วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจับกุมนักค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด และยาไอซ์ 100.80 กรัม

ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ขยายผล ล่อซื้อและสามารถจับกุมนักค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด และยาไอซ์ 100.80 กรัม

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 28กรกฎาคมนี้ว่า พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิราภัย ผู้กำกับการสืบสวนร่วมกันเป็นผู้อำนวยการ สนับสนุน การปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด และพ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธ และยาเสพติด ตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8

ทั้งนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามแผนระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดสามารถจับกุมนายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ที่ห้องพักเลขที่ 88/744 แฟลต เอื้ออาทร อาคาร 7 หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พร้อมยึดของกลาง รวม 5 รายการ คือ ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมประมาณ 100.80 กรัม พันด้วยกระดาษสาสีเหลือง และซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วสีขาว วางอยู่บนกล่องพลาสติก ภายในห้องนอน,ยาบ้าเม็ดสีส้ม มีอักษรWY ปรากฏบนเม็ด บรรจุอยู่ในถุงซิป สีฟ้า จำนวน 10 ถุง รวม 1980 เม็ด และ รวมยาบ้าสีเขียว อีกถุงละ 2 เม็ด รวมเป็นทั้งหมด 2,000 เม็ด ,เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง ,อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด และโทรศัพท์มือถือ อีก 1 เครื่อง และพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า - ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย

สำหรับการจับกุมนักค้ายาเสพติด รายนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พยายามแกะรอยหรือติดตามสืบสวน สอบสวนขยายผลมาจากการจับกุม นางสาวเสวลักษณ์ หรือจ๊ะ อาจหาญ พร้อมยึดของกลาง ยาไอซ์ 66.53 กรัม เมื่อเร็วๆนี้ และ ผู้ต้องหารายนี้ ให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาไอซ์มาจากนายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ อีกต่อหนึ่ง และ ชุดจับกุมจึง ใช้วิธีการล่อซื้อ และสามารถจับกุม ได้พร้อมของกลางทั้งหมด ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ดี ในชั้นสอบสวน นายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเอง ที่ไปรับ มาจากบริเวณ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณหลังมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กรุงเทพมหานคร โดยติดต่อซื้อผ่าน จากเอเยนต์ ที่ชื่อว่า นางเจ้ ไม่ทราบนามสกุล โดยติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ คือยาไอซ์ 1 ขีด ในราคา 160,000 บาท และยาบ้า 1 มัด 2,000 เม็ด ราคา 240,000บาท โดยเครือข่าย ของ นางเจ้ เป็นผู้นำเอายาเสพติด มาวางไว้ และนัดหมายให้ไปเอา จากนั้น โดยสารรถประจำทางสาวกรุงเทพมหานคร - ภูเก็ต ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และ นำมาจำหน่าย ต่อให้กับนางสาวเสาวลักษณ์ หรือจ๊ะ อาจหาญ ตามที่ ทั้งคู่ ตกลงกัน คือ ยาไอซ์ ราคาขีดละ 250,000 บาท และ ยาบ้า 2,000 เม็ด ราคา 280,000 บาท แต่ถูกซ้อนแผน ล่อซื้อ และ เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมตัวได้เสียก่อน

ชลประทานระนอง เร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นรองรับฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ยืนยันอ่างเก็บน้ำแข็งแรงดี

ชลประทานระนอง เร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นรองรับฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ยืนยันอ่างเก็บน้ำแข็งแรงดี

นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง กล่าวจากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องของจังหวัดระนอง ทำให้ระดับน้ำภายในอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น ต.หาดหาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใช้ในการอุปโภคของ อ.เมืองระนอง มีปริมาณน้ำเต็ม 100% โดยในขณะนี้ทางโครงการชลประทานระนองได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ โดยได้ติดตั้งท่อเหล็กจำนวน 8 ท่อ เพื่อทำกาลักน้ำ ซึ่งจะระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นอีก 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากเดิมที่ระบายได้ 350,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ในขณะนี้สามารถระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นได้วันละ 550,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เหลือ 60% ของอ่าง จึงจะหยุดระบายน้ำออก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่บริเวณคลองหาดส้มแป้น พร้อมยืนยันว่าอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นอยู่ในสภาพที่ดีแข็งแรง

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง ฝากเตือนไปยังประชาชนที่อยู่บริเวณทางผ่านของน้ำจากคลองหาดส้มแป้นให้อยู่ใน ความไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำล้นตลิ่ง และเก็บข้าวของที่จำเป็นขึ้นที่สูง

