เขตเมือง


เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 57 เวลา 09.45 น. พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบพื้นถนนทางหลวงสาย 409 (ยะลา-บ้านเนียง)หมู่ 1 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา มีการใช้สเปรย์สีแดงพ่นข้อความ" Pattani Merdika"(เอกราชปัตตานี) ที่บริเวณป้ายบอกเส้นทาง และบนพื้นถนนทั้ง 2 ฝั่ง หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุดตำรวจภธรจังหวัดยะลาเข้าตรวจสอบ พบว่าคนร้ายต้องการปั่นป่วนสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

ขณะที่ ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองยะลา ที่สวนขวัญเมือง (พรุบาโกย) ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครยะลา ได้ร่วมปฏิบัติการณ์ซ้อมแผนเผชิญเหตุ โดยมี พล.ต.เกษม ธนาภรณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร นายอำเภอเมืองยะลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายกว่า 50 นาย ร่วมปฏิบัติการณ์ซ้อมแผนเผชิญเหตุ ป้องกันการเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เขตเมืองของกลุ่มก่อความไม่สงบ มีการจำลองเหตุการณ์ คนร้ายเผายางรถยนต์ แล้วโปรยตะปูเรือใบ เพื่อหลบหนี ชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังจากการตรวจสอบพบว่า มีรถยนต์ต้องสงสัย 1 คัน จอดไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด อโนทัย(ทหาร) ศาตรา(ตำรวจ ศชต.) และ ศรศึก-ศรชัย (ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา) เข้าตรวจสอบ หลังจากการตรวจสอบ พบมีระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในถังแก๊ปปิ๊กนิ๊ก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บกู้ได้สำเร็จ จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เข้าเก็บข้อมูลรายละเอียดของหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป หลังจากเคลียร์พื้นที่เสร็จสิ้นภารกิจ เจ้าหน้าที่ไดเปิดเส้นทางเพื่อให้ประชาชนได้สัญจรไปมา สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

พล.ต.เกษม ธนาภรณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมปฎิบัติการณ์ซ้อมแผนเผชิญเหตุ ป้องกันการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่เขตเมืองยะลา ขั้นตอนนี้เป็นการควบคุมสถานการณ์และบูรณาการของเจ้าหน้าที่ มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยามเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ สำหรับพี่น้องประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการแจ้งข้อมูลข้าวสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รู้ว่าขณะนี้เกิดสถานการณ์ ไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งข่าว เพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าระวังสถานการณ์ และช่วยกันสังเกต สิ่งผิดปกติ วัตถุต้องสงสัย เพื่อเป็นการป้องกันและช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่ อีกทางหนึ่งด้วย


ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส.ยะลา

บรรยากาศต้อนรับวันตรุษจีน ร้านค้าขายเสื้อผ้าที่ยะลาเงียบเหงา ซบเซา


วันที่ 28 ม.ค. 57 บรรยากาศต้อนรับเทศกาลวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา บรรดาร้านค้าต่างๆ ที่ขายสินค้า ในเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า ภาพรวมเป็นไปอย่างเงียบเหงา ยอดการซื้อเสื้อผ้าต่ำกว่าในปีที่ผ่านมา

นางสาวกฤษณพร  คคนางค์พงศ์  เจ้าของร้านเลดี้แฟชั่น เลขที่ 242 ถนนรวมมิตร (ปากซอยกาญจนา1) ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา กล่าวว่า ปีนี้กระแสของการจับจ่ายซื้อสินค้าโดยเฉพาะเสื้อผ้า เพื่อสวมใส่ในเทศกาลตรุษจีน เงียบเหงามาก เนื่องจาก พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดยะลา  ส่วนใหญ่ ต่างเดินทางไปร่วมชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม. จากปกติเทศกาลตรุษจีนในปีที่ผ่านมา สั่งสินค้าโดยเฉพาะเสื้อผ้ามาจำหน่าย จำนวนกว่า 500 ตัว แต่ปี้นี้ต้องลดปริมาณลง เหลือเพียงแค่ 70 ตัวเท่านั้น ซึ่งยังไม่มั่นใจว่า จะมีลูกค้ามาเลือกซื้อหรือไม่ สำหรับรายได้ในปีที่แล้วจากเดิมเฉลี่ยต่อวันขายได้ 10,000-20,000 บาท ปี้นี้คาดว่ารายได้ลดลง เพราะลูกค้าไม่กล้าใส่สีแดง รายได้ลดลงกว่า 80 %


ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส. ยะลา

จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมความพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ


จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมความพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2557

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 57 ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ปากพนัง นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประสานการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร.พร้อมด้วย ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระหว่างวันที่ 26 -27 มิถุนายน 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางจังหวัด ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมสถานที่การเสด็จทรงงานไว้ 4 แห่ง คือ 1.พื้นที่นาข้าว นากุ้ง และป่าจาก ตำบลขนาบนาก อ.ปากพนัง เป็นการอยู่ร่วมกันของราษฎรในพื้นที่นิเวศน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย 2.พระตำหนักประทับแรมอำเภอปากพนัง ต.หูล่อง อ.ปากพนัง 3.พื้นที่ป่าพรุเสม็ดขาว มูลนิธิชัยพัฒนา หมู่ที่ 11 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ณ บริเวณศาลหลวงต้นไทร 4.พื้นที่ส่งเสริมการผลิตข้าวครบวงจรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตามแนวพระราชดำริ หมู่ที่ 7 ต.ชะเมา อ.ปากพนัง ซึ่งทั้ง 4 พื้นที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการเตรียมความพร้อม

นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการ กปร. กล่าวว่า ในการเสด็จทรงงานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะทรงติดตามความก้าวหน้าโครงการต่าง ๆ ที่พระองค์ได้มีพระราชดำริไว้ เช่น การปลูกข้าวในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง การอนุรักษ์และฟื้นฟู การป้องกันไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง เป็นต้น



ส.ปชส.นศ. เมื่อ : 28 ม.ค. 2557

จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้ง

จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งหลังปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังไม่เกิน 140,000 ไร่ พร้อมวางมาตรการป้องกันไฟป่าพรุควนเคร็ง

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ของสำนักชลประทานที่ 15 กรมชลประทาน ระบุว่า ปริมาณน้ำฝนในปี พ.ศ. 2556 ที่ตกในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช วัดได้ประมาณ 1,960 มิลลิเมตร ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติ ซึ่งจากการวัดระดับน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และประตูระบายน้ำแพรกเมือง สูงกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อย ส่วนปริมาณน้ำที่กักเก็บในอ่างห้วยน้ำใส อ.ชะอวด ปัจจุบันมีปริมาณ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณกักเก็บสูงสุด 80 ล้านลูกบาศก์เมตร และจากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ(เอลนิโญและลานิญา)ด้วยวิธีการทางสถิติแล้ว ปรากฏว่า น่าจะเป็นไปด้านค่อนข้างแล้ง ดังนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมจะทำให้น้ำที่กักเก็บไว้ตามลำคลองสายต่าง ๆ และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสจะลดลง ทำให้ในช่วงฤดูแล้งจะขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีน้ำต้นทุนที่กักเก็บเพียง 120-130 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ดังนั้นในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรขอให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ส่วนการทำนาปรังในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังขอให้ทำในเขตชลประทานเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถปลูกได้ประมาณ 120,000-140,000 ไร่ จากปกติในฤดูแล้งที่มีฝนตกชุก สามารถปลูกข้าวได้ประมาณ 220,000 ไร่ นอกจากนี้ขอให้กรมชลประทานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันกำจัดพืชน้ำเช่น ต้นผักตบชวา ผักกระฉูด เป็นต้นที่กำลังแพร่กระจายตามคูน้ำคำคลองต่าง ๆ รวม 580 สาย รวมระยะทางประมาณ 1,600 กิโลเมตร โดยอาจหาวิธีนำวัชพืชเหล่านี้มาทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด แล้วนำแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป สำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2557 ที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเข้าไปดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขต 10 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีทั้งงบปกติ(งบฟังก์ชั่น)ของหน่วยงาน กรม กระทรวงต่าง ๆ งบพัฒนาจังหวัด งบกลุ่มจังหวัด และงบอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 260 ล้านบาท
นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาระดับน้ำในป่าพรุควนเคร็งเพื่อป้องกันไฟไหม้ป่านั้นขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อม สร้างทำนบ คันกั้นน้ำ หรือฝายชะลอน้ำต่าง ๆ ให้เรียบร้อยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากระดับน้ำลดลงมากขอให้เตรียมการวางแผนในการสูบน้ำเข้าไปยังในเขตป่าพรุด้วย นอกจากนี้ในช่วงฤดูแล้งอาจขอรับการสนับสนุนในการทำฝนหลวง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งด้วย


ส.ปชส.นศ. เมื่อ : 28 ม.ค. 2557

กปร.จัดตั้งศูนย์สาขาของศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง


สำนักงาน กปร.กำหนดให้โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์สาขาของศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. เปิดเผยว่า สำนักงาน กปร. โดยคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เห็นชอบให้โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และจังหวัดสงขลา เป็นศูนย์สาขาของศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อขยายผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ และผู้ที่สนใจทั่วไป

รองเลขาธิการ กปร. กล่าวว่า ในส่วนของการจัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ศึกษาดูงาน ฝึกอบรมพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้เกษตรกรเข้ารับการฝึกอบรมได้ในเดือนมีนาคม 2557 โดยในเบื้องต้นให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้คัดเลือกตัวแทนเกษตรกรจาก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ไปเรียนรู้ของจริง ไปกินไปนอน ไปปฏิบัติในพื้นที่จริงใช้ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เมื่อผ่านการอบรมแล้วก็จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาปรับปรุงอาชีพหรือขยายผลเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในพื้นที่ของตนเองต่อไป โดยสำนักงาน กปร. เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ผู้เข้าอบรมทุกคน

รองเลขาธิการ กปร. กล่าวด้วยว่า สำหรับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้าไปดำเนินงานในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเฉพาะการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรขอให้สอดแทรกความรู้เกี่ยวเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการลดใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อลดต้นทุนในการผลิตให้แก่เกษตรกรด้วย


ส.ปชส.นศ. เมื่อ : 28 ม.ค. 2557

กรมควบคุมมลพิษ ระบุผลการตรวจวิเคราะห์สารหนูในพื้นที่ตำบลหินตก มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบาดาล


กรมควบคุมมลพิษ ระบุผลการตรวจวิเคราะห์สารหนูในพื้นที่ตำบลหินตก มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้

กรมควบคุมมลพิษ ระบุผลการตรวจวิเคราะห์สารหนูในพื้นที่ตำบลหินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการที่กรมควบคุมมลพิษร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 11 สงขลา ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำรวม 12 จุด ในพื้นที่ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจวิเคราะห์หาปริมาณสารหนูในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีการเก็บตัวอย่าง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2556 ซึ่งผลการวิเคราะห์ปริมาณสารหนูมีค่าไม่เกินเกณฑ์อนุโลมสูงสุดในทุกจุดที่เก็บ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้(เกณฑ์อนุโลมสูงสุดมีค่าไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัมต่อลิตร) สำหรับการเก็บตัวอย่างน้ำครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2557 ซึ่งจะทราบผลประมาณต้นเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งจะแจ้งผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป

ทต.จันดี เชิญเที่ยวงานเทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย ประจำปี 2557


เทศบาลตำบลจันดี เชิญเที่ยวงานเทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2557

นายชาญวิจารณ์ เกียรติวุฒินนท์ นายกเทศมนตรีตำบลจันดี เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลจันดี ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอฉวาง กำหนดจัดงาน “เทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ถนนสายกลางตลาดจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาด 100 ปี และให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิมของชาวจันดี ตลอดจนได้นมัสการและชื่นชมบารมีพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

นายกเทศมนตรีตำบลจันดี กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย การแข่งขันการทำขนมเข่ง ขนมเทียน การประกวดการทำข้าวหลาม การแข่งขันทำขนมค่อม การแข่งขันการกินหมี่เกี๊ยวจันดี การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การแข่งขันบาสเก็ตบอล ร่วมชมชิมช้อปของดีตลาด 100 ปี และสนุกสนานกับการแสดงบนเวทีกลาง การแสดงของศิลปินนักร้อง และรำวงเวียนครกทุกคืนตลอดงาน

สำหรับพิธีเปิดงานในวันที่ 30 มกราคม 2557 เริ่มเวลา 20.00 น.โดย จัดให้มีการแสดงมังกรทอง ไหว้เทวดาฟ้าดิน การแสดงชุดกวนอิมพันมือ การจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดงาน จึงขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เที่ยวชมงาน “เทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ถนนสายกลางตลาดจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

เริ่มแล้วงาน “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล องค์ราชัน”


เริ่มแล้วงาน “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล องค์ราชัน” ณ บริเวณชุมชนท่าวัง ถนนเนรมิต วงเวียนหน้าสถานีรถไฟ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ร่วมกับ องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนนครศรีธรรมราช จัดงานฉลองตรุษจีนไชน่าทาวน์เมืองนคร “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล องค์ราชัน” ระหว่าง 28 ม.ค. – 1 ก.พ.57

ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วันตรุษจีน 2557 หรือ ตรุษจีน 2014 ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 โดยในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เคารพนับถือ ชาวจีนจะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง และถือว่าวันตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป ดังนั้น เทศบาลนครนครศรีธรรม ราช ร่วมกับ องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนนครศรีธรรมราช กำหนดจัดกิจกรรมงานฉลองตรุษจีนไชน่าทาวน์เมืองนคร โดยใช้ชื่องานว่า “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล องค์ราชัน” ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณชุมชนท่าวัง ถนนเนรมิต วงเวียนหน้าสถานีรถไฟ ทั้งนี้เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมชาวไทยเชื้อสายจีน และเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่ชาวชุมชนมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เที่ยวฟรี ชมฟรี เลือกชิมอาหารอร่อยหลากชนิดกว่า 50 ชนิด จากทั่วประเทศ การออกร้านผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปและชุมชนเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีกำหนดการ ดังนี้
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลา 18.30 น. – การแสดงจากวงดนตรี
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศรีทวี
พุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลา 17.00 น. - ลงทะเบียนรับของที่ระลึก
เวลา 18.30 น. - การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์
เวลา 19.00 น. - พิธีเปิดงานฉลอง “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล” องค์ราชัน
โดย ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช
นายกสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราช ประธานจัดงานกล่าวรายงาน
- การแสดงของนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลปนครนครศรีธรรมราช
เวลา 19.30 น. – การแสดงวงดนตรี

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลา 18.30 น. – การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร
เวลา 19.30 น. – การแสดงวงดนตรี
เวลา 23.00 น. - ถวายสักการะรับเสด็จเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่สิ่งเอี้ย)

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลา 07.00 น. - พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 88 รูป เนื่องในวันตรุษจีนบริเวณถนนเนรมิต วงเวียนหน้าสถานีรถไฟ
เวลา 18.30 น. - การแสดงของนักเรียนโรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก
- การแสดงของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศาลามีชัย
เวลา 19.00 น. - การแสดงโดยกลุ่มองค์กรชาวไทยเชื้อสายจีน จังหวัดนครศรีธรรมราช
เวลา 19.30 น. - รับพรตรุษจีนปีอาชา 2557
1. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
2. ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช
3. นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
4. นายกสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราช
เวลา 20.00 น. - การแสดงสิงโตทองข้ามเสาดอกเหมย
เวลา 20.30 น. - การแสดงมังกรทองไต่เสาสูง / การจุดพลุ – ดอกไม้ไฟ โดยคณะการแสดงจากจังหวัดนครสวรรค์

วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557
เวลา 18.30 น. - การแสดงของนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
เวลา 19.30 น. - การแสดงวงดนตรี
เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จึงขอเชิญประชาชนทุกท่าน เที่ยวชมงาน “ตรุษจีนปีอาชา 87 พรรษามหามงคล” องค์ราชัน ระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณชุมชนท่าวัง ถนนเนรมิต วงเวียนหน้าสถานีรถไฟ สอบถามรายละเอียดการจัดกิจกรรมได้ที่ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โทร.075-342880 – 2 ต่อ 131 หรือ 132

ผู้ว่าฯชุมพร เสนอจีนขยายตลาดสินค้าการเกษตร พร้อมขอให้พิจารณา นำเข้ารังนกนางแอ่นจากประเทศไทย

กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชน จีน เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมือ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เสนอให้จีนขยายตลาดสินค้าการเกษตร พร้อมกับขอให้พิจารณา การนำเข้ารังนกนางแอ่นจากประเทศไทย

ที่ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร นาย จัง จิ้น สง  (Mr.Zhang Jinxiong) กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชน จีนประจำสงขลา พร้อมด้วยคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมหารือในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน

นายพีระศักดิ์  หินเมืองเก่า  ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เสนอขอความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ เรื่องของ การขยายตลาดสินค้าการเกษตรของจังหวัด ชุมพร ได้แก่ผลไม้ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน  ซึ่งก่อนหน้านี้ จังหวัดชุมพรได้ จัดโรดโชว์สินค้าเกษตร ที่เมืองคุนหมิงประเทศจีน โดยเฉพาะทุเรียน เป็นที่ชื่นชอบของคนจีนเป็นอย่างมาก ถ้าหากมีการขยายตลาด น่าจะทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ในส่วนของยางพารา และปาล์มน้ำมัน ในปัจจุบันมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำอย่างมาก ถ้าประเทศจีนเพิ่มการนำเข้า หรือขยายตลาด น่าจะส่งผลให้ราคาดีขึ้นด้วย  และอีกประเด็นที่ได้เสนอก็คือเรื่องของ การส่งออกรังนกนางแอ่น ซึ่งจังหวัดชุมพร มีการให้สัมปทานรังนกนางแอ่น แก่ผู้ประกอบการหลายราย และในตอนนี้ประสบปัญหาการส่งออกไปยังประเทศจีน จึงอยากให้พิจารณาการนำเข้ารังนก นางแอ่นจากไทย  นอกจากข้อเสนอด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีด้านการศึกษา ซึ่งในขณะนี้นักเรียน นักศึกษา มีความสนใจภาษาจีน เพิ่มมากขึ้น  จึงขอสนับสนุนบุคลากรด้านภาษา มาสอนภาษาจีน แก่นักเรียน นักศึกษาเพิ่มเติม และในเรื่องของการท่องเที่ยว อยากให้มีการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วย

นาย จัง จิ้น สง  กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา กล่าวว่า รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องที่เสนอมาจะนำเสนอในระดับสูงต่อไป ซึ่งในอนาคตประเทศจีนจะเพิ่มมูลค่าการค้าขายกับประทศไทย กว่า 1 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี ในการขยายตลาดสินค้าการเกษตรนั้น จะดำเนินการประสานงานที่เกี่ยวข้องให้ และพร้อมที่จะแนะนำนักธุรกิจในประเทศจีนมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ส่วนนักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุนในประเทศจีน ก็จะอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ในเรื่องของการนำเข้ารังนกนางแอ่น ในขณะนี้สถานการณ์ไข้หวัดนกได้ลดลงแล้ว และจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง  ส่วนในการร่วมมือด้านการศึกษานั้น จะสนับสนุน และพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

ชมรมมวยปล้ำ สพล.ชุมพร สู้ฝรั่งเดือดศึกมิ๊กมาร์เชียลอาร์ต หัวหิน

นางสาวณัฐฐา ชลสินธุ์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนชมรมมวยปล้ำ สพล.ชุมพร เปิดเผยว่า ชมรมมวยปล้ำ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร ได้ส่งทีมนักกีฬาไปร่วมการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสาน รายการ มิ๊ก มาร์เชียล อาร์ต ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 57 ที่ผ่านมา โดยนักกีฬาประกอบด้วย นางสาวแก้วใจ ประชุมวงศ์ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 56 กก., นายณัฐพล รัตรมนตรี รุ่น 55 กก., พีรพล พุทธซ้อน 67 กก. และ ธีรยุทธ บุญเพ็ชร์ รุ่น 71 กก. ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่านักสู้จาก สพล.ชุมพร ต้านทานความแข็งแกร่งของนักสู้ชาวต่างชาติไม่ได้ มีเพียง แก้วใจ ประชุมวงศ์ สาวแกร่งเพียงหนึ่งเดียวที่มีลุ้น หลังทำคะแนนนำคู่ต่อสู้ได้ใน 2 ยกแรก แต่มาพลาดท่ายกสุดท้ายโดนคู่แข่งที่มีน้ำหนักมากกว่าพลิกขึ้นมาล็อคคอจนหายใจไม่ออกจึงต้องยอมแพ้พ่ายไปในที่สุด

นางสาวณัฐฐา ชลสินธุ์ กล่าวว่า การส่งทีมมวยปล้ำไปร่วมสู้ศึก มิ๊ก มาร์เชียล อาร์ต ครั้งนี้ เพื่อให้นักกีฬาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการได้แข่งขันกับนักสู้มืออาชีพมาพัฒนาตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมตัวสู่ศึกในการแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติต่อไป

สำหรับศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม (Mixed martial art; MMA) เป็นการต่อสู้ที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แชมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู มีทั้งการเตะต่อย และการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ โดยกฎติกาของศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมผสานยุคแรกๆ ไม่มีตายตัวไม่มีกฎกติกา แต่มีการห้ามจิ้มตา และห้ามเตะเป้าในการแข่งเป็นแพ้คัดออก ใครชนะเข้ารอบ แข่งขันวันเดียวจบ แพ้ชนะอยู่ที่การน็อกคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ และกรรมการในเวทีสั่งยุติการแข่ง ก่อนมีการพัฒนาขึ้น มีแข่งขันตามน้ำหนัก ผู้เข้าแข่งขันต้องใส่ถุงมือนวม ใส่ฟันยาง มีการพักยก แพทย์สนามสั่งยุติแบบการแข่งขันมวย และครั้งนี้ใช้การแข่งขัน 3 ยก ๆ ละ 5 นาที รวมทั้งการห้ามใช้ศอกด้วย

สาธารณสุขเทศบาลเมืองชุมพร ลงพื้นที่ดูการเป็นอยู่แรงงานต่างด้าว หวั่นโรคติดต่อ

ศูนย์ บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองชุมพร ลงพื้นที่ชุมชนราษฎร์วิถีใน เขตเทศบาลเมืองชุมพร ตรวจเยี่ยมการเป็นอยู่ พร้อมให้คำแนะนำวิธีดูแลสุขภาพ แก่แรงงานต่างด้าว โดยส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า เพื่อป้องกันการเกิดโรคติดต่อ จากลูกจ้างที่เป็นแรงงานต่างด้าว

เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองชุมพร ลงพื้นที่ชุมชนราษฎร์วิถีใน เขตเทศบาลเมืองชุมพร ซึ่งมีแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาใช้แรงงานในจังหวัดชุมพร อาศัยอยู่ กว่า 50 ครอบครัว เพื่อตรวจเยี่ยมการเป็นอยู่ พร้อมให้คำแนะนำวิธีดูแลสุขภาพ แก่แรงงานต่างด้าว และเพื่อป้องกันปัญหาโรคติดต่อ ที่อาจติดมากับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่

นางอรสุรัชย์ ปฐมโรจนฤทธ์ หัวหน้าศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองชุมพร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้แรงงานในประเทศไทยมากขึ้น และส่วนใหญ่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้ผ่านระบบการตรวจสุขภาพ และเมื่อเข้ามาอาศัยในเมืองไทยก็อยู่กันอย่างแออัด โรคติดต่อจึงแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากระบบการควบคุมป้องกันโรคไม่ดีพอ คนต่างด้าวอาจนำโรคมาแพร่สู่คน ไทยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะนายจ้าง และมีลูกจ้างเป็นแรงงานต่างด้าว ต้องทำงาน กินอยู่ใกล้ชิดกับคนกลุ่มนี้ โดยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดต่อจากแรงงานต่างด้าว เพราะกว่าครึ่งเป็นแรงงานเถื่อนที่ลักลอบเข้าเมืองมาขายแรงงานอย่างผิดกฎหมาย โดยไม่มีการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

โดยส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า ซึ่งระบบการดูแลสุขภาพในประเทศเหล่านั้นยังไม่ได้มาตรฐาน การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อยังไม่ครอบคลุมประชากรตั้งแต่วัยเด็ก เช่น วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด ซึ่งคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตั้งแต่เด็ก จึงมีภูมิคุ้มกันต่อโรคดังกล่าว และด้วยนิสัยการดูแลสุขอนามัยของ แรงงานเหล่านี้ไม่ดี ทำให้เกิดโรคติดต่อ ผ่านทางน้ำ อาหาร ได้ง่าย ซึ่งโรคที่ต้องระวังมากที่สุด คือ วัณโรค  โรคมาลาเรีย อหิวาตกโรค ไข้กาฬหลังแอ่น โรคเท้าช้างที่มักจะพบในหมู่แรงงานชาวพม่า และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างโรคเอดส์และโรคซิฟิลิส อีกด้วย

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 จัดงานวันครู ประจำปี 2557

16 ม.ค. 2557 เวลา 09.00 น. ณ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพร นายวัลลพ สงวนนาม ผู้อำนวยการคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 1 เป็นประธานในพิธีทางศาสนา เนื่องในวันครู ประจำปี 2557 เฉลิมพระเกียรติพระผู้ทรงเป็นแม่ และครูแห่งแผ่นดิน ภายใต้คำขวัญ "เทิดพระเกียรติทั่วหล้า กตัญญูบูชา แม่และครูแห่งแผ่นดิน" มี นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอเมืองชุมพร นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี โดยมีบุคลากรคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 กว่า 1000 คน เข้าร่วมพิธี เพื่อน้อมระลึกพระคุณของครู อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบูรพาจารย์

นายวัลลพ สงวนนาม กล่าวว่า การจัดงานวันครู ประจำปี 2557 นับเป็นครั้งที่ 58 เป็นปีที่สำคัญยิ่งที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ "พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน" น้อมระลึกในพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่าน ในความเป็นครูและพระมหากรุณาธิคุณต่อการศึกษา โดยทรงอบรมสั่งสอนและทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง ทรงเป็นครูของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ควรอย่างยิ่งที่จะพร้อมใจระลึกในพระมหากรุณาธิคุณและดำเนินตามรอยพระยุคลบาทด้วยความมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ปฏิบัติตามาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นเด็กดี มีประสิทธิภาพต่อไป

นอกจากนี้คุรุสภา ยังได้มอบเข็มเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตรครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2556 เพื่อส่งเสริมสมรรถนะและประสิทธิภาพ การจัดการเรียนการสอนของครูที่ปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติตนดี มีผลงานดีเด่น ให้มีศักยภาพสูงขึ้น เสริมสร้างศรัทธา และเป็นแบบอย่างที่ดีในวิชาชีพครู สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม โดยจังหวัดชุมพรมีครูที่ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติและเกียรติบัตร จำนวน 15 คน ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบเกียรติบัตรในโครงการ ครูดีในดวงใจ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2557 ได้แก่ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นางมณีพรรณ เจริญจิต ครูโรงเรียนชุมชนมาบอำมฤต และระดับเขตพื้นที่การศึกษา นางเวียงจิต จินาทิตย์ ครูโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 77 (บ้านเนินสันติ)

กอ.รมน.ภาค 4 สย.1 ฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันยาเสพติด

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 (กอ.รมน.ภาค 4 สย.1) จัดการฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันยาเสพติด ประจำปี 2557 เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ราษฎรตระหนักถึงปัญหายาเสพติดและเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน และเพิ่มศักยภาพในการปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 (กอ.รมน. ภาค 4 สย 1) จัดการฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันยาเสพติด ประจำปี 2557 ณ บริเวณสนามหน้าศาลาเขตอุดมศักดิ์ ค่ายเขตอุดมศักดิ์ อ.เมือง จ.ชุมพร โดย พันเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ราษฎรในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย ได้ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดและเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน เสริมสร้างบทบาทภาคประชาชนและชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและชุมชนตนเอง รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นแหล่งข่าวสำหรับรายงานข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้ค้าผู้เสพและปัญหาด้านความมั่นคงอื่นๆ ในพื้นที่ชุมชน พร้อมกับพัฒนาสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารกับราษฎรในพื้นที่ให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

พันเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ กล่าวว่า ตามที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 ดำเนินตามโครงการจัดตั้งหมู่บ้าน ชุมชนเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติด โดยการนำราษฎรในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายมาเข้ารับการฝึกอบรม ทั้งในรูปแบบการฝึกและสาธิต ให้ผู้เข้ารับการฝึก มีประสบการณ์และทักษะ เกี่ยวกับศิลปะกาต่อสู้ป้องกันตัวในระยะประชิด เทคนิคการตรวจค้นตัวผู้ต้องสงสัยอย่างถูกวิธี และการยิงปืนด้วยกระสุนจริง เพื่อสร้างความคุ้นเคยและการปฏิบัติที่ถูกต้อง ก่อนนำประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกครั้งนี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับการฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันยา เสพติดครั้งนี้ ใช้เวลาอบรม 1 วัน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และ อ.กระบุรี จ.ระนอง จำนวน 220 คน โดยมีวิทยากรผู้มากด้วยประสบการณ์ จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ทำหน้าที่ให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม

กปปส.ชุมพร ปิดล้อมสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้

26 ม.ค.2557  กปปส.ชุมพร  รวมตัวชุมนุม บริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านท่าตะเภา ตำบลท่าตะเถา อำเภอเมืองชุมพร  และหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร ซึ่งเป็นสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และในเขตจังหวัด เขตเลือกตั้งที่ 1 พร้อมกับจัดตั้งเวทีปราศรัยเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในครั้งนี้

กลุ่ม กปปส.ชุมพรได้ตั้งเต๊นท์ และเวทีปราศรัยบนถนน หน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านท่าตะเภา เพื่อปักหลักชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง โดยเริ่มชุมนุนตั่งแต่ช่วงเช้ามืดก่อนเวลาเปิดหน่วยเลือกตั้งในเวลา 08.00 น. และจะชุมนุมจนถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดหีบเลือกตั้ง หรือจนกว่าจะมีการประกาศเลื่อนการเลือกตั้ง เพื่อกดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง เข้ามาเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ประกาศบนเวทีว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด จะใช้เพียงเสียงนกหวีดเท่านั้น

โดยตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ยังไม่สามารถเข้าไปทำการเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ เพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมบริเวณประตู ทางเข้าออก ของสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้าไว้ ประกอบกับ เกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั้งกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม

ซึ่งกลุ่ม กปปส.ไม่เห็นด้วยกับการการเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงนัดชุมนุม เพื่อขัดขวางการเลือกตั้ง เพราะไม่ต้องการรัฐบาลชุดนี้กลับบริหารประเทศโดยต้องการปฏิรูปประเทศ แก้กฎหมายกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด รวมทั้งกฎหมายพรรคการเมือง ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า เสียก่อน

กลุ่มมวลชน กว่า 2,000 คน ร่วมตัวกันปิดหน่วยงานราชการหลายแห่งในจังหวัดชุมพร

กลุ่ม พลังมวลชนชาวจังหวัดชุมพร กว่า 2,000 คน ได้มาร่วมตัวกันปิด สถานที่ราชการหลายแห่ง ร่วมไปถึงสถานศึกษา เพื่อไม่ให้ข้าราชการปฏิบัติงานได้ พร้อมขอให้ข้าราชการออกมาร่วมกับกลุ่ม เพื่อแสดงจุดยืนในการต่อต้าน ระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาล

เมื่อวันที่  20 ม.ค. 2557  เวลา 09.30 น. ได้มีกลุ่มพลังมวลชนชาวจังหวัดชุมพร กว่า 2,000 คน ได้มาร่วมตัวกัน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร พร้อมนำแผ่นป้ายข้อความว่า " ขออภัยผู้ปกครอง พี่น้อง ประชาชน ถึงเวลาทวงคืนประเทศไทย ปิดทำการ จนกว่ารัฐบาลจะลาออก โดย กปปส.ชุมพร" มาติดไว้ที่หน้าประตูทางเข้า ที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร และขอให้ข้าราชการหยุดงาน และออกมานอกอาคารสำนักงาน ก่อนทำการปิดประตูเข้าออก เพื่อไม่ให้ข้าราชการทำงานได้ หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุม ได้เดินทางต่อไปยัง สำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร เพื่อทำการติดแผ่นป้าย พร้อมกับปิดประตูเข้าออกสำนักงานเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ กลุ่มมวลชนเดินทางไปปิดอาคารสำนักงานราชการหลายแห่ง ร่วมไปถึงสถานศึกษาหลายแห่งเช่นกัน

ซึ่งกลุ่มมวลชน ได้ประกาศว่าจะปิดหน่วยงานราชการจนกว่ารัฐบาลรักษาการจะลาออก  พร้อมกับเรียกร้องให้ข้าราชกา รในจังหวัดชุมพรหยุดงาน  และให้ออกมาร่วมกับกลุ่ม เพื่อแสดงจุดยืนในการต่อต้าน ระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาล และจะไปร่วมตัวที่ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร เพื่อทำการปิดเช่นกัน

งานแถลงข่าวสภากาแฟและผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชนจังหวัดชุมพร

จังหวัดชุมพรจัดงานสภากาแฟและผู้ว่าฯพบสื่อมวลชน บนยอดเขามัทรี แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพร พร้อมประชาสัมพันธ์ 3 กิจกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังจะจัดขึ้น ได้แก่ กิจกรรมปั่นสองน่อง...ท่องสองประเทศ, เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ เชิงอนุรักษ์, กิจกรรมวันแห่งความรัก (LOVE ON THE MUST SEE MOUNTAIN) ปีที่ 1

วันนี้ 15 ม.ค. 2557 เวลา 07.30 น. ณ จุดชมวิวเขามัทรี ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานงานแถลงข่าวสภากาแฟและผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชนจังหวัดชุมพร เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในจังหวัด โดยเฉพาะจุดชมวิวเขามัทรีซึ่งจะพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดชุมพรต่อไปในอนาคต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และภาคเอกชน รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วมงานกันอย่างชื่นมื่น

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า จุดชมวิวเขามัทรี นอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแล้ว ยังมี องค์พระอวโลกิเตศวร พระมหาโพธิ์สัตว์กวนอิม ที่จังหวัดชุมพรได้ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนบูรณะองค์เจ้าแม่กวนอิมท่าประทับนั่งแผ่เมตตาให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เคารพสักการะ และปรับปรุงภูมิทัศน์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมทัศนีย์ภาพและทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองชุมพร ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลอ่าวไทยและชุมชนเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชุมพร โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างยั่งยืน เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรที่กำลังจะเกิดขึ้น เร็วๆ นี้ เริ่มจากการแข่งขันกีฬา อบจ.คัพ "ประตูภาคใต้เกมส์" โดยมีทัพนักกีฬา อบจ. 14 จังหวัดภาคใต้ และ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ มาร่วมการแข่งขันระหว่างวันที่ 15 - 22 ม.ค. นี้ ต่อด้วย 25 ม.ค. โครงการปั่นสองน่อง...ท่องสองประเทศ  กับเส้นทางจักรยานจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชุมพรสู่เมืองมะลิวัลย์ ประเทศพม่า รวมระยะทาง 86 กม. เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ก่อนเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 8-9 เทศกาลล่องแพพะโต๊ะ เชิงอนุรักษ์ ที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสบ รรยากาศ ดินแดนแห่งภูเขาเขียว เที่ยวล่องแพ แลหมอกปก น้ำตกงาม ลือนามผลไม้ และวันที่ 14 ก.พ. วันแห่งความรัก (Valentines Day) โดย อ.เมืองชุมพร ขอเชิญคู่สมรสไปจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ณ เขามัทรี (LOVE ON THE MUST SEE MOUNTAIN) ปีที่ 1 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป

เปิดการแข่งขัน อบจ.คัพภาคใต้ ครั้งที่ 14 "ประตูภาคใต้เกมส์"

อบ จ.ชุมพร จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา อบจ.คัพ ภาคใต้ ครั้งที่ 14 “ประตูภาคใต้เกมส์” พร้อมต้อนรับนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ จาก 15 อบต. ในจังหวัดภาคใต้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 22  มกราคม 2557

เมื่อเย็นวันที่ 17 มกราคม 2557 เวลา 16.30 น. ณ สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร นางสาวสุดาวรรณ พฤกษ์เสถียร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา อบจ.คัพ ภาคใต้ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2557 โดยใช้ชื่อว่า “ ประตูภาคใต้เกมส์ ” โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร (อบจ.ชุมพร) เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15 – 22  มกราคม 2557 

สำหรับบรรยากาศในพิธีเปิด เริ่มด้วย เพลงประจำการแข่งขัน โดยศิลปินนักร้อง ทรงกรด ฌามา ต่อจากนั้นเป็นขบวนพาเหรดของนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ จาก อบจ. ทั้ง 15 จังหวัด ที่เข้าร่วมการแข่งขัน กว่า 2,000 คน เดินเข้าสู่สนาม นำโดย ช้างโชคดี สัตว์นำโชคประจำการแข่งขันในครั้งนี้ หลังจากนั้นเป็นพิธีเปิดการแข่งขัน และการจุดไฟในกระถางคบเพลิง ซึ่ง ร.ต.อ. บุญชู จันทร์เดชะ เป็นตัวแทนนักกีฬาวิ่งคบเพลิง ซึ่งการจุดนั้น ตัวแทนนักกีฬา วิ่งคบเพลิงจุดไฟไปที่เวทีกลางสนามเพื่อทำการจุด  ก่อนที่คบเพลิงจะประทุขึ้น พร้อมกับมีพลุสี ควันสี พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้กับนักกีฬา รวมไปถึงชาวชุมพรที่เข้ามาชมพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วยชุดการแสดง 2 ชุด ซึ่งเจ้าภาพจัดได้อย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความสวยงาม แสดงให้เห็นถึง อัตลักษณ์ของชาวชุมพร ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันทั้งสนามกีฬากลางจังหวัดชุมพรได้เป็นอย่างดี

นายสุพล จุลใส นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า เพื่อต้องการเชื่อมความสามัคคีและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง อบจ.ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้และ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ที่เข้ารวมด้วยในครั้งนี้ ร่วมไปถึงยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ส่งผลต่อการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังคำขวัญ สมานฉันท์ ร่วมสร้างสรรค์ ท้องถิ่นไทย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร อีกด้วย

ชุมพรเปิดตัวสโมสรทุ่มงบ 12 ล้านสู้ศึกลูกหนังดิวิชั่น 2 ภาคใต้ฤดูกาล 2014

"ขุนพลกรมหลวง" ชุมพร เอฟซี จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวนักเตะพร้อมสู้ ศึกฟุตบอลดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2014 นพพร อุสิทธิ์ ผจก.ทีม ลั่นทุ่มงบไม่ต่ำกว่า 12 ล้าน ตั้งเป้าเลื่อนชั้นลุยดิวิชั่น 1 พร้อมผุดโปรเจกต์ยักษ์สร้างรังเหย้าแห่งใหม่ให้ได้มาตรฐานหวังยกระดับสโมสรไปสู่ระดับประเทศ

วันนี้ 17 ม.ค. 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้องพุดพิชญา โรงแรมนานาบุรี สโมสรฟุตบอลชุมพร เอฟซี จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวนักเตะและชุดแข่งขันเตรียมสู้ศึกฟุตบอลเอไอเอสลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้ ฤดูกาล 2014 โดยมี ผศ.เสนีย์ นิลทจันทร์ รองประธานสโมสรชุมพร เอฟซี นายนพพร อุสิทธิ์ ผู้จัดการทีมชุมพร เอฟซี และนายนุกูล แก้วสวี ผู้ช่วยผู้จัดการทีมร่วมกันแถลงข่าว ถึงแนวทางการพัฒนาทีม การเตรียมความพร้อม การจัดการด้านต่างๆ ก่อนสู่ศึกดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้

นพพร อุสิทธิ์ ผจก.ทีม กล่าวว่า  ปีที่ผ่านๆ มา เรามีปัญหาในเรื่องของนักเตะและงบประมาณ ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินการทุกอย่างพร้อมที่จะลงฟาดแข้งกับทุกทีมในศึกดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้แน่นอน โดยปีนี้เราได้ตั้งงบประมาณในการสู้ศึกไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท ในการดูแลนักเตะและเฟ้นหาแข้งฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทัพให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อขึ้นไปเล่นลีกดิวิชั่น 1 ให้ได้ ขณะที่สนามเหย้าซึ่งปัจจุบันใช้สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพรแต่มีปัญหาในเรื่องพื้นสนาม และไฟฟ้า เราก็มีแนวทางที่จะสร้างรังเหย้าแห่งใหม่ให้ได้มาตรฐานเพื่อยกระดับสโมรขึ้นไปสู่ระดับประเทศต่อไปโดยขณะนี้กำลังดำเนินการจัดหาสถานที่ที่เหมาะสม ในส่วนการมาของ มิโรสลาฟ ทอธ ดาวดังคนใหม่ของขุนพลกรมหลวง ถือว่าสร้างกระแสสีสันและความแข็งแกร่งให้แก่ทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายทีมให้ความสนใจ แต่สุดท้าย ทอธ เลือกมาอยู่กับเราเชื่อว่า ชุมพร เอฟซี ปีนี้จะมีรูปแบบการเล่นที่หลากหลายเร้าใจแฟนบอลกว่าเดิมแน่นอน
สำหรับขุมกำลัง "ขุนพลกรมหลวง" ที่จะสู้ศึก ด. 2 ปีนี้ ประกอบด้วย เชาวลิต รำเพยพัฒน์ กับตันทีม, วันชัย ใจหวัง, จิระศักดิ์ ทิจันทร์, กฤษณะ ชัยมงคลรัตน์, ธนศักดิ์ ทีภูเวียง, ประเวช พงษ์พุทธา, ณรงค์ศักดิ์ เล้าพานิชวัฒนา, ศุภชัย มัยวงศ์, เดชดนัย จิตต์อุทัศ, วณิชชา อินญาวงศ์, มงคคล นกกาศักดิ์, อำนาจ ทรงรัมย์, ธีรยุทธ ฉันท์สำราญ, อนุสรณ์ กาละสังข์, อานนท์ ปราบอักษร, กฤษณพงศ์ บุรีภักดี, จักรกฤษณ์ ตาลประสิทธิ์, สิริชัย ไทรชมภู, ธนา ปุ่นประโคน, พาเวล ฮูเบส, บายีฮา บาเยมี, มิโรสลาฟ ทอธ และ คริสเตียน

ขณะที่ชุดแข่งฤดูกาล 2014 ได้บริษัท คีล่าสปอร์ต เข้ามาเป็นผู้สนับสนุน โดยชุดเหย้า เสื้อสีฟ้ามีรูปเรือกลมหลวงชุมพร อยู่ตรองกลาง กางเกงสีดำ ถุงเท้าสีดำ ส่วนชุดเยือนลายเดียวกัน เสื้อสีขาว กลางเกงสีดำ ถุงเท้าขาว ทั้งนี้ "ขุนพลกรมหลวง" ชุมพร เอฟซี มีโปรแกรมลงสนามอุ่นเครื่องนัดแรกพบกับ "อินทรีอันดามัน" กระบี่ เอฟซี ทีมระดับดิวิชั่น 1 ในวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. นี้ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดชุมพร