วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาการปิดถนนประท้วงส่งผลกระทบท่องเที่ยว

พ่อเมืองภูเก็ตดึงทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาการปิดถนนประท้วงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเมืองท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 57  ที่ห้องประชุมศาลากลางภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมหารือวาระยามเช้า โดยมี ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ และนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภุเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายก อบจ. ภูเก็ต พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม

กรณีปัญหาการปิดถนนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเกิดขึ้นถึง 2 แห่ง โดยที่แรกที่บ้านหมากปรก ต. ไม้ขาว อ. ถลาง และครั้งที่ 2 ที่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต. วิชิต อ. เมืองภูเก็ต ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้ถนนสัญจรไปมา

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง 2 แห่ง หัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้กระทบกับการท่องเที่ยวน้อยที่สุด โดยในส่วนของการแก้ปัญหาถนนทางโค้งเจ้าฟ้าตะวันตกมอบให้แขวงการทางภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลวิชิตเข้าไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน ขณะที่การปิดถนนบ้านหมากปรกในวันที่ 30 เม.ย. 57  เวลา 19.00 น. ที่มัสยิดบ้านหมากปรก ผวจ.ภูเก็ตจะนำส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ภาคประชาชน มาหารือทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก

เรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค 26 เรื่อง ได้ข้อยุติ 5 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นคดีซื้อขายที่ดินและบ้านจัดสรร

ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต แจงรอบ 7 เดือนมีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค 26 เรื่อง ได้ข้อยุติ 5 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นคดีซื้อขายที่ดินและบ้านจัดสรร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2557 โดยมีนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายเกรียงศักดิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนมายังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน 7 เรื่อง ได้ข้อยุติ 1 เรื่อง และส่ง สคบ. กลางพิจารณา 6 เรื่อง  ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 จนถึงวันที่ 29 เมษายน 2557 คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคทั้งหมด จำนวน 26 เรื่อง อยู่ระหว่างการดำเนินการ 21 เรื่อง ดำเนินการได้ข้อยุติ จำนวน 5 เรื่อง แยกเป็นเรื่องของ การไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา 13 เรื่อง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า จำนวน 11 เรื่องและไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโฆษณา จำนวน 2 เรื่อง รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภค จำนวน 10 ราย ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน บ้านจัดสรร คอนโนมิเนียม เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจากเรื่องร้องเรียนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทางคณะกรรมการได้มีการดำเนินการทุกเรื่อง โดยเชิญผู้ร้อง ผู้ถูกร้องมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุป และหลาย ๆ เรื่องสามารถตกลงกันได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนเรื่องที่ไม่สามารถตกลงกันได้ก็ให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นับถอยหลัง 200 วัน สู่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่ จ.ภูเก็ต

พิธีนับถอยหลัง 200 วัน สู่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-23 พ.ย. 2557 ที่จะถึงนี้ เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางชาวภูเก็ตและ นักท่องเที่ยวแห่ร่วมพิธีอย่างคับคั่ง.. เมื่อเวลา 18.00 น. เมื่อวันที่ 28 เม.ย.57 ที่ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการ โอลิมปิคแห่งประเทศไทย ฮุสเซน อัลมูซาลาม ผู้แทนจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) และนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีนับถอยหลัง 200 วัน การแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 14-23 พ.ย. ที่ จ.ภูเก็ต

สำหรับบรรยากาศในการนับถอยหลังเป็นไปอย่างอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนานและครึกครื้น โดยงานเคาท์ดาวน์ ครั้งนี้มีประชาชนชาวภูเก็ตให้ความสนใจเข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การแข่งขันบีชเกมส์ครั้งที่ 4 ให้ชาวภูเก็ตเกิดความตื่นตัวให้มากขึ้น
นายกนกพันธุ์ กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรหลักในการดำเนินการจัดการแข่งขัน
ขอให้คำมั่นในการทำงานและประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ประสบความสำเร็จ โดยครั้งนี้มีการจัดแข่ง 26 ชนิดกีฬา ใน 6 สนามแข่งขัน มีประเทศที่เข้าร่วม 45 ประเทศ และนอกจากการเป็นเจ้าภาพจัดเอเชี่ยนบีชเกมส์ เรายังได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญประจำปี สมาคมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย. 2557 ก่อนการแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ 1 สัปดาห์

ด้านนายฮุสเซน อัลมูซาลาม ผู้แทนจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) กล่าว ครั้งนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติจากโอซีเอให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ทั้งนี้ เชื่อว่าด้วยความพยายามและประสบการณ์ของประเทศไทย จะสามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จากวันนี้เหลือเวลาเพียง 200 วัน

คณะกรรมการจัดการแข่งขัน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เตรียมจัดการแข่งขันเป็นอย่างดี
ขณะที่นายไมตรี กล่าวถึงพิธีนับถอยหลัง 200 วัน การแข่งขันเอเชี่ยนบีชเกมส์ครั้งที่ 4 ว่า จังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมที่จะจัดการแข่งขันในครั้งนี้ โดยให้คำมั่นว่าจะทำอย่างดีที่สุด จะเป็นเจ้าภาพที่จะสร้างประสบการณ์อันประทับใจแก่ทุกคน ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเองนั้น จัดเตรียมเจ้าหน้าที่อาสมัครที่จะเข้ามาช่วยงานจำนวน 3,000 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นอกจากนี้ จะจัดตั้งปฏิบัติงานที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และในส่วนของการบริการด้านการคมนาคมขนส่ง ทางจังหวัดภูเก็ตมีการเตรียมรถที่จะให้บริการ ทั้ง รถบัส รถยนต์ ไว้แล้วบางส่วน

แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ซอยพะเนียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะลงพื้นที่ซอยพะเนียง อำเภอเมืองภูเก็ตจัดเวทีประชาคมร่วมกับเทศบาลตำบลรัษฎาและชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสีย ในพื้นที่ เพื่อติดตามรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่

เมื่อช่วงค่ำวันที่  26 เม.ย.57   ที่บริเวณศาลเจ้าจ้อซูก๊ง ซอยพะเนียง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ซอยพะเนียง อำเภอเมืองภูเก็ต จัดเวทีประชาคมร่วมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยพะเนียง เพื่อร่วมพูดคุยหารือตลอดจนหาทางออกในการแก้ปัญหาน้ำเสียจากซอยพะเนียงลงสู่คลองบางใหญ่โดยข้อสรุปที่ได้จากการหารือในเวทีประชาคมและนำไปสู่การบำบัดน้ำเสียใน 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 มาตรการเร่งด่วนจัดทำโดยทันทีดำเนินการเติมน้ำ EM และโยน EM Ball , สูบน้ำเสียปล่อยทิ้งในพื้นที่ว่าง และนำน้ำดีเติมเข้าไป แทนที่เพื่อเจือจางและทดลองเติมโอโซนเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการภายในเดือนเมษายน นี้ และ สร้างทำนบแบ่งแยกน้ำดี/ น้ำเสีย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับเหมา โดยใช้งบของเทศบาลตำบลรัษฎา จำนวน 14 ล้านบาท ระยะที่ 2 สำรวจชาวบ้าน/ สถานประกอบการเพื่อหาแหล่งปล่อยน้ำเสีย , ทำ MOU ระหว่างเทศบาลตำบลรัษฎา กับ องค์การกำจัดน้ำเสีย (อจน.) , จัดจ้างสำรวจหาค่าระดับ/ ทำแผนที่ ฯ เพื่อส่งข้อมูลให้ อจน. ออกแบบการบำบัด , ทดลองการทำขั้นบันไดด้วยกระสอบทราย หรือการถมดินและระยะที่ 3 ตั้งงบประมาณตามแบบของ อจน. และขอใช้พื้นที่จากเจ้าของพื้นที่เพื่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานในระดับจังหวัด อาทิ อุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลรัษฎา ร่วมตรวจสอบปัญหาน้ำเสียซอยพะเนียง ทุกระยะ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหาน้ำเสียดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไป

ตำรวจภูเก็ต จับกุมแรงงานต่างด้าวฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส

ตำรวจภูเก็ตจับกุมชาวพม่าฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เม.ย.57 พล.ต.ต. รชต เย็นทรวง รอง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต. วิศณุ ม่วงแพรสี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นาย ไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ. อรุณ แกล้ววาที พ.ต.อ. พีรยุทธ การเจดีย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ ศิริศักดิ์ วาสะศิริ รักษาการผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.อ. สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นาย claude de Crissey กงสุลฝรั่งเศสประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนาย SHWE OO@DAM หรือนายดาม หรือนาย ดำ อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นๆถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาที่ห้องพักภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.4 ซอยพัฒนา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้ไม้และก้อนหินเป็นอาวุธก่อเหตุเข้าไปชิงทรัพย์และฆ่านักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ทราบชื่อภายหลังคือนาย Fabrice Boigeol อายุ 37 ปี ขณะนอนหลับอยู่ภายในห้องพักหมายเลข 5 ของรีสอร์ต หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนและเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ทันที โดยมีสืบสวน สภ.ฉลอง ทีมสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทีมสืบสวนกองกำกับการ5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นคนงานต่างด้าวที่พักอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้เข้าตรวจสอบหาพยานหลักฐานจากที่พักคนงานต่าง ๆ

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ตายที่ถูกคนร้ายขโมยไปในคืนเกิดเหตุได้ ซึ่งประกอบด้วยกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปจากการเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในห้องพักหมายเลข 3 ของรีสอร์ตแห่งเดียวกัน ซึ่งคนร้ายได้เข้าไปงัดแงะในวันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้จำนวน 2 คน คือ นาย SHWE OO@DAM หรือนายดาม หรือนาย ดำ อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า และนาย โอ หรือ นาย Maung Myo อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า ในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเชื่อว่านายดาม น่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องมีพ่อแม่และญาติพี่น้องอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกติดตามจับกุมโดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาบริเวณสวนยางพาราบนภูเขาใกล้กับแคมป์คนงานก่อสร้าง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการสอบถามในเบื้องต้น นายดามให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายโอที่ยังหลบหนี ก่อเหตุใช้ไม้ตีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสจริง หลังจากก่อเหตุได้หยิบเอาทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวออกมาและนำมาแบ่งกันก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี นายดาม กล่าวถึงสาเหตุการลงมือฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ว่า โดยก่อนเกิดเหตุนายโอ ซึ่งยังหลบหนีอยู่ได้มาชักชวนให้ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ เนื่องจากไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้เคยถูกนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวด่า โดยหยิบเอาไม้จากร้านค้าแห่งหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุติดมือไปด้วย เมื่อไปถึงได้เข้าไปงัดกุญแจห้องพักห้อง ที่ 3 ของรีสอร์ตและขโมยทรัพย์สินออกมาส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นนายโอ และตนได้เดินต่อไปยังห้องที่ 5 และหยิบเอาก้อนซีเมนต์จากหลังห้องที่ 4 ไปด้วย เมื่อไปถึงห้องที่ 5 ซึ่งเป็นห้องพักนักท่องเที่ยวนายโอบอกให้ตนช่วยดูต้นทางและคอยตีซ้ำถ้านักท่องเที่ยวฟื้นขึ้นมา หลังจากนั้นนายโอได้เดินไปที่ประตูพบว่าประตูไม่ล็อกกุญแจ จึงเปิดประตูเข้าไปและใช้ไม้ที่เตรียมมาตีเข้าไปที่กกหูนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวทั้งที่ยังหลับอยู่จนตกเตียงและตีซ้ำอีก 2 ที จนนักท่องเที่ยวแน่นิ่ง ก่อนที่จะรื้อค้นทรัพย์สินออกมา ซึ่งก่อนจะลงมือตนได้บอกกับนายโอว่าอย่างเอาให้ตาย

หลังจากได้ทรัพย์มานายโอก็ได้แบ่งทรัพย์สินซึ่งเป็นกล้องถ่ายรูปให้กับตน ส่วนทรัพย์สินส่วนอื่นนายโอเป็นคนนำไป หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งตนได้หลบหนีไปอยู่กับครอบครองที่แคมป์คนงานก่อสร้าง แต่เพื่อนบอกว่าฝรั่งตายแล้ว จึงหลบหนีไปอยู่กับเพื่อนในสวนยางจนถูกจับกุมได้ในที่สุด

ขณะที่ นาย claude de Crissey กงสุลฝรั่งเศสประจำจังหวัดภูเก็ต รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวฝรั่งเศสรักที่จะมาเที่ยวและพักผ่อนที่ประเทศไทย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียใจมากที่คนร้ายฆ่าคนฝรั่งเศสเพื่อขโมยสิ่งของ ซึ่งคนที่ก่อเหตุมาอยู่ในประเทศไทยแต่มาทำให้ประเทศไทยเสียหาย ครั้งแรกที่ทราบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวถูกฆ่าตายตนก็ได้ใช้โทรศัพท์ของผู้ตายโทรไปหาญาติ สำหรับเบอร์โทรศัพท์เบอร์สุดท้ายที่ผู้ตายโทรออกไปคือเบอร์โทรของบิดา เป็นเรื่องที่ยากจะบอกกับทางญาติว่าลูกชายของเค้ามาเสียชีวิตที่ประเทศไทย

อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุสิ่งที่ครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนฝูงและคนฝรั่งเศสอยากเห็นคือการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดี ซึ่งก็ขอชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว

ชาวบ้านปิดถนนก่อนถึงสามแยกบ้านตีนเขา ม.3 ต.วิชิต หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อย ทำรถติดเป็นทางยาว

ชาวบ้านปิดถนนก่อนถึงสามแยกบ้านตีนเขา ม.3 ต.วิชิต หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อย ทำรถติดเป็นทางยาวผู้ว่าฯ รุดเจรจารับเร่งแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ชาวบ้านจึงยอมเปิดถนน.

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาที่บริเวณโค้งอันตรายก่อนถึงสามแยกบ้านตีนเขา ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนหนึ่งได้นำรถบัสสีขาว และรถกระบะมาจอดขางถนนทั้ง 2 เลน พร้อมนำเต็นท์ และร้านเหล็กมาวางกลางถนน พร้อมติดป้ายข้อความต่างๆ เช่น "โค้งอันตรายชีวิตมากมายตายไม่มีใครมาเหลียวแลเลย ต้องขอโทษด้วยเพราะมีคนตายมากมาย โค้งถึงแก่ชีวิต ประชาชนเดือดร้อน” และอื่นๆ อีกจำนวนมาก

ซึ่งจากการปิดถนนดังกล่าวทำให้การจราจรในเส้นทางดังกล่าวเป็นไปด้วยความลำบาก นาย ศิริชัย แสงปรีชาสกุล เจ้าของร้านค้า และมีบ้านอาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ กล่าว ที่ผ่านมา ทางชาวบ้านได้ไปยื่นหนังสือถึงทางจังหวัดเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาโค้งอันตรายในบริเวณดังกล่าวหลายครั้งแล้ว เหื่อหามาตรการในการดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุให้ลดลง ซึ่งที่ผ่านมา ทางแขวนการทางได้มาติดป้ายไวนิลเตือนว่าเป็นโค้งอันตาย และทำลูกระนาดแบบอ่อนจำนวน 3 จุด แต่พบว่าปัญหาไม่ลดลง ผู้ใช้รถใช้ถนนยังใช้รถด้วยความเร็วสูงทำให้รถหลุดโค้งไปชนบ้านเรือน และรถประชาชนที่จอดบริเวณหน้าบ้านบ่อยครั้ง รวมทั้งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด เมื่อช่วงหัวรุ่งของวันเดียวกัน ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้เป็นรถเก๋งเสียหลักแหกโค้งเข้ามาชนรั้วบ้าน และรถยนต์ของตนที่จอดไว้หน้าบ้านได้รับความเสียหาย ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถยนต์ของตนถูกชนได้รับความเสียหาย โดยก่อนนี้ถูกชนมาแล้ว 3 คัน ซึ่งนำไปซ่อมยังไม่ได้เอาออกจากอู่เลย วันนี้ชนอีก 1 คัน ซึ่งนอกจากบ้านตน ก็ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อน โดยต้องการเรียกร้องให้ทางหน่วยงานภาครัฐแก้ไขปัญหาดังกล่าว

หลังจากนั้นในเวลาประมาณ 14.00 น. นาย ไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อม พ.ต.อ. ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นาย สมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา โชติวิทชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือกับตัวแทนชาวบ้านที่รวมตัวกันปิดถนนในครั้งนี้ โดยหลังจากหารือไปได้ประมาณ 10 นาที ทางชาวบ้านก็ยินยอมเปิดถนนเพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้อย่างปกติ ส่วนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านนั้นได้กำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาไว้ 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน และระยะปานกลาง

สำหรับมาตรการในการแก้ไขปัญหานั้นกำหนดไว้ดังนี้ ระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย
 1.ทำเกาะกลางถนนชั่วคราว หรือแบริเออร์เพื่อให้รถวิ่งช้าลง ซึ่งจะทำให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์
 2.ทำป้ายเตือนชั่วคราวให้ชะลอความเร็วในบริเวณเส้นทาง
 3.เสริมลูกระนาดแบบอ่อนซึ่งมีอยู่แล้ว 3 จุดให้หนาขึ้น รวมทั้งเพิ่มระยะทางให้ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
 4.ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้รถขับเร็วเกินไป และตรวจปัสสาวะด้วย เนื่องจากอุบัติที่เกิดในบริเวณดังกล่าวเกิดในช่วงกลางคืน และพบว่าแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
 5.ขอให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และ
 6.การทำเกาะกลางถนนแบบถาวร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 3ล้านบาท เป็นงบของทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้เสร็จภายใน 5 เดือน

น.ส. เฉลิมลักษณ์ หมายเลข 1 มีคะแนนนำ นาย เปี่ยน หมายเลข 2 กว่า 1 พันคะแนน

ผลการนับคะแนนชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หรือศึกช้างชนช้าง อย่างไม่เป็นทางการ น.ส. เฉลิมลักษณ์ หมายเลข 1 มีคะแนนนำ นาย เปี่ยน หมายเลข 2 กว่า 1 พันคะแนน

เมื่อวันที่26 เม.ย.2557ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานผลการนับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง และนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อย่างไม่เป็นทางการว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 8,679 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 12,651 คน หรือมีผู้ออกมาใช้สิทธิคิดเป็น68.60% จำนวนผู้มีสิทธิ บัตรดี 8,488 ใบ บัตรเสีย 191 ใบ บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 188 ใบ

ทั้งนี้ ผู้สมัครที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 คือ น.ส. เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ จากกลุ่มป่าตองฟ้าใหม่ อดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ลงสมัครหมายเลข 1 ได้ไป 4,390 คะแนน อันดับที่ 2 คือ นาย เปี่ยน กี่สิ้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หมายเลข 2 กลุ่มรักป่าตอง ได้ไป3,330 คะแนน และอันดับที่ 3 คือ กิตติสัณห์ คุรุ หัวหน้ากลุ่มป่าตองก้าวหน้า อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ปี 2546 ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้ไป 580 คะแนน

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต คึกคัก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พื้นที่ป่าตอง มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 12,000 คนมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งและผู้มาใช้สิทธิ์ทั้ง 3 เขต จำนวน 23 หน่วยเลือกตั้ง

การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนถึงขณะนี้ในระดับจังหวัดยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งเข้ามาแต่อย่างใด

สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 2 โรงเรียนวัดสุวรรณ์คีรีวงค์ นั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นเดียวกัน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนี้ ทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมานั้น นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หมายเลข 1 ได้ออกมาใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้ง 2 พร้อมมารดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายเปี่ยน กี่สิ้น ผู้สมัครหมายเลข 2 และ นายกิตติสัณห์ คุรุ ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่สิทธิ์เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

พมจ.สตูล จัดประชุมตัวแทนเครือข่ายเวทีสมัชชา หวังเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว

วันนี้ (๓๐ เม.ย. ๕๗) ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายเพื่อการท่องเที่ยว (ศูนย์โอท๊อป) อ.เมือง จ.สตูล นายอุทิศ บุญช่วย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเวทีสมัชชาครอบครัวจังหวัดสตูล ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดงาน

สืบเนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ทำให้สภาพครอบครัวไทยในปัจจุบัน เกิดรูปแบบครอบครัวที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เป็นครอบครัวลักษณะพิเศษที่มีรูปแบบเฉพาะตัว มีสภาพปัญหาและความต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล จึงจัดประชุมสมัชชาครอบครัวระดับจังหวัดขึ้น เพื่อเปิดเวทีประดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาด้านครอบครัวในจังหวัด แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ และนำเสนอพร้อมหามติร่วมกัน ระหว่างครอบครัวและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน องค์กรสตรี อาสาสมัคร สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสตูล ชมรมคนพิการจังหวัดสตูล และภาคประชาชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับครอบครัว จำนวน ๘๐ คน

ทั้งนี้ มีประเด็นปัญหาสำคัญของจังหวัดสตูล ๓ ประเด็น ได้แก่ ปัญหาครอบครัวที่มีปัญหานำไปสู่การแตกแยก หย่าร้าง, ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และปัญหาเด็กและเยาวชนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยมีแนวโน้มว่าปัญหาดังกล่าวจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น เวทีสมัชชาจึงเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเสนอความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาสังคม ซึ่งข้อเสนอต่างๆ ของจังหวัดสตูลที่ได้รับการสะท้อนกลับมา จะถูกนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายด้านครอบครัวต่อไป



กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล

จังหวัดสตูล เน้นการปลูกปาล์มน้ำมันและปูนิ่มเป็นสินค้าตัวเด่นในฤดูกาลผลิต ๒๕๕๗/๒๕๕๘

นายอุดร จันทร์เทพ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล ได้ประชุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรเพื่อเตรียมพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิตของจังหวัด เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล กล่าวว่า เริ่มต้นฤดูกาลผลิตปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบให้หน่วยงานทุกจังหวัด ทำความเข้าใจเสริมความรู้แก่เกษตรกรว่าจะผลิตอะไร ผลิตช่วงไหน และจำหน่ายที่ไหน ใช้เทคโนโลยีด้านไหนบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสนับสนุนอย่างไร เบื้องต้นกำหนดจัดกิจกรรมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ถึงทิศทางการส่งเสริมผลผลิตทางด้านการเกษตร โดยนัดหมายแถลงข่าวในพื้นที่อำเภอควนกาหลง

นายอุดร จันทร์เทพ กล่าวอีกว่า ผลผลิตด้านการเกษตรที่น่าจับตามองของจังหวัดสตูลมีหลายชนิด เช่น ปาล์มน้ำมัน การแปรรูปปูนิ่ม และแพะดำ เป็นต้น



ส.ปชส.สตูล

เลขาธิการ ศอ.บต.ย้ำหัวใจของการเยียวยาคือการเยียวจิตใจให้ผู้ได้รับผลกระทบฯ เข้มแข็งและอยู่ในสังคมได้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 (เวลา 16.30 น.) ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร อเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง  เลขาธิการ ศอ.บต. พบปะพูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในกรณีเหตุการณ์ตากใบ เหตุการณ์สะบ้าย้อย (จังหวัดสงขลา) เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ ( จังหวัดปัตตานี) และเหตุการณ์ไอปาแย (จังหวัดนราธิวาส) โดยมีว่าที่ร้อยตรี เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พันตำรวจโทยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนัก/กอง ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ได้รับผลกระทบกว่า 200 คน พร้อมมอบผ้าปูละหมาดและมอบจักรยานให้แก่ทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า มีรุ่นน้องท่านหนึ่งได้ถูกจับไปอยู่เรือนจำและตอนนี้รุ่นน้องท่านนี้ ได้รับการประกันตัว และได้เสียชีวิต ซึ่งก็อาจจะมีสถานะเหมือนหลายท่านที่นั่งอยู่ในที่แห่งนี้ และก่อนที่ท่านจะถูกควบคุมตัว ท่านได้เขียนจดหมายฝากมาให้เป็นลายมือ เขียนสะท้อนมาออกมา จึงนำบางช่วงบางตอนมาอ่านให้ฟัง ซึ่งน่าจะสะท้อนความรู้สึกแต่ละครอบครัวได้ มีข้อความว่า “เพราะผมเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จึงรู้ว่าความยากลำบากเป็นเช่นไร เพราะผมเคยอด จึงรู้ว่าความหิวโหยเป็นเช่นไร และรู้คุณค่าของอาหาร น้ำทุกหยด ข้าวทุกเม็ด เพราะผมเคยป่วย จึงรู้ว่าความเจ็บป่วยคืออะไร และรู้คุณค่าของสุขภาพที่ดี เพราะผมติดคุก จึงรู้ว่าชีวิตคืออะไร และรู้คุณค่าของเสรีภาพ” ซึ่งต่อมาในปี 2550 ท่านได้เสียชีวิต ในรอบสามปีที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้มีความเข้าใจในวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของพื้นที่ ทุกภาคส่วนได้ให้การเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรม และคิดว่าการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างเป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นสิ่งที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราได้ให้การส่งเสริม สนับสนุนทางด้านอัตลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาษามลายูหรือกิจกรรมที่เป็นวิถีชีวิตของพี่น้องในพื้นที่

ทางด้านพลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล แห่งสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การเยียวยาเป็นส่วนหนึ่งของจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะการจัดการปัญหาต้องเริ่มด้วยการค้นหาความจริงว่าใครโดนเรื่องอะไร และดำเนินคดีไปตามกฎหมาย การเยียวยาในพื้นที่ภาคใต้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการเยียวยาในปัจจุบันที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดขึ้น เป็นสิ่งที่ดีมากสิ่งหนึ่งที่ได้เห็น คือการได้นำเอาคนที่สูญเสียไม่ว่าจะเป็น คนที่สูญเสียสามี สูญเสียลูก ที่ได้ฟื้นกลับมาเข้มแข็งอักครั้ง แล้วนำคนเหล่านี้มาดูแลเยียวยาผู้ที่สูญเสียด้วยกัน ทำให้ทราบถึงสถาพจิตใจ ความต้องการ การเยียวยาจิตใจไม่ใช่แต่เพียงจะให้เงิน การให้เงินเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะการเยียวยาจิตใจที่มันร้าวลึกนั้นต้องใช้เวลา การที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้จัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นมาถือเป็นสิ่งที่ดีและจะต้องจัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คนที่สูญเสียได้มีโอกาสฟื้นกลับคืนมาเป็นคนที่ดีของสังคม จากคนที่เคยได้รับการเยียวยาก็สามารถพลิกฟื้นกลับมาเป็นคนที่ให้การเยียวยาคนอื่น ๆ เป็นการต่อยอดความคิด ความรู้ในเรื่องของการเยียวยาที่ดี การเยียวยาลักษณะแบบนี้ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้น เราเพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เป็นกังวลในขณะนี้ คือกระบวนเหล่านี้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องส่งต่อองค์ความรู้และมีการสานต่อ หากหยุดไปจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เยียวยาได้ เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องการเยียวยาต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือคณะผู้บริหารของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากจะให้คงยุทธศาสตร์นี้เอาไว้ เพราะเป็นการเข้าถึงประสิทธิภาพของการเยียวยาอย่างแท้จริง



สำนักสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. ข่าว

ศอ.บต.รับสมัครทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีขององค์กรศาสนาประเทศอินโดนีเซีย (Muhammadiya) สำหรับนักเรียนไทยมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีการศึกษา 2557

พันตำรวจเอกทวี  สอดส่องเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ได้รับความร่วมมือจากองค์การศาสนาอิสลาม ประเทศอินโดนีเซีย คือ องค์กร Muhammadiyah  มอบทุนในการศึกษา ในระดับปริญญาตรี หลักสูตร ๓ ปีครึ่ง ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ สำหรับนักเรียนไทยมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในคณะและสาขาวิชาต่างๆ ณ มหาวิทยาลัยขององค์กร Muhammadiyah จำนวน ๑๓ แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อกระชับความสำคัญระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซียในระดับประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้นำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ เพื่อพัฒนาภูมิลำเนาและประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับทุน จะต้องเป็นนักศึกษาไทยมุสลิม มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ สงขลา (๔ อำเภอ คือ เทพา สะบ้าย้อย นาทวีและจะนะ) ติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๖ เดือน หรือบิดามารดา มีภูมิลำเนาอยู่ติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๓ ปี  จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือเทียบเท่าในปีการศึกษา ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๗ หรือจบการศึกษาดังกล่าวมาแล้วเป็นเวลาไม่เกิน ๒ ปี  มีใบแสดงผลการสอบ(O-NET และ คะแนน GPA, GAT-PAT สำหรับผู้ที่จบการศึกษาปี ๒๕๕๕) และใบแสดงผลการสอบ (O-NET, GAT-PAT และ คะแนน GPA สำหรับผู้ที่จบการศึกษาปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗)

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับใบสมัคร และสมัครด้วยตัวเอง ได้ที่ กองกิจการต่างประเทศ  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา   โทรศัพท์ 0 – 7327 - 4103 หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sbpac.go.th  ตั้งแต่บัดนี้ถึง 20 พฤษภาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ




สำนักสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. ข่าว

นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ เป็นห่วงตลาดบ้านจัดสรรและคอนโด มิเนียม ลงทุนมาก จะเกิด โอเวอร์ซัพพลาย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ ห้องรายา โรงแรมรอยัล ภูเก็ตซิตี้ จังหวัดภูเก็ต นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นประธานสัมมนาวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคใต้ โดยมี นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา กรุ๊ป จำกัด นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม เลขาธิการสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายประสิทธ์ เจียวก๊ก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มัณดาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และนายพรนริศ ชวนไชยสิทธ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เข้าร่วม

นายสัมมา  กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตมีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 31,650 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 13,900 หน่วย และบ้านพักตากอากาศประมาณ 850 หน่วย ในประเภทบ้านจัดสรรมีโครงการบ้านซึ่งอยู่ในระหว่างการขาย 89 โครงการ มีมูลค่าโครงการตามหน่วยในผังรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 57,100 ล้านบาท ในขณะที่ประเภทอาคารชุด มีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้น 64,400 ล้านบาท และประเภทของบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า นับเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบริมทะเลหรือเชิงเขาที่มีราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป

ด้านนายธนูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นโอกาสดี ที่ศูนย์อสังหาริมทรัพย์ร่วมกับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดสัมมนา เรื่องอสังหาริมทรัพย์ภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต โดยการสัมมนาในครั้งนี้ทำให้ทราบในส่วนของข้อมูลที่เป็นตัวเลขของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ ช่วยทำให้ โครงการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ นำไปใช้ประโยชน์ก่อนและหลังการตัดสินใจเดินต่อไปในวงการอสังหาริมทรัพย์ ในขณะเดียวกันบนเวทีก็ได้พูดคุยในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร โดยเน้นการวางแผนในอนาคต ประเด็นต่างๆเช่นการขายจะขายหมดไหม โอนได้แค่ไหน มีผลกระทบกับการผลิตหรือไม่ ในแวดวงของชาวอสังหาริมทรัพย์เองก็ควรระมัดระวังเรื่องใดบ้าง และมุมมองในสถานการณ์จริงเราควรจะวางแผนในระยะที่จะถึงอย่างไรบ้าง ส่วนหนึ่งที่เวทีเสวนาครั้งนี้มองเห็นตรงกันว่า ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ทั่วประเทศมีปัญหาไม่มากนัก แต่แนวโน้มของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นคอนโด มิเนียม หรืออาคารชุด เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะปริมาณของห้องพัก บ้านพักที่ทำเป็นอาคารชุดเพื่อจำหน่ายเริ่มมีบางจังหวัด ประสบกับปรากฎการณ์ที่เรียกว่า โอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งภูเก็ตเองก็กำลังจะมีประเด็นนี้ เนื่องจากมีการผลิตมากเกินไป แต่อย่างไรก็มองว่าเป็นความเสี่ยงที่ยังไม่ถึงกับภาวะวิกฤต เนื่องจากภูเก็ตมีความหมุนเวียนของกระแสนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดรายรับ รายได้ และสร้างยอดขายที่ต่อเนื่อง เพียงแต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรระมัดระวังในการขึ้นโครงการใหม่ สมเหตุสมผล ประเด็นที่จะมั่นใจในการขายที่รวดเร็วการสร้างที่รวดเร็ว สถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตเอง

อย่างไรก็ตามทางสมาคมอยากจะฝากเรื่องการเตรียมการประมูลอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตที่จะถึง เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการในภูเก็ตโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ต้องการจำหน่าย บ้าน คอนโด อาคารชุด ที่ดิน ทั้งที่มีอยู่แล้ว ยังจำหน่ายไม่หมด ก็จะดำเนินการโดยการให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต บริษัท ฮาริสัน (จำกัด )มหาชนมาดำเนินการในการสร้างกล่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มาจากสิงค์โปร์ ฮองกง ที่สนใจซื้อทรัพย์สินในภูเก็ตอย่างถูกต้อง เป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ต ระหว่างวันที่ 17- 18 พฤษภาคม 2557 ณ. รอยัล ภูเด็ต มารีน่า ต. เกาะแก้ว อ. เมือง จ. ภูเก็ต  จะมีการประมูล ทรัพย์สินในจังหวัดภูเก็ตครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุด ขอเชิญคนที่มีทรัพย์สิน เข้าร่วม หรือช่วยประชาสัมพันธ์ให้เกิดกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียน ในธุรกิจของจังหวัด สร้างรายได้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เพิ่มขึ้นด้วย

จังหวัดภูเก็ต ประชุมรับทราบแนวทางการจัดการแข่งขันและการเตรียมความพร้อมการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติ ลากูน่าภูเก็ต ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557 ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณโรงแรมกลุ่มลากูน่า ภูเก็ต ในวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน ที่จะถึงนี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 เม.ย.57 ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต  ดร. สมหมาย  ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 1 เพื่อรับทราบแนวทางการจัดการแข่งขันและการเตรียมความพร้อมการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติ ลากูน่า ภูเก็ต ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557  โดยมี นายเสรี  พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต  นายวิรัช  พาที  ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต   นางสาวอโนมา  วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สำนักงานภูเก็ต   ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนจากบริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน)

สำหรับการประชุมในครั้งนี้  เป็นการเตรียมความพร้อมการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติ ลากูน่า ภูเก็ต ครั้งที่ 9 ประจำปี 2557 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2557  บริเวณโรงแรมกลุ่มลากูน่า ภูเก็ต  ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต  โดยเป็นการประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการจัดงานภาครัฐ   ทั้งในด้านการเตรียมเส้นทางการแข่งขัน  การรักษาความปลอดภัย  การปฐมพยาบาล  การเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาและการประชาสัมพันธ์  การอำนวยความสะดวก ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดภูเก็ต

นายสงคราม  ไกรสนธิ์  ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า  การแข่งขันมาราธอนนานาชาติ ลากูน่า ภูเก็ต มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงบูรณาการด้านกีฬาและร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน  รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต   ศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ให้กับนักวิ่งมาราธอนชาวต่างชาติให้รู้จักเพิ่มมากขึ้น  รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนากีฬาวิ่งมาราธอนของประเทศไทย  ให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติ  ทั้งด้านการจัดการแข่งขันและด้านศักยภาพของนักกีฬา  รวมถึงส่งเสริมแนวคิดการเข้าแข่งขันกีฬาเพื่อความสุขและร่วมเป็นหนึ่งในประสบการณ์สำคัญ  นอกจากนี้ยังเป็นการจุดประกายการเล่นกีฬาให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและหันมาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และส่งเสริมการตระหนักถึงการแข่งขันกีฬาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยการแข่งขันดังกล่าว แบ่งการแข่งขันออกเป็นวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร/  วิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร/ วิ่ง  ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร/เดินวิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5 กิโลเมตร และวิ่งยุวชนระยะทาง 2 กิโลเมตร ตั้งเป้ามีนักวิ่งเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 5,000  คน

อำเภอเมืองพังงา จัดงานสายสัมพันธ์ชุมชนครั้งที่ ๔ ออกพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนชุมชนชายค่าย และรับฟังปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่

เพื่อให้การสงเคราะห์ ช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ด้อยโอกาสและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน เมื่อเวลา ๑๗.๐๐น. (วันที่ ๒๙ เม.ย. ๕๗) องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงาจึงร่วมกับเทศบาลเมืองพังงา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ ๓๓ จังหวัดพังงา สำนักงานพลังงานจังหวัดพังงา สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพังงา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานชุมชนสายสัมพันธ์ครั้งที่ ๔ ออกพบปะเยี่ยมเยียน รับฟังความคิดเห็นปัญหาความต้องการของชุมชนชายค่าย จัดเลี้ยงอาหารค่ำ พร้อมทั้งมอบผ้าขาวม้าและถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ ณ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา

นายก้องเกียรติ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภา อบจ.พังงา ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้นำนิทรรศการ กิจกรรมการให้บริการ การสาธิตงานด้านอาชีพออกหน่วยให้บริการแบบถึงพื้นที่ ทั้งนี้ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงามีชุมชน ๑๒ ชุมชน โดยคณะกรรมการได้กำหนดจัดงานสายสัมพันธ์เป็นประจำทุกเดือน หมุนเวียนไปเดือนละชุมชนจนครบทั้ง ๑๒ ชุมชน เนื่องจากบางชุมชนมีประชากรอยู่กันแออัด โดยเฉพาะผู้พิการ คนชรา ผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส ประชาขนในชุมชนไม่ค่อยมีโอกาสได้พบปะพูดคุยและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์การบริการและข่าวสารจากหน่วยงานราชการ




ศรัณยา  สันติราชัย /ข่าว
   
   

สมาคมแม่บ้านมหาดไทย มอบทุนการศึกษาแก่บุตรของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน,บุตรของข้าราชการ/พนักงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗

วันนี้ (๓๐ เมษายน ๒๕๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องรับรองจังหวัด (ศาลากลางจังหวัดพังงา) สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพังงา ได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนและบุตรของข้าราชการ/พนักงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ โดยได้มอบหมายให้นางทัศนา เทพี รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพังงา เป็นผู้มอบทุนการศึกษาดังกล่าวในครั้งนี้

สำหรับทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ สมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้จัดสรรเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาทให้แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพังงาพิจารณาจัดสรรให้แก่บุตรของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน,บุตรของข้าราชการ/พนักงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑๐ ราย ๆ ละ ๒,๐๐๐ บาท ให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา – ระดับอุดมศึกษา ที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง




ศรัณยา สันติราชัย /ข่าว

พังงาเดินหน้าประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร โครงการแก้ไขปัญหายางพารา ทั้งระบบ ปี 2557 ”

นายยรรยง วัฒนศรี เกษตรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหายางพารา ดำเนินการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยจะให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสด อัตราไร่ละ 2,520 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ ตามพื้นที่เปิดกรีดจริง และต้นยางมีอายุไม่เกิน 25 ปี จ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) และขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารากับสำนักงานเกษตรอำเภอ เมื่อเสร็จสิ้นระยะเวลาการขึ้นทะเบียน (15 ตุลาคม 2556) ปรากฏว่าจังหวัดพังงามีเกษตรกรไปขึ้นทะเบียน จำนวน 21,322 ราย ในจำนวนนี้มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องและได้ส่งข้อมูลให้คณะกรรมการตรวจสอบแปลงในระดับตำบล จำนวน 15,882 ราย พื้นที่เปิดกรีด 245,584.37 ไร่ ผลการตรวจแปลงผ่าน 14,495 ราย 19,432 แปลง ส่งข้อมูลให้คณะกรรมการตรวจสอบไม่ได้ จำนวน 5,440 ราย เนื่องจากที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ เอกสารสิทธิ์เป็น ภบท.5 ภบท.6 ภบท.11 ไม่มีหน่วยงานรับรอง ซึ่งขณะนี้เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับเงินช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตแล้ว จำนวน 12,537 ราย 16,876 แปลง พื้นที่เปิดกรีด 160,863.75 ไร่ เป็นเงิน 405,376,650 บาท

นายยรรยง วัฒนศรี เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวแต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือตามมติ ครม. ให้เกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบรับรองพื้นที่เปิดกรีดแล้ว หากตรวจสอบข้อมูล ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ไปขึ้นทะเบียน พบว่า รายชื่อได้ส่งไป ธ.ก.ส.แล้ว และไม่มีข้อผิดพลาดต้องแก้ไข สามารถนำหมายเลขบัตรประชาชนไปตรวจสอบรายชื่อด้วยตนเอง ณ ธ.ก.ส.สาขาที่เปิดบัญชี เพื่อรอรับเงินโอนเข้าบัญชีตามลำดับต่อไป ส่วนเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบรับรองพื้นที่เปิดกรีดแล้ว แต่รายชื่อยังไม่ได้ส่งไปให้ ธ.ก.ส. แสดงว่าเป็นเกษตรกรในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการเสนอ ครม.เพื่อขออนุมัติวงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากวงเงินงบประมาณเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้แล้ว ไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ และสำนักงาน-เกษตรจังหวัดพังงา โทรศัพท์ 0 7648 1466, 0 7648 1467




ส.ปชส.พังงา

“เกษตรพังงา ร่วมกับมหาวิยาลัยราชภัฏภูเก็ต พัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อเข้าสู่ตลาดอาเซียน”


ปัจจุบันการผลิตสินค้าให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค มีอัตราการแข่งขันสูงสำหรับสินค้าด้านอาหาร สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงาได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมมือกับมหาวิยาลัยราชภัฏภูเก็ตจัดอบรมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าแปรรูปที่จดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จำนวน 90 คน และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบระดับอำเภอ/จังหวัด ณ ห้องประชุมโรงแรมภูงา อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เพื่อให้ความรู้ด้านการพัฒนากระบวนการผลิต รูปแบบ คุณภาพและบรรจุภัณฑ์ ให้มีเอกลักษณ์ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค สามารถแข่งขันในตลาดได้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อเข้าสู่ตลาดอาเซียน

นายยรรยง วัฒนศรี เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า สิ่งสำคัญนอกเหนือจากคุณภาพความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น อย. มอก. มผช. ฮาลาล สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคคือ บรรจุภัณฑ์ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติในการคุ้มครองสินค้าแล้ว ความสวยงาม ดึงดูดใจ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุ ที่ย่อยสลายง่ายและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็เป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน

สำหรับการอบรมในครั้งนี้มีนายสุชาติ พึ่งมั่น ประธานสาขาทรัพยากรการบัญชี นายพิภพ สมเวที ประธานสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ และนางปิยวรรณ คำกลัด อาจารย์ประจำสาขาวิชาการบัญชี เป็นวิทยากรให้ความรู้

เทศกาลสงกรานต์ปี ๕๗ จังหวัดพังงาไร้ผู้เสียชีวิต

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๗ วันอันตราย ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา จังหวัดพังงาประสบผลสำเร็จด้านรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ความปลอดภัย จนทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตในห้วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้จากข้อมูลเปรียบเทียบสถิติการเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๔ – ๒๕๕๗ เป็นต้นมา ในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๓๑ ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ ๓๒ ราย เสียชีวิต ๑ ราย ปี ๒๕๕๕ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๓๑ ครั้ง มีผู้บาดเจ็บจำนวน ๓๙ ราย ผู้เสียชีวิต ๑ ราย ปี ๒๕๕๖ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๒๑ ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ ๒๖ ราย ผู้เสียชีวิต ๓ ราย และปี๒๕๕๗ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๑๗ ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ ๒๐ ราย ผู้เสียชีวิต ๐ ราย ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถย้อนศร ขณะที่ยานพาหนะที่ประสบอุบัติเหตุยังคงเป็นรถมอเตอร์ไซค์มากที่สุด ส่วนจุดที่เกิดอุบัติเหตุเป็นทางตรงและทางโค้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน ตั้งแต่ ๑๒.๐๑ -๑๖.๐๐ น. กลางคืน ตั้งแต่ ๑๖.๐๑-๒๐.๐๐น. และผู้บาดเจ็บส่วนมากเป็นเยาวชนอายุระหว่าง ๑๕-๑๙ปี คิดเป็นร้อยละ ๒๐% ของผู้บาดเจ็บทั้งหมด

ทั้งนี้จากสถิติของการเกิดอุบัติเหตุของจังหวัดพังงา ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นต้นมา จำนวนครั้งที่เกิดอุบัติและผู้บาดเจ็บลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้จังหวัดพังงาเป็นที่ยอมรับจากจังหวัดต่างๆ ถึงมีขีดความสามารถด้านการรณรงค์ความปลอดภัย จนทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว




ศรัณยา สันติราชัย /ข่าว

เทศบาลนครตรัง จัดประชุมเวทีประชาคมท้องถิ่นในการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล

ที่โรงแรมธรรมรินทร์ธนา อ.เมือง จ.ตรัง นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเวทีประชาคมท้องถิ่นในการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล ประชาคมท้องถิ่น ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนในเขตเทศบาล 70 ชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นกรอบในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและเพื่อให้มีแผนพัฒนาสามปีเป็นเครื่องมือทางการบริหารและกรอบแนวทางในการดำเนินงาน โดยมุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งในการจัดโครงการครั้งนี้ นอกจากจะมีการชี้แจงกรอบการดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลนครตรัง (พ.ศ.2558-2563) และแผนพัฒนาสามปี (พ.ศ.2558-2560)

โดยจะพิจารณากำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลนครตรัง อันประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนา เป้าประสงค์พร้อมตัวชี้วัด และแนวทางการพัฒนาพร้อมตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดตรัง ยุทธศาสตร์การพัฒนา อปท.ในเขตจังหวัดตรัง นโยบายของผู้บริหารเทศบาลนครตรัง ทั้งนี้จะเป็นการระดมความคิดเห็นปัญหาความต้องการของประชาคมท้องถิ่นและชุมชน โดยจะดำเนินการเสนอแผนงาน/โครงการ นอกจากนี้จะคัดเลือกผู้แทนประชาคมท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการในองค์กรจัดทำแผนพัฒนา ได้แก่ คณะกรรมการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาล คณะกรรมการพัฒนาเทศบาล และคณะกรรมการติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาเทศบาล

โครงการหมู่บ้านถือศีล 5 เป็นหนึ่งในกิจกรรมเทศกาลวันวิสาขบูชาโลกของจังหวัดตรัง

นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ ดังที่เคยได้ยินกันอยู่เสมอว่า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ผู้คนต่างให้ความสำคัญและปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นหลักในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะ "ศีล” อันเป็นความตั้งใจรักษาและหลักปฏิบัติที่ไม่ทำให้เดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น และเป็นหลักแห่งความประพฤติที่จะทำให้เกิดความสะอาดทางกาย และวาจา โดยเฉพาะ ศีล 5 ซึ่งเป็นพื้นฐานของพุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกคน ที่ต้องยึดถือและปฏิบัติ เพราะช่วยควบคุมความประพฤติมิให้พลาดพลั้งในอบายมุขต่าง ๆ นานา ซึ่งจัดอยู่ในระดับศีลธรรมอันเป็นมูลฐานที่จะนำไปสู่ความสงบของจิตใจ หากความสะอาดทางกายและวาขาไม่มีแล้ว เราก็ไม่สามารถทำจิตใจให้สงบลงไปได้เลย ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้กล่าวอีกว่า ในการจัดโครงการหมู่บ้านถือศีล 5 นี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมของเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและสร้างความตระหนักให้พุทธศาสนิกชนนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา การปฏิบัติตามหลักศีล 5 สู่วิถีชีวิตประจำวัน และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้ง "หมู่บ้านถือศีล 5” ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดตรัง ตลอดจนเพื่อยกย่อง สรรเสริญพุทธศาสนิกชน ผู้นำชุมชนที่ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปพัฒนาตนเอง ครอบครัว และสังคม อันจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป รวมทั้งส่งผลให้สังคมในหมู่บ้าน เป็นสังคมที่มีแต่ความสุข ความเจริญและความก้าวหน้าในสังคมต่อไป

ผู้ปกครอง ในจังหวัดตรังพาบุตรหลานซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนรับเปิดเทอม ในขณะที่ยอดการจำหน่ายลดลงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ประกอบการยังจำหน่ายเสื้อผ้าตามราคาของกระทรวงพาณิชย์

บรรยากาศการจำหน่ายชุดนักเรียนในจังหวัดตรัง ผู้ปกครองต่างนำบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดและอุปกรณ์การเรียนเพื่อเตรียมตัว รับการเปิดเทอมที่จะมาถึง ซึ่งทางเจ้าของร้านจำหน่ายชุดนักเรียนกล่าวว่าได้มีลูกค้ามาเลือกซื้อชุดตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยราคาชุดนักเรียนชั้นอนุบาล ราคาชุดละ 300 บาท ชั้นประถมศึกษา ราคาชุดละ 400 บาท ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ราคาชุดละ 400 บาท ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ราคาชุดละ 500 บาท ในส่วนของการจำหน่ายกระเป๋านักเรียนนั้นขายไม่ค่อยดี เนื่องจากทางโรงเรียนแต่ละโรงเรียนให้ใช้กระเป๋าของโรงเรียน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเปิดเทอมปีนี้ทางร้านมียอดการจำหน่ายลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 40 เนื่องจากประชาชนมีกำลังลดลง สาเหตุมาจากยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมีราคาตกต่ำ ประชาชนที่มีอาชีพกรีดยางพารามีรายได้ลดต่ำลงเป็นอย่างมาก จึงทำให้กำลังซื้อลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามทางร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชุดนักเรียนบอกว่าไม่ได้มีการปรับราคาค่าชุดนักเรียนแต่อย่างใด เนื่องจากต้องปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ขอความร่วมมือไม่ให้ปรับราคาชุดนักเรียน เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดประชุมแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต สร้างความรู้ความเข้าใจแก่สื่อมวลชนในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ ในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดภัยพิบัติ หรือสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่

วันนี้ (30 เม.ย.57)  ที่โรงแรมราวดี อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการประชุมแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ซึ่งสำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำหนดจัดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติด้านประชาสัมพันธ์เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในรูปแบบต่างๆ โดยนางเสาวลักษณ์ แหละบัง ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าการจัดประชุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่ได้เกิดภัยพิบัติต่างๆ มากมายทั้งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย วาตภัย และภัยที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เช่น อัคคีภัย ภัยจากสารเคมี ซึ่งผลที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง สร้างความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจ ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง สื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์ เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจ สร้างความตระหนัก แก่ประชาชน ถึงผลของภัยต่างๆ โดยการประชาสัมพันธ์เตรียมความพร้อม ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และการฟื้นฟูภายหลังภัยสงบ ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อม และซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติ ให้สามารถประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชนดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอน วิธีการ และแนวทางปฏิบัติของภาครัฐ ในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และฟื้นฟูเยียวยา ลดความสูญเสียและผลกระทบที่เกิดจากสาธารณภัยและวิกฤติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ขณะที่นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ“แนวทางการป้องกัน แก้ไขและรับมือสาธารณภัยของจังหวัดนครศรีธรรมราช” โดยระบุว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสาธารณภัยและภาวะวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ มีการกำหนดมาตรการการป้องกันโดยได้แต่งตั้งและมอบหมายผู้เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงานในด้านต่างๆ จำนวน 7 ด้านเพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที มีการควบคุมสถานการณ์อย่างถูกวิธี รณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำในด้านต่างๆ อย่างถูกต้อง ให้คำแนะนำชี้แจงถึงแนวทางการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุ ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่/ชุมชน มีการจัดทำฝายชะลอน้ำ ทำนบกันน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อการบริหารจัดการน้ำต้นทุน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 32 หาง ในพื้นที่ 8 อำเภอ คืออำเภอสิชล พระพรหม ลานสกา พรหมคีรี ฉวาง ชะอวด และอำเภอพิปูน ประชาชนได้รับประโยชน์ ประมาณ 10,000 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้สำรวจและจัดทำเพิ่มเติมในพื้นที่ 10 อำเภอ จำนวน 137 หมู่บ้าน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 50,000 ครัวเรือน

สำหรับการประชุมสัมมนาครั้งนี้ มีสื่อมวลชนทุกสาขาในพื้นที่ ตลอดทั้งเครือข่ายอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน สื่ออาสาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านประชาสัมพันธ์ของภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 50 คน โดยมี นายธนวัฒน์ เรืองเดช นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสุรชัย อักษรวงศ์ หัวส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ให้ความรู้และพูดคุยถึงทักษะในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันและรับมือสาธารณภัยรูปแบบต่างๆ ตลอดทั้งการปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง
  


อุไรวรรณ/ข่าว