โครงการ ๑ ไร่ ๑ แสน เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา ร่วมกับหอการค้าจังหวัดพังงา สนับสนุนการเกษตร น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำโครงการ ๑ ไร่ ๑ แสน เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร

นายสุทีป สุธาประดิษฐ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา กล่าวถึง โครงการ ๑ ไร ๑ แสนนั้น ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ โดยแปลงสาธิตนั้นจะแบ่งพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน และปลอดจากสารเคมี โดยมีพื้นที่หลักคือ การทำนา รอบนาข้าวเป็นพื้นที่น้ำเพื่อเลี้ยงปลา ส่วนคันดินด้านข้างจะเป็นพื้นที่ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรมแบบผสมผสาน เพื่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่องและเป็นการสร้างความสุขให้แก่เกษตรกร

ด้านนายสุทธิโชค ทองชุมนุม ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา กล่าวด้วย หอการค้าได้วางยุทธศาสตร์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรขึ้น ภายใต้โครงการ ๑ ไร่ ได้เงิน ๑ แสน ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับในปีนี้จังหวัดพังงา ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ ๔ อำเภอ รวม ๔ แปลง คือที่บ้านตากแดด อำเภอเมือง, บ้านบ่อแสน อำเภอทับปุด, บ้านลำภี อำเภอท้ายเหมือง และบ้านบางวัน อำเภอคุระบุรี โดยมีเป้าหมายให้มีแปลงสาธิต โครงการ ๑ ไร ๑ แสนให้ครบทุกอำเภอ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมยินดีกับชาวมุสลิมเนื่องในวัน ตรุษอีฎิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ศักราช 1435

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมยินดีกับชาวมุสลิมเนื่องในวัน ตรุษอีฎิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ขอพระผู้เป็นเจ้าประทานความสุขความดีงามและความสันติสุขแก่ทุกท่าน

ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้ วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ตรงกับวันจันทร์ที่28 กรกฎาคม 2557 พร้อมขอวิงวอนต่อองค์อัลเลาะห์ทรงประทานสุขภาพกายที่แข็งแรง ขอให้ทุกท่านมีชีวิตยืนอยู่บนหลักดุลยภาพและอิสลาม รวมทั้งการ อภัยทานและการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างญาติมิตร เพื่อนบ้าน และพี่น้องร่วมชาติ ด้วยภราดรภาพ และความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติสืบไป ทางด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ความดีที่พี่น้องมุสลิมได้ร่วมกันทำ จะเป็นส่วนของของการสร้างสันติสุข

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมัสยิดรวมกว่า 100 แห่ง ทุกแห่งมีชาวมุสลิมร่วมประกอบพิธีด้วยความยินดีในความสำเร็จของการปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์อัลเลาะฮ์

โครงการ “ค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557”

อำเภอตะกั่วป่า จัดฝึกอบรมค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557 ณ ศาลาการเปรียญวัดนิกรวราราม(วัดย่านยาว) อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

วันนี้ (28 ก.ค. 2557) ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีกิจกรรมเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และกลุ่มเสี่ยง ในโครงการ "ค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557” ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาการเปรียญวัดนิกรวราราม หรือ วัดย่านยาว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

การจัดค่ายพัฒนาคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อลดจำนวนผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดลง เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน รวมทั้งความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงจำเป็นต้องกระทำโดยเร่งด่วน ในลักษณะเชิงบูรณาการ ทั้งในด้านการป้องกันผู้เสพรายใหม่ การปราบปรามผู้ค้า และการบำบัดรักษาผู้เสพ ผู้ติด ควบคู่กันไป รวมทั้งต้องสร้างการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ การอบรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวนทั้งสิ้น 62 คน

การจัดระเบียบคิวรถโดยสารตามคำสั่ง คสช.

นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว นายอำเภอทุ่งสง พร้อม นายขันธิศวาร์ วราชิต หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทุ่งสง นายทรงชัย วงศ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง และคณะ ตรวจดูความเรียบร้อยสถานีขนส่งย่อยตั้งที่อยู่ด้านหลังที่ทำการไปรษณีย์ทุ่งสง ในการเปิดให้บริการวันแรก โดยคิวรถทุกคิวที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ทั้งคิวรถตู้ รถเมล์ รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ รถสองแถว จำนวน 20 คิว จำนวนรถกว่า 300 คัน ต้องนำรถมารับผู้โดยสาร ส่วนรถที่รอเข้าคิวให้ไปจอดในพื้นที่ที่เทศบาลเมืองทุ่งสงได้เช่าพื้นที่เตรียมไว้ บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีทุ่งสง ได้รับความร่วมมือจากคิวรถต่าง ๆ ย้ายสถานที่จากคิวที่ตั้งเดิม เข้ามาตั้งโต๊ะจำหน่ายตั๋ว และนำรถเข้ามาจอดรอรับการใช้บริการของผู้โดยสาร ที่ทยอยเดินทางมาใช้บริการ เดินหาคิวรถ มีป้ายปิดให้เห็นอย่างชัดเจน ซื้อตั๋วโดยสาร ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง และภายในสถานีขนส่งย่อย มีพื้นที่จอดรถ ที่นั่ง ที่จำหน่ายอาหาร ห้องสุขา มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้บริการประชาชน เทศบาลเมืองทุ่งสง กำลังเร่งปรับปรุงการให้บริการ เตรียมติดตั้งเครื่องขยายเสียงในอาคารสถานีขนส่งย่อย เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ผู้โดยสารได้รับทราบ

อธิบดีกรมป่าไม้ ติดตามการปฏิบัติงานเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ

 อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยพยัคไพรพร้อมหารือหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ..

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.57 ที่บริเวณสวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยพยัคไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขา 12 จ.กระบี่ โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นาวาเอกกฤษฎา รัตนสุภา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต /เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน/ ตัวแทนกองทัพเรือภาคที่ 3/ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต/ หัวหน้าอุทยานสิรินาถ เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต

ในโอกาสนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาในประเด็นดังนี้ คือ 1.จะพัฒนาหน่วยป้องกันรักษาให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 2. ฝึกอบรมสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน 3. พร้อมประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มข้นก่อนการต่อสัญญาพนักงาน และ 4.จัดหาตำแหน่งพนักงานราชการ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ยังได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงแนวทางการบูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ป้องกันการบุกรุกพื้นที่ใหม่ โดยจะทำงานในรูปของคณะกรรมการในส่วนของการดำเนินคดีนั้น จะเร่งตรวจสอบติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีและที่สำคัญที่สุด กรมป่าไม้จะทำงานอย่างละมุนละม่อม กับผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้ไร้ที่ดินทำกิน

องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตสนองนโยบายคืนความสุขแก่ประชาชนผ่านเสียงสะท้อนความต้องการการแก้ไขปัญหาในพื้นที่

องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตสนองนโยบายคืนความสุขแก่ประชาชนผ่านเสียงสะท้อนความต้องการการแก้ไขปัญหาในพื้นที่..

นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมสนอง นโยบายการคืนความสุขแก่ประชาชนตามแนวทางการบริหารประเทศ ของ คสช. ผ่านเสียงสะท้อนความต้องการในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ด้วยการจัดเวทีประชาคม ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเพื่อรับฟังปัญหา ผ่านโครงการ อบจ.สัญจร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งของจังหวัดภูเก็ต ที่ได้สะท้อนปัญหาความต้องการของคนในชุมชน ที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ภูเก็ต เอฟซี เปิดบ้านพ่าย บีบีซียู เอฟซี 1-2ฟุตบอลศึกยามาฮ่า ลีก วัน

ภูเก็ต เอฟซี เปิดบ้านพ่าย บีบีซียู เอฟซี 1-2ฟุตบอลศึกยามาฮ่า ลีก วัน การแข่งขันฟุตบอลศึกยามาฮ่า ลีก วัน ที่สนามสุระกุล เจ้าบ้าน ภูเก็ต เอฟซี ทีมอันดับที่ 12 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บีบีซียู เอฟซี ทีมอันดับ 9 ของตาราง โดย 11 ตัวจริงทีมทั้งสองทีมส่งลงสนามในนัดนี้ ภูเก็ต เอฟซี นำทีมมาโดย วสันต์ นาทะสัน, อาลีฟ เปาะจิ, เอกอาทิตย์ สมจิตร ด้านทีมเยือน บีบีซียู เอฟซี นำทีมมาโดย วีรยุทธ จิตรขุนทด, ศรัณย์ สมิงชัย,

เริ่มครึ่งแรก น.5 เจ้าบ้าน ภูเก็ต เอฟซี ได้ลุ้นประตูก่อนทันทีจากจังหวะที่ อนุศักดิ์ เหล่าแสงไทย ตักบอลให้ วสันต์ นาทะสัน บริเวณกรอบโทษฝั่งขวา ล็อกบอลหลบแนวรับ บีบีซียู ก่อนจ่ายคืนให้ อาลีฟ เปาะจิ ปั่นด้วยขวา บอลออกข้างนิดเดียว น.40 วีรยุทธ จิตรขุนทด เปิดบอลไปหน้าประตู และเป็น โฟฟาน่า เชค โฉบเข้าโหม่งไม่เหลือ บีบีซียู เอฟซี ออกนำไปก่อน 1-0 ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก เจ้าบ้าน ภูเก็ต เอฟซี โหมบุกอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบ 45 นาทีแรก ภูเก็ต เอฟซี ตามหลัง บีบีซียู เอฟซี 0-1

เริ่มครึ่งหลังภูเก็ต เอฟซี โหมบุกอย่างหนัก น.51 ได้ลุ้นประตูตีเสมออีกครั้งจากจังหวะที่ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ประตู บีบีซียู เอฟซี สกัดบอลพลาดมาเข้าทาง คริสเตียน อเล็ก ดา ซิลวา ซานโตส ซัดจังหวะแรกติดบล็อกมาเข้าทาง เอกอาทิตย์ สมจิตร ซัดด้วยขวาออกข้าง จังหวะต่อเนื่อง น.53 จากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา อาลีฟ เปาะจิ เปิดบอลไปหน้าประตู วสันต์ นาทะสัน ได้โขกคนเดียวเหน่งๆ ออกข้างอย่างน่าเสียดาย

ท้ายเกม น.82 กองเชียร์ ภูเก็ต เอฟซี ก็ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อทีมมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ วสันต์ นาทะสัน ได้บอลหลุดไปทางกรอบโทษฝั่งขวา ซัดด้วยขวาเต็มข้อจังหวะแรกโดน กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ประตู บีบีซียู เอฟซี เซฟไว้ได้ แต่บอลมาเข้าทาง อนุศักดิ์ เหล่าแสงไทย ได้ซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ ภูเก็ต เอฟซี ตีเสมอ 1-1 เกมทำท่าว่าจะจบที่เสมอ แต่แล้ว น.90+4 บีบีซียู เอฟซี มาได้ประตูชัยจากการทำประตูของ โฟฟาน่า เชค บีบีซียู เอฟซี นำอีกครั้ง 1-2ช่วงเวลาที่เหลือของเกมทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกม 90 นาที ภูเก็ต เอฟซี เปิดบ้านพ่าย บีบีซียู เอฟซี 1-2

จ.ชุมพร ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

จ.ชุมพรประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 ณ วัดพรุใหญ่ ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 อีกทั้งเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างขวัญและกำลังใจให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นพสกนิกรอยู่ภายใต้พระโพธิสมภาร ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้สังคมเกิดความสงบร่มเย็น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ประชาชนมีความสามัคคีปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ

อำเภอท่าแซะจัดกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน

อำเภอท่าแซะจัดกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูปอำเภอท่าแซะ จัดกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชนอำเภอท่าแซะ เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูปเดินหน้าประเทศไทย โดย นายอภิรักษ์ ศักดิ์สนิท นายอำเภอท่าแซะ เป็นประธานในพิธี ถวายเครื่องราชสักการะ เปิดกรวยดอกไม้ นำกล่าวคำปฏิญาณ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร นักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา กองทัพบก จังหวัดลพบุรี นำโดย ร.ท.สมหมาย พลเกษตร หน.ชุด ปจว. ประชาสัมพันธ์ ที่ 401 เดินทางมาแสดงดนตรีคืนความสุขให้คนท่าแซะ ที่บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอท่าแซะอีกด้วย

จากสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย อาทิ การกระทำผิดกฏหมาย อาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การระบาดของยาเสพติด อบายมุข และการแตกแยกทางความคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรม และคุณธรรมจริยธรรม

ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างความปรองดอง ความสมานฉันท์ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยการให้ทุกภาคส่วนในประเทศร่วมมือกันดำเนินการ สร้างความปรองดอง สมานฉันท์และทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีกัน โดยเริ่มจาก ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งจะนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยชาวอำเภอท่าแซะได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้จัดโครงการปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ชาวอำเภอท่าแซะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และปลูกจิตสำนึกตระหนักรักเชิดชูสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันจะนำพาประเทศชาติเกิดความสงบสุขร่วมเย็นต่อไป

กฟก.ชุมพรยื่นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและการดำเนินงานของกองทุน

กฟก.ชุมพรยื่นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและการดำเนินงานของกองทุน

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดชุมพร คณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สมาชิกกองทุนฯ ธนาคารต้นไม้ และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดชุมพรกว่า 50 คน รวมตัวกันยื่นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ณ จังหวัดทหารบกชุมพร โดยมี พ.อ.สุรินทร์ เกตุแก้ว รอง ผบ.จทบ.ช.พ. มารับหนังสือจากตัวแทนเกษตรกรด้วยตนเอง พร้อมยืนยันจะส่งไปยังแม่ทัพภาค 4 เพื่อพิจารณาส่งไปให้ คสช. แก้ไขปัญหาต่อไป

พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรการ พ.ศ. 2542 ได้มีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2544 เจรนารมย์เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรระยะเวลาได้ผ่านมา 15 ปีแล้ว จากการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ผ่านมา ยังมีข้อติดขัดเกี่ยวกับข้อกฎหมายบางประการ จึงทำให้การช่วยเหลือเกษตรกรทำได้ไม่เต็มที่
ซึ่งที่ผ่านมาอาชีพเกษตรกรต้องเผชิญกับมหันตภัย ต่าง ๆ ไม่ว่าจะภัยจากนโยบายรัฐ ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากภาวะการตลาด ภัยจากดอกเบี้ยเงินกู้ และอื่น ๆ เป็นผลให้เกษตรกร ซึ่งเป็นพลังในการผลิตอาหารและแรงงานหล่อเลี้ยงชีวิตตนเองและสังคม ต้องประสบกับภาวะหนี้สิน ไร้ที่ทำกิน มีฐานนะยากจน ขาดความมั่นคงในชีวิต ทรัพย์สินและอาชีพ ประกอบกับการดำเนินงานแก้ปัญหาของหน่วยงาน-กลไกรัฐที่ผ่านมา ขาดประสิทธิภาพและบูรณาการ และเป็นไปตามความต้องการของพ่อค้า ร่วมทั้งผลประโยชน์ทางการเมือง อันเป็นเหตุให้การแก้ไขไม่ประสบความสำเร็จ ล่าช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์ปัญหา

กลุ่มเกษตรกรและอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดชุมพร จึงรวมตัวกันมายื่นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเกษตรกรและการการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ผ่านจังหวัดทหารบกชุมพร เพื่อส่งข้อมูลไปยัง คสช. ต่อไป

จัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะสนองนโยบาย คสช.

ขนส่งจังหวัดภูเก็ตเข้มมาตรการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะสนองนโยบาย คสช.
วันนี้ (24 ก.ค. 57) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์และรถยนต์รับจ้างสาธารณะ โดยมีสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมรับฟังการแถลงข่าว

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบกจัดระเบียบรถจักรยายนต์สาธารณะทั่วประเทศ โดยจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร นั้น เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวจึงขอให้เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่มีความประสงค์จะจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมายโดยหลักฐานประกอบการยื่นประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถหรือสำเนาสัญชาเช่าซื้อรถยนต์ หรือเอกสารอื่นที่แสดงสิทธิครอลครองรถและระบุหมายเลขทะเบียนรถ สำเนาใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะหรือหนังสือรับรองผ่านการอบรมใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ทั้งนี้หากเป็นเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถด้วย โดยให้เจ้าของรถยื่นคำขอได้ที่ สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่เป็นสถานที่รอรับคนโดยสาร (คิว) ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ

ส่วนในกรณีของการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะนั้น จากข้อเท็จจริง ปรากฏว่ายังมีรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย (แท็กซี่ป้ายดำ) จำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าร่วมจัดระเบียบได้โดยมีข้อจำกัดบางประกา แต่ยังมีความประสงค์จะประกอบอาชีพให้บริการรถรับจ้างสาธารณะในจังหวัดภูเก็ต ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความิดือดร้อนแก่เจ้าของรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย (แท็กซี่ป้ายดำ) จึงขอให้ยื่นขอจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง (TAXI METER) ให้ถูกต้องโดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนใข รถที่จะนำมาจดทะเบียนต้องมีอายุรถนับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรกไม่เกิน 6 ปี ใช้ได้จนถึงอายุ 9 ปี อีกทั้งต้องมีความจุในกระบอกสูบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,500 ซีซีขึ้นไป กรณีอยู่ระหว่างสัญญาเช่าซื้อต้องได้รับความยินยอมให้จดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะจากสถาบันการเงินแล้ว รวมถึงผ่อนผันสีตัวรถโดยให้คาดแถบสติ๊กเกอร์เหลืองแดงบนสีรถเดิมได้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยต้องติดเครื่องหมายศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ (1584) บิรเวณประตูหลังทั้งสองข้าง โดยหลักฐานที่จะประกอบการจดทะเบียนประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ภูมิลำเนาจังหวัดภูเก็ต) , สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถหรือสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถยนต์หรือเอกสารอื่นที่แสดงสิทธิการครอบครองรถและระบุหมายเลขทะเบียนรถ และสำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะหรือหนังสือรับรองผ่านการอบรมใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ

โดยเจ้าของรถต้องนำไปยื่นที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ

ทั้งนี้ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวย้ำว่า หากแท๊กซี่ป้ายดำไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมายต่อจากนี้ไปจะมีการดำเนินการจับแล้วดำเนินการฟ้องศาลทันที โดยมีโทษปรับ 20,000 ถึง 100,000 บาท จำคุก 2 ปี

ชี้แจงให้ผู้ประกอบการที่ยังฝ่าฝืนไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอีก 2 หาด

ทม.ป่าตองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชี้แจงให้ผู้ประกอบการที่ยังฝ่าฝืนไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอีก 2 หาด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (24 ก.ค.57) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศบาลเมืองป่าตอง และ น.อ.เพชรัตน เทียมจันทร์ รอง.ผอ.กพร.บก.ทัพเรือภาคที่ 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ทหารเรือ อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองป่าตองกว่า 30 นาย ลงพื้นที่หาดพาราไดส์ บีช และหาดไตรตรัง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อชี้แจงให้ผู้ประกอบการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำชายหาดที่ยังคงเหลืออยู่ หลังจากที่มีชาวบ้านร้องเรียนมายังเทศบาลเมืองป่าตอง

นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวถึงในลงพื้นที่ครั้งนี้ ว่า หลังจากที่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชายหาดป่าตองแล้ว ซึ่งดูแล้วสวยงามไปตลอดแนวชายหาด หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงเทศบาลเมืองป่าตอง ว่า ทางเทศบาลทำงานไม่เสมอภาคกัน โดยที่บริเวณชายหาดพาราไดส์ บีช และหาดไตรตรัง มีการสร้างรุกล้ำชายหาดและมีเก้าอี้ เตียงนอน ยังคงเหลืออยู่อีก ดังนั้นวันนี้ทางเทศบาลจึงได้ลงพื้นชี้แจงให้ผู้ประกอบการได้รับทราบแล้วให้ทำการรื้อถอนต่อไป

ด้าน น.อ.เพชรัตน เทียมจันทร์ รอง.ผอ.กพร.บก.ทัพเรือภาคที่ 3 กล่าว ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้บูรณาการทำงานร่วมกับเทศบาลเมืองป่าตอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบดังกล่าว เนื่องจากยังมีผู้ประกอบการบางส่วนไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำชายหาด โดยในครั้งนี้มาชี้แจงให้ผู้ประกอบการได้รับทราบและขอความร่วมมือรื้อสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำชายหาด หลังจากวันนี้เป็นต้นไปทางทหารเรือทัพภาคที่ 3 จะลงพื้นที่ตรวจสอบทุกวันจนกว่าผู้ประกอบการจะรื้อเสร็จ แต่ถ้าผู้ประกอบการยังดื้อไม่ยอมรื้อก็จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ลงรื้อถอนทันที "พร้อมกันนี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์แก่ผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพรุกล้ำที่สาธารณะไปแล้วว่า ให้ชาวบ้านทุกคนประกอบอาชีพได้ แต่สิ่งที่บุกรุกหาด และที่สาธารณะ ต้องขอร้องอย่าให้มีเพื่อต้องการคืนพื้นที่ชายหาดสาธารณะให้พี่น้องประชาชนโดยทั่วไป และนักท่องเที่ยวได้ใช้ร่วมกัน” น.อ.เพชรัตน กล่าว 

การแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 ผู้เข้าแข่งขัน 2800 คน 9 ชนิดกีฬา

การแข่งขันกีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2557 "ภูเก็จเกมส์” เปิดแล้วอย่าง สวยงามท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น จาก จังหวัดภูเก็ต เจ้าภาพการแข่งขัน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต จัดการแข่งขัน กีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2557 "ภูเก็จเกมส์” ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2557 โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ อย่างสวยงามในวันนี้ (23 ก.ค.57) ที่โรงละคร วังไอยรา ภูเก็ตแฟนตาซี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต มีด๊อกเตอร์พัฒนาชาติ กฤดิบวร อธิบดีกรม พลศึกษา เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการ แข่งขัน นายชาญวิทย์ ผลชีวิน รองอธิบดีกรม พละศึกษา พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ แขกผู้มีเกียรติ ตลอดจนสื่อมวลชน และ ผู้สนับสนุน เข้าร่วมจำนวนมาก

ด๊อกเตอร์พัฒนาชาติ กฤดิบวร กล่าวถึงการแข่งขันกีฬาและนันทนาการ ผู้สูงอายุในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุทั่วประเทศได้ทำกิจกรรมทางกีฬาและ นันทนาการ ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งอารมณ์ ผ่านการเล่นกีฬาและกิจกรรม นันทนาการเป็นประจำ ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีร่างกาย ที่สมบูรณ์แข็งแรง มีอายุยืนยาว และสามารถใช้ ชีวิตได้อย่างมีสุข นอกจากนี้ ยังเป็นการพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีใน กลุ่มผู้สูงอายุอีกด้วย

ด้านนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต ในประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวจังหวัดภูเก็ตในฐานะเจ้าภาพ ขอต้อนรับ ทุกท่านด้วยไมตรีจิต ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นการ แสดงออกถึงความรัก ความสามัคคี ของทุกภาค ส่วน ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน รวมทั้งนักกีฬาด้วย สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักกีฬาจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 2800 คน โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 9 ชนิด กีฬา ประกอบด้วย กรีฑา การประกวดลีลาศ วู้ดบอล การประกวดคาราโอเกะ แบดมินตัน เปตอง กอล์ฟ หมากรุกไทย และการประกวด แอโรบิคมวยไทย

จังหวัดนราธิวาสจัดพีธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ ๖๒ พรรษา

วันนี้ (๒๘ ก. ค. ๕๗ ) เวลา ๐๙.๐๙ น. นายวีรพงศ์  แก้วสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  พร้อมด้วยหัวห้นาส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และพุทธศาสินกชนหมู่เหล่า   ร่วมประกอบพีธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ ๖๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ที่วัดพรหมนิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ  เพื่อความสุขความเจริญและความรุ่งเรืองแห่งสถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนอันนำไปสู่ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบร่มเย็นและสันติสุข

สำหรับการเจริญพระพุทธมนต์เนื่องด้วยนพเคราะห์ มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งรัชสมัย รัชกาลที่ 4 ตามความเชื่อศรัทธาแต่เดิมว่า การเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ร่วมกับการสวดพระปริตร เป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดานพเคราะห์ประจำวันทั้ง 9 โบราณประเพณีจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และบูชานพเคราะห์ เพื่อเป็นการป้องกันภัยพิบัติและกำจัดภัยอันตรายทั้งปวงให้หมดสิ้นไป
@import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);


นำเสนอโดย  ผลดา ชูสิงห์
 เมื่อ  28 กรกฎาคม 2557 13:28

ภาคประชาสังคม จัดแถลงข่าว ชี้ “ฝายมีชีวิต” เป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เพียงพอตลอดทั้งปี

คณะทำงานฝายมีชีวิตลุ่มน้ำคลองท่าดี จัดแถลงข่าวการจัดการน้ำลุ่มน้ำคลองท่าดีเชิงนิเวศแบบบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตน้ำชุมชนตลอดแนวลุ่มน้ำ ชุมชนเมืองเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และชุมชนรอบๆเมือง อบต.เทศบาลอย่างยั่งยืน

วันนี้ (28 ก.ค.2557) ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ปรึกษาและคณะทำงานฝายมีชีวิตลุ่มน้ำคลองท่าดี นำโดยนายสวัสดิ์ กฤตรัชตนันต์
นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ ,ดร.ดำรง โยธารักษ์ และนายสมเดช คงเกื้อ ร่วมแถลงข่าวถึงการดำเนินงานโครงการสร้างฝายมีชีวิต ซึ่งเป็นการบริหารจัดการน้ำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่คณะทำงานฝายมีชีวิตลุ่มน้ำคลองท่าดีได้จัดทำขึ้นเพื่อให้มีน้ำไว้เพื่อการอุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี

โดย ดร.ดำรง โยธารักษ์ กล่าวว่าขั้นตอนสำคัญของฝายมีชีวิตคือ กระบวนการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น อาทิ ไม้ไผ่ ไม้สะตอเบา ไม้สน ไม้หมาก กระสอบ ทราย มูลวัว ขุยมะพร้าว และต้นไม้ที่รากยึดตลิ่ง มาทำเป็นฝายกั้นน้ำ ซึ่งฝายมีชีวิตนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำหลาก และการเพิ่มน้ำใต้ดิน โดยในช่วงน้ำหลาก ฝายมีชีวิตจะช่วยชะลอ กักเก็บน้ำ ไม่ให้น้ำไปท่วมในพื้นที่เกษตรและชุมชนเมือง ส่วนในหน้าแล้งจะทำหน้าที่ช่วยระบายน้ำออกมาใช้ตลอดช่วงหน้าแล้ง

ดร.ดำรง โยธารักษ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ฝายมีชีวิตไชยมนตรี 1 ตัว สามารถเก็บกักน้ำใรคลองที่สามารถเห็นได้ 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำซึมไปอยู่ในดินทั้งสองฝั่งคลองข้างละประมาณ 2 กิโลเมตร พร้อมทั้งได้นำข้อมูลผลการวิจัยของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ในหัวข้อ “วิจัยวางแผนและการจัดการทรัพยากรน้ำจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยการมีส่วนร่วม” ของ ดร.ปกรณ์ ดิษฐ์กิจและคณะ มายืนยันว่า ลุ่มน้ำคลองท่าดีมีปริมาณน้ำที่ธรรมชาติให้มาปีละประมาณ 700 ล้านคิว และจากการสำรวจปริมาณการใช้น้ำทุกประเภท พบว่าจะมีความต้องการใช้น้ำปริมาณ 115 ล้านคิว หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของปริมาณน้ำที่ธรรมชาติให้มาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ดร.ดำรงฯ ระบุว่าปริมาณน้ำที่เหลือเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชตลอดทั้งปี หากทางเทศบาลนครมีพื้นที่ในการกักเก็บน้ำ



อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

ศูนย์ 3 วัยฯร่วมใจถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปี 2557”

ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว มะม่วงสองต้นจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรม “ศูนย์ 3 วัยฯร่วมใจถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปี 2557”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(28 ก.ค.57) ที่ศูนย์สานสายใยรักแห่งครอบครัวมะม่วงสองต้นจังหวัดนครศรีธรรมราช นายราชิต สุดพุ่ม นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีกล่าวอาศิรวาทราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอราสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา ซึ่งศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวมะม่วงสองต้น จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอราสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 เพื่อให้ภาคีเครือข่ายโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวและประชาชนทั่วไป ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีผ่านกิจกรรมและการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ภายใต้แนวคิดสร้างสุขด้วยการให้(Power of Giving) และเป็นการปลุกจิตสำนึกความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

โอกาสนี้ได้มีการ มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนทุน มวก. จำนวน 4 คน มอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลโครงการบ้านน่าอยู่ ใต้ร่มพระบารมี ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2556 นอกจากนี้จัดให้มีกิจกรรมการตรวจสมรรถภาพทางด้านร่างกาย /ประเมินทางด้านสุขภาพจิต ประกวดหนูน้อยฟันสวย/พัฒนาการเด็ก/สุขภาพเด็กดี 6 เดือน- 1 ปี ประกวดหนูน้อยนมแม่ “แม่เลี้ยงลูกด้วยนม 6 เดือนเต็ม” ประกวดผู้สูงอายุสุขภาพดี 60 ปี ขึ้นไป ประกวดวัยทำงาน อายุ 55-60 ปี ประกวดหนูน้อยคืบคลานอายุ 6 เดือน- 1 ปี บริการตัดผมชาย/หญิง โดยร้านเสริมสวยกรทิพย์ การประกวดวาดภาพ/เกมส์ประเภทต่าง ๆ /ทาย การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด และเวลา 18.30 น. วันนี้(28 ก.ค.57) กำหนดจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล กล่าวถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 พิธีถวายพระพรทางศาสนาอิสลาม หรือพิธีขอ “ดูอา” และการแสดงบนเวทีของวงดนตรีจากค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช