สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ฝึกอบรมทำโคมไฟและงานศิลป์ สร้างอาชีพ สร้างงาน ห่างไกลยาเสพติด ให้กับเยาวชน
วันนี้ 20 มิถุนายน 2557 เวลา 13.30 น.นายผดุงศักย์ ขุนเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมการทำโคมไฟในฝันและงานศิลป์ สร้างงาน ณ.ห้องปลายพระยา ศาลากลางหลังใหม่ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่เยาวชนได้ห่างไกลยาเสพติด และเป็นวิทยากร ครู ก. ของจังหวัดกระบี่ เพื่อที่จะนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับเยาวชน
นายผดุงศักย์ ขุนเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าปัจจุบันปัญหาขยะนับเป็นปัญหาที่สำคัญที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขโดยเฉพาะขวดพลาสติก ถ้าหากมีการนำกลับมาใช้ใหม่ก็จะเกิดประโยชน์มากมายทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่จึงได้เชิญวิทยากรที่มีความรู้ ความชำนาญ ความสามารถ มาบรรยายพร้อมภาคปฏิบัติให้กับเยาวชนในจังหวัดกระบี่จำนวน 10 คน เพื่อเป็นครู ก.นำความรู้ที่ได้จากการอบรมและปฏิบัติในวันนี้ไปถ่ายทอดให้กับเยาวชนที่สนใจ สำหรับวัสดุที่ใช้ในการอบรมและฝึกสอนทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่จะเป็นผู้จัดหามาให้ทั้งหมด โดยรูปแบบในการทำจะใช้ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วนำมาผลิตเป็นโคมไฟรูปแบบต่างๆอย่างสวยงาม ใช้เวลาในการอบรมจำนวน 1 วัน
วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ออกเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุทำให้บ้านพัง
ที่ บริเวณริมหาดเกาะลิบง อำเภอกันตัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ออกเยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชนที่เกาะลิบงซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่ถูกคลื่นขนาดใหญ่ ชัดจนพนังกั้นน้ำทะเลชายฝั่ง และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายในช่วงสัปดาห์ก่อน จากการที่มีน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับคลื่นทะเลมีลมกรรโชกแรง จนทำพนังกั้นน้ำทะเลชายฝั่งพังเสียหาย นอกจากนั้นบ้านเรือนประชาชนที่ใกล้กัลป์ชายฝั่งถูกพายุและน้ำทะเลพัดจนกระเบื้องแตก จำนวนหลายหลัง ในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบงได้ให้ความช่วยเหลือไปบ้าง ในในขณะนี้ ชาวบ้านกำลังผวาจะถูกคลื่นซัดบ้านหายไปในทะเล จนต้องขนย้ายเข้าของหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะขณะนี้พนังกั้นน้ำทะเลชายฝั่งได้พังเสียหายไปเกือบหมด และในบางจุดพนังกั้นน้ำทะเลชายฝั่งหักทรุดฝังจมใต้พื้นทราย และบางส่วนโผล่ให้เห็นแต่คานของพนังกับเสาปูนยาวเป็นแนว ส่วนพื้นดินใต้คานเขื่อนถูกคลื่นซัดหายไปหมดแล้ว แม้ชาวบ้านจะช่วยกันนำกระสอบทรายและก้อนหินมาวางเสริมเพิ่มความแข็งแกร่ง เป็นแนวยาวหลังเขื่อนแต่ก็ต้านความรุนแรงของคลื่นไม่ไหว จนขณะนี้พื้นดินถูกกัดเซาะเข้ามาหลังแนวเขื่อนประมาณ 5 เมตร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปผลความเสียหายทุกส่วน เพื่อจะได้หาแนวทางสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซม ในเบื้องต้นขณะนี้ได้มอบถุงยังชีพและวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมให้กับพี่น้องประชาชน เพราะในขณะนี้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทำให้มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวประมงควรงดเว้นการทำประมงเป็นการชั่วคราว เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ไว้ด้วย
ผวจ.ตรัง นำส่วนราชการลงพื้นที่ออกบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนอำเภอวังวิเศษ
ที่โรงเรียนบ้านทุ่งใหญ่ ตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นางณัฐพิสุทธิ์ เหมทานนท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรังพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดตรัง ได้ออกหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ในการนำบริการของส่วนราชการต่าง ๆ มาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนและรับทราบปัญหาข้อขัดข้องจากชาวบ้าน อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง โครงการ จังหวัดเคลื่อนที่ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” เป็นโครงการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ออกมาให้บริการประชาชนในพื้นที่ เช่น การบริการด้านการแพทย์ ด้านการเกษตร ด้านกฎหมายและงานยุติธรรม ด้านสวัสดิการสังคม ด้านแรงงาน และอื่น ๆ โดยแต่ละหน่วยงานจะมีเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ คอยให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา พร้อมทั้งสื่อแผ่นพับหรืออื่น ๆ ที่ให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และเหล่ากาชาดจังหวัดตรังมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงอายุ 100 ชุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้พ่อแม่ได้ช่วยกันดูแลลูกหลาน สวมกอดลูกวันละครั้งเป็นอย่างน้อยเป็นการสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเกราะป้องกันภัยยาเสพติดให้กับบุตรหลานของเราด้วย และในวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ จังหวัดตรังจัดพิธีทำบุญเมืองตรัง เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ด้วย จึงขอให้พี่น้องประชาชนท่านใดที่ไม่ติดภารกิจเกินไป เชิญร่วมกันทำบุญเมืองตรัง ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีคณะสงฆ์ของจังหวัดตรังจำนวน 200 รูป เจริญพระพุทธมนต์ มีพิธีสวด ดูอาห์ของศาสนาอิสลาม พิธีนมัสการอธิษฐานจิตขอพระพระผู้เป็นเจ้า และกิจกรรมอื่น ๆ อีกหลายกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างความปรองดองของชนในชาติด้วย
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และเหล่ากาชาดจังหวัดตรังมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงอายุ 100 ชุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้พ่อแม่ได้ช่วยกันดูแลลูกหลาน สวมกอดลูกวันละครั้งเป็นอย่างน้อยเป็นการสร้างความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเกราะป้องกันภัยยาเสพติดให้กับบุตรหลานของเราด้วย และในวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ จังหวัดตรังจัดพิธีทำบุญเมืองตรัง เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ด้วย จึงขอให้พี่น้องประชาชนท่านใดที่ไม่ติดภารกิจเกินไป เชิญร่วมกันทำบุญเมืองตรัง ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีคณะสงฆ์ของจังหวัดตรังจำนวน 200 รูป เจริญพระพุทธมนต์ มีพิธีสวด ดูอาห์ของศาสนาอิสลาม พิธีนมัสการอธิษฐานจิตขอพระพระผู้เป็นเจ้า และกิจกรรมอื่น ๆ อีกหลายกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างความปรองดองของชนในชาติด้วย
ทภ. 4 จัดแข่งขันจักรยานทางไกลการกุศล Tour of Srivichai
พ.อ.คนึง บุญมณี หัวหน้าสำนักงานกีฬากองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับ จังหวัดนครศรีธรรมราช อบจ.นครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ หอการค้าจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช และชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช ได้จัดแข่งขันจักรยานทางไกลนครศรีธรรมราช ครั้งที่ 2 Tour of Srivichai ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21- 22 มิถุนายนนี้ ณ สนามบินกองทัพภาคที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชน เยาวชนออกกำลังกาย ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด และเพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปมอบให้แก่ทหารหรือครอบครัวที่อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
สำหรับประเภทการแข่งขัน ได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทเสือหมอบ ระยะทาง 120 กิโลเมตร ประเภทเสือภูเขา ระยะทาง 120 กิโลเมตร และประเภทจักรยานทั่วไปพิชิตเส้นทาง
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 21 มิ.ย.57 คณะผู้จัดงานยังได้จัดกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายเพื่อเอาใจสำหรับผู้ที่รักและสนใจการขี่รถจักรยาน โดย จัดการประกวดจักรยานโบราณ จักรยานสวยงาม การแข่งขันจักรยานสามล้อ การแสดงการขี่จักรยานผาดโผน Extream จากทีมกรุงเทพ กิจกรรมนันทนาการล่ารางวัล การแสดงแอโรบิก รำอวยพร ระบบศรีวิชัย การแสดงบนเวที และรำวงเวียนครก จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 21-22 มิถุนายนนี้ ณ สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธจังหวัดนครศรีธรรมราช
สำหรับประเภทการแข่งขัน ได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทเสือหมอบ ระยะทาง 120 กิโลเมตร ประเภทเสือภูเขา ระยะทาง 120 กิโลเมตร และประเภทจักรยานทั่วไปพิชิตเส้นทาง
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 21 มิ.ย.57 คณะผู้จัดงานยังได้จัดกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายเพื่อเอาใจสำหรับผู้ที่รักและสนใจการขี่รถจักรยาน โดย จัดการประกวดจักรยานโบราณ จักรยานสวยงาม การแข่งขันจักรยานสามล้อ การแสดงการขี่จักรยานผาดโผน Extream จากทีมกรุงเทพ กิจกรรมนันทนาการล่ารางวัล การแสดงแอโรบิก รำอวยพร ระบบศรีวิชัย การแสดงบนเวที และรำวงเวียนครก จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 21-22 มิถุนายนนี้ ณ สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธจังหวัดนครศรีธรรมราช
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป “รู้รัก สามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป “รู้รัก สามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” 20-22 มิถุนายน 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ชมการแสดงดนตรีกองทัพภาคที่ 4 รำวงเวียนครก จำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ชิมอาหารอร่อย ๆ พร้อมบริการตัดผมฟรี มีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้( 20 มิ.ย.57) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า)นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป “รู้รัก สามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ประจำพื้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ ศปป.กอ.รมน.จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วม ศปป.กอ.รมน.กองทัพภาคที่ 4 เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มิถุนายน 2557 เพื่อคืนความสุขให้ชาวนครศรีธรรมราช และแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีปรองดองของชาวนครศรีธรรมราช โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้กล่าวนำปฏิญาณตนในการร่วมกันสร้างความสามัคคีปรองดอง จะเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่า ร่วมจับมือเป็นวงกลมซ้อนกันหลายวงและรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม เพลงสดุดีมหาราชา และเพลงชาติ จากนั้นมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรตัดผมชาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41(พลตรีพีรพล วิริยากุล) พบปะประชาชนเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงเจตนารมณ์และนโยบายของ คสช.ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
สำหรับกิจกรรม ภายในงานจะมีการแสดงดนตรีของทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 รำวงเวียนครก การออกบู๊ธ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์โอทอป สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด พร้อมเลือกชิมอาหารอร่อย ๆ และน้ำดื่มฟรี นอกจากนี้มีการบริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า)โดยพร้อมเพรียงกัน
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป “รู้รัก สามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” 20-22 มิถุนายน 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ชมการแสดงดนตรีกองทัพภาคที่ 4 รำวงเวียนครก จำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอป สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ชิมอาหารอร่อย ๆ พร้อมบริการตัดผมฟรี มีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้( 20 มิ.ย.57) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า)นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป “รู้รัก สามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ประจำพื้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ ศปป.กอ.รมน.จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วม ศปป.กอ.รมน.กองทัพภาคที่ 4 เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มิถุนายน 2557 เพื่อคืนความสุขให้ชาวนครศรีธรรมราช และแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีปรองดองของชาวนครศรีธรรมราช โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้กล่าวนำปฏิญาณตนในการร่วมกันสร้างความสามัคคีปรองดอง จะเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่า ร่วมจับมือเป็นวงกลมซ้อนกันหลายวงและรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม เพลงสดุดีมหาราชา และเพลงชาติ จากนั้นมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรตัดผมชาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41(พลตรีพีรพล วิริยากุล) พบปะประชาชนเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงเจตนารมณ์และนโยบายของ คสช.ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
สำหรับกิจกรรม ภายในงานจะมีการแสดงดนตรีของทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 รำวงเวียนครก การออกบู๊ธ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์โอทอป สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด พร้อมเลือกชิมอาหารอร่อย ๆ และน้ำดื่มฟรี นอกจากนี้มีการบริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2557 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า)โดยพร้อมเพรียงกัน
พังงาจัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดสนับสนุนนโยบายของ คสช. ระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗
วันนี้ ๒๐ มิ.ย. ๕๗ เวลา ๐๕.๓๐ น. จังหวัดพังงานำโดย นายไชยวัฒน์ เทพี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดและเพื่อสนับสนุนนโยบายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในด้านรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ณ ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองพังงา โดยพีธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดครั้งนี้ ตำรวจภูธรเมืองพังงาได้บูรณาการร่วมกันระหว่างสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดพังงา และอาสาสมัครภาคประชาชน จำนวน ๓๐๐ นาย
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการ ๖ มาตรการเร่งด่วนตามคำสั่ง คสช.ที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ของตำรวจภาค ๘ ในห้วงวันที่ ๙ มิถุนายน -๙ กรกฎาคม ๕๗ โดยกำหนดมาตรการและแนวทางในการสกัดกั้น ปราบปราม จับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชน เป้าหมายพื้นที่แพร่ระบาดและพักยาเสพติด เพื่อจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนกดดันผู้เสพยาเสพติดให้สมัครใจเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพให้มากที่สุดและสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและเครือข่ายเชื่อมโยงผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้การระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของของยาเสพติดในพื้นที่พังงาจัดขึ้นระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้.
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการ ๖ มาตรการเร่งด่วนตามคำสั่ง คสช.ที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ของตำรวจภาค ๘ ในห้วงวันที่ ๙ มิถุนายน -๙ กรกฎาคม ๕๗ โดยกำหนดมาตรการและแนวทางในการสกัดกั้น ปราบปราม จับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชน เป้าหมายพื้นที่แพร่ระบาดและพักยาเสพติด เพื่อจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนกดดันผู้เสพยาเสพติดให้สมัครใจเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพให้มากที่สุดและสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและเครือข่ายเชื่อมโยงผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้การระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของของยาเสพติดในพื้นที่พังงาจัดขึ้นระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้.
พังงาจัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดสนับสนุนนโยบายของ คสช. ระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗
วันนี้ ๒๐ มิ.ย. ๕๗ เวลา ๐๕.๓๐ น. จังหวัดพังงานำโดย นายไชยวัฒน์ เทพี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดและเพื่อสนับสนุนนโยบายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในด้านรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ณ ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองพังงา โดยพีธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดครั้งนี้ ตำรวจภูธรเมืองพังงาได้บูรณาการร่วมกันระหว่างสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดพังงา และอาสาสมัครภาคประชาชน จำนวน ๓๐๐ นาย
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการ ๖ มาตรการเร่งด่วนตามคำสั่ง คสช.ที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ของตำรวจภาค ๘ ในห้วงวันที่ ๙ มิถุนายน -๙ กรกฎาคม ๕๗ โดยกำหนดมาตรการและแนวทางในการสกัดกั้น ปราบปราม จับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชน เป้าหมายพื้นที่แพร่ระบาดและพักยาเสพติด เพื่อจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนกดดันผู้เสพยาเสพติดให้สมัครใจเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพให้มากที่สุดและสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและเครือข่ายเชื่อมโยงผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้การระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของของยาเสพติดในพื้นที่พังงาจัดขึ้นระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้.
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการ ๖ มาตรการเร่งด่วนตามคำสั่ง คสช.ที่ ๔๑/๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ของตำรวจภาค ๘ ในห้วงวันที่ ๙ มิถุนายน -๙ กรกฎาคม ๕๗ โดยกำหนดมาตรการและแนวทางในการสกัดกั้น ปราบปราม จับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชน เป้าหมายพื้นที่แพร่ระบาดและพักยาเสพติด เพื่อจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนกดดันผู้เสพยาเสพติดให้สมัครใจเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพให้มากที่สุดและสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและเครือข่ายเชื่อมโยงผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้การระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของของยาเสพติดในพื้นที่พังงาจัดขึ้นระหว่าง๑๗-๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้.
พังงาสนธิกำลังจู่โจมตรวจค้นเรือนจำเพื่อระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดสนับสนุนนโยบายของ คสช. ผลจากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดและสิ่งของต้องห้าม
ตำรวจภูธรเมืองพังงาได้บูรณาการร่วมกันระหว่างสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดพังงา และอาสาสมัครภาคประชาชน จำนวน ๓๐๐ นาย จู่โจมตรวจค้นเรือนจำเพื่อระดมกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดสนับสนุนนโยบายของ คสช. เมื่อเวลา ๐๕.๔๕ น.วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ โดยตรวจค้นนักโทษ จำนวน ๘๐๔ คน เรือนนอนชาย แดนขังหญิง โรงงานช่างไม้ ห้องสุขา โรงทออวน สูทกรรมและห้องนอนจ่ายนอก ผลจากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งของต้องห้าม
นายนิกร จันทร์อำไพ นายอำเภอเมืองพังงา กล่าวว่า ผวจ.พังงามอบหมายนโยบายสำคัญในการปราบปรามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เรือนจำจังหวัดพังงาเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ลงพื้นที่ตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยปฏิบัติการเป็นอย่างดี
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจค้นในเรือนจำเป็นการ X-ray ทุกตารางนิ้วเพื่อค้นหายาเสพติดแต่ก็ไม่พบยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของต้องห้ามแต่อย่างใด สืบเนื่องจากเรือนจำพังงามีความเข้มงวดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง
ทางด้านนายกาญจน์ สุนทรเดชา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา กล่าวว่า พื้นที่ราชทัณฑ์พังงาได้เน้นย้ำเรื่องการตรวจค้นเป็นประจำทุกวัน และได้ร่วมบูรณาการกับทางตำรวจ ปกครอง ตรวจค้นให้บ่อยขึ้น สิ่งที่ราชทัณฑ์ปฏิบัติประจำคือการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและตรวจปัสสาวะ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้บรรลุวัตถุประสงค์ผลลัพธ์ต้องไม่มียาเสพติดในเรือนจำจังหวัดพังงา
นายนิกร จันทร์อำไพ นายอำเภอเมืองพังงา กล่าวว่า ผวจ.พังงามอบหมายนโยบายสำคัญในการปราบปรามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เรือนจำจังหวัดพังงาเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ลงพื้นที่ตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยปฏิบัติการเป็นอย่างดี
พันตำรวจเอกวันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจค้นในเรือนจำเป็นการ X-ray ทุกตารางนิ้วเพื่อค้นหายาเสพติดแต่ก็ไม่พบยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของต้องห้ามแต่อย่างใด สืบเนื่องจากเรือนจำพังงามีความเข้มงวดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง
ทางด้านนายกาญจน์ สุนทรเดชา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา กล่าวว่า พื้นที่ราชทัณฑ์พังงาได้เน้นย้ำเรื่องการตรวจค้นเป็นประจำทุกวัน และได้ร่วมบูรณาการกับทางตำรวจ ปกครอง ตรวจค้นให้บ่อยขึ้น สิ่งที่ราชทัณฑ์ปฏิบัติประจำคือการตรวจค้นอย่างเข้มงวดและตรวจปัสสาวะ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้บรรลุวัตถุประสงค์ผลลัพธ์ต้องไม่มียาเสพติดในเรือนจำจังหวัดพังงา
จังหวัดพังงาเตรียมจัดงานสมโภชอัฐิเจดีย์พระบริรักษ์ภูธรอดีตเจ้าเมืองพังงา ผู้ทำนุบำรุงรักษาและพัฒนาบ้านเมืองพังงาให้เป็นรากฐานของความเจริญจนถึงปัจจุบัน
นายไชยวัฒน์ เทพี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการดำเงินงานบูรณปฏิสังขรณ์อัฐเจดีย์พระยาบริรักษ์ภูธร ณ วัดสราภิมุข (วัดสระ) อ.เมืองพังงา เพื่อเตรียมจัดงานพิธีสมโภชอัฐิเจดีย์พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นคร และขำ ณ นคร) อดีตเจ้าเมืองพังงา ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการบุกเบิกสร้างบ้านสร้างเมือง ดูแลทุกข์สุขและความสงบเรียบร้อยของราษฎร ส่งผลให้เมืองพังงามีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน บ้านเมืองสงบร่มเย็น ผู้คนมีความผาสุก ตั้งมั่นอยู่ในศิละรรมอันดีงามด้วยคุณูปการของบรรพชนที่ได้ก่อสร้างเมืองไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ดำรงอยู่อย่างผาสุกมาจนถึงทุกวันนี้ พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นครและขำ ณ นคร) อดีตเจ้าเมืองพังงา ผู้บุกเบิกและปรับปรุงระบบการทำภาษีเหมืองแร่ แบบเหมาเหมือง และพัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองจนได้รับคำชมเชยจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จประพาสเมืองพังงา เมื่อปี ๒๔๑๔ และ พ.ศ. ๒๔๓๓ ว่าเป็นผู้ว่าราชการเมืองพังงา ที่มีระเบียบแบบแผน ทำนุบำรุงรักษาบ้านเมืองดีทำนุบำรุงรักษาและพัฒนาบ้านเมืองพังงาให้เป็นรากฐานของความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต มีระเบียบแบบแผน และเป็นผู้รอบรู้ราชการดี เมื่อถึงแก่อสัญกรรม(พระยาบริรักษ์ภูธร) ยังปรากฏอัฐิเจดีย์ของท่านทั้งสองตั้งอยู่ที่วัดสราภิมุข อ.เมืองพังงา มาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษามรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดพังงารวมทั้งส่งเสริมพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพังงา จังหวัดจึงร่วมกับคณะลูกหลานเจ้าเมืองพังงา หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดพังงา กำหนดพิธีสมโภชงานดังกล่าวในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ วัด สราภิมุข (วัดสระ) อ.เมือง จ.พังงา โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ฯ เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์
จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน บ้านเมืองสงบร่มเย็น ผู้คนมีความผาสุก ตั้งมั่นอยู่ในศิละรรมอันดีงามด้วยคุณูปการของบรรพชนที่ได้ก่อสร้างเมืองไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ดำรงอยู่อย่างผาสุกมาจนถึงทุกวันนี้ พระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นครและขำ ณ นคร) อดีตเจ้าเมืองพังงา ผู้บุกเบิกและปรับปรุงระบบการทำภาษีเหมืองแร่ แบบเหมาเหมือง และพัฒนาบ้านเมืองให้รุ่งเรืองจนได้รับคำชมเชยจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จประพาสเมืองพังงา เมื่อปี ๒๔๑๔ และ พ.ศ. ๒๔๓๓ ว่าเป็นผู้ว่าราชการเมืองพังงา ที่มีระเบียบแบบแผน ทำนุบำรุงรักษาบ้านเมืองดีทำนุบำรุงรักษาและพัฒนาบ้านเมืองพังงาให้เป็นรากฐานของความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต มีระเบียบแบบแผน และเป็นผู้รอบรู้ราชการดี เมื่อถึงแก่อสัญกรรม(พระยาบริรักษ์ภูธร) ยังปรากฏอัฐิเจดีย์ของท่านทั้งสองตั้งอยู่ที่วัดสราภิมุข อ.เมืองพังงา มาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษามรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดพังงารวมทั้งส่งเสริมพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพังงา จังหวัดจึงร่วมกับคณะลูกหลานเจ้าเมืองพังงา หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดพังงา กำหนดพิธีสมโภชงานดังกล่าวในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ วัด สราภิมุข (วัดสระ) อ.เมือง จ.พังงา โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ฯ เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์
ผู้ผ่านการฝึกอบรมจากโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาตามโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดจังหวัดพังงาประจำปี ๒๕๕๗ มีทัศนคติแนวคิดเรื่องยาเสพติดในทางที่ดีขึ้น
นายไชยวัฒน์ เทพี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีปิดการอบรม และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้ารับการอบรม โครงการค่ายบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด จังหวัดพังงา ปี ๒๕๕๗ ณ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดพังงา อำเภอทับปุด โดยมี นายอำเภอทับปุด ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดพังงา แขกผู้มีเกียรติ ทีมวิทยากรจากสาธารณสุขจังหวัดพังงา สำนักงาน ปปส.ภาค ๘ ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดพังงา ครูพี่เลี้ยงจากที่ทำการปกครองจังหวัดพังงา และ ผู้เข้ารับการอบรม เข้าร่วมในพิธีปิด
นายไพศาล ศรีเทพ ป้องกันจังหวัดพังงา กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย รู้จักคุณค่าของตนเอง สร้างเป้าหมายในชีวิต ลดความขัดแย้งในครอบครัว และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยการอบรมใช้เวลา ๑๔ คืน ๑๕ วัน ระหว่าง ๕ มิถุนายน ถึง ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีผู้ผ่านการอบรม จำนวน ๕๘ คน
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ขอให้กำลังใจผู้เข้ารับการอบรมทุกคน ขอให้เข้มแข็ง อดทน มั่นคง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่วิถีชีวิตที่ดีงาม เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคม ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป
หนึ่งในผู้เข้ารับการฝึกอบรม กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าค่ายถึงครึ่งเดือนทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้นและไม่ขอกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก จะกลับไปประกอบอาชีพให้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ครอบครัวต่อไป
นายไพศาล ศรีเทพ ป้องกันจังหวัดพังงา กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย รู้จักคุณค่าของตนเอง สร้างเป้าหมายในชีวิต ลดความขัดแย้งในครอบครัว และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยการอบรมใช้เวลา ๑๔ คืน ๑๕ วัน ระหว่าง ๕ มิถุนายน ถึง ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีผู้ผ่านการอบรม จำนวน ๕๘ คน
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ขอให้กำลังใจผู้เข้ารับการอบรมทุกคน ขอให้เข้มแข็ง อดทน มั่นคง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่วิถีชีวิตที่ดีงาม เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคม ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป
หนึ่งในผู้เข้ารับการฝึกอบรม กล่าวว่า จากการที่ได้เข้าค่ายถึงครึ่งเดือนทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดมากขึ้นและไม่ขอกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก จะกลับไปประกอบอาชีพให้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ครอบครัวต่อไป
ตำรวจ ภูธรจังหวัดสงขลา มอบอินทผลัมให้แก่ ผู้แทนมัสยิด ข้าราชการตำรวจ และพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในจังหวัดสงขลา ในช่วงเดือนรอมฏอนที่จะถึงนี้
วันนี้ (20 มิ.ย. 57) ที่มัสยิดกลางจังหวัดสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พันเอกวรพล วรพันธ์ เสนาธิการ มทบ. 42 และ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมกันมอบอินทผาลัมให้แก่มัสยิดและพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามใน จังหวัดสงขลา ได้แก่ ผู้แทนกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ผู้แทนชมรมอิหม่านอำเภอต่าง ๆ ผู้แทนสมาพันธ์ ผู้แทนสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และข้าราชการตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลาม กว่า 2,700 กล่อง
นาย กฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นศาสนกิจที่ฝึกฝนให้เกิดการเรียนรู้ในเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจ ความอดทน ความเสมอภาค ความสามัคคี ความสมานฉันท์ ซึ่งในปีนี้การเริ่มถือศีลอดจะเริ่มในวันที่ 27 หรือ 28 มิถุนายนนี้ ตามประกาศจุฬาราชมนตรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ การประกอบศาสนกิจ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม จึงได้จัดมอบผลอินทผาลัม ให้แก่มัสยิดต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลา ได้รับประทานในช่วงถือศีลอด และเพื่อให้ผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอนฎอนได้ถือปฏิบัติตามแบบฉบับของท่าน ศาสดาได้อย่างสมบูรณ์ และมีพลานามัย สุขภาพแข็งแรง สามารถถือศีลอดได้ลุลวงตลอดทั้งเดือนด้วยดี และขอให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงถือศีลอดในเดือนรอมฎอนด้วยความยำเกรงต่อองค์อัลเลาะห์ ขอให้องค์อัลเลาะห์ให้พรพี่น้องมุสลิมได้ทำแต่สิ่งดี ๆตลอดทั้งเดือนรอนฎอน
นาย กฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นศาสนกิจที่ฝึกฝนให้เกิดการเรียนรู้ในเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจ ความอดทน ความเสมอภาค ความสามัคคี ความสมานฉันท์ ซึ่งในปีนี้การเริ่มถือศีลอดจะเริ่มในวันที่ 27 หรือ 28 มิถุนายนนี้ ตามประกาศจุฬาราชมนตรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ การประกอบศาสนกิจ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม จึงได้จัดมอบผลอินทผาลัม ให้แก่มัสยิดต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลา ได้รับประทานในช่วงถือศีลอด และเพื่อให้ผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอนฎอนได้ถือปฏิบัติตามแบบฉบับของท่าน ศาสดาได้อย่างสมบูรณ์ และมีพลานามัย สุขภาพแข็งแรง สามารถถือศีลอดได้ลุลวงตลอดทั้งเดือนด้วยดี และขอให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงถือศีลอดในเดือนรอมฎอนด้วยความยำเกรงต่อองค์อัลเลาะห์ ขอให้องค์อัลเลาะห์ให้พรพี่น้องมุสลิมได้ทำแต่สิ่งดี ๆตลอดทั้งเดือนรอนฎอน
จังหวัดสตูลจัดกิจกรรมการออกหน่วยบริการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในเขตพื้นที่ หมู่ ๑๑ บ้านปาล์มไทย ต.ควนกาหลง
นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการต่างๆ ร่วมกิจกรรมการออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ครั้งที่ ๖ ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อนำบริการเชิงรุกไปบริการประชาชนในท้องที่ห่างไกลทุรกันดาร ณ ศาลาอเนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน บ้านปาล์มไทย หมู่ที่ ๑๑ ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล
ภายในงานมีกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ บูธนิทรรศการ การจำหน่ายสินค้า OTOP แจกพันธุ์กล้าไม้แก่เกษตรกร การรับชำระภาษีรถประจำปี การสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น จากนั้นมีการมอบเงินสงเคราะห์และทุนการศึกษาแก่เด็กที่ด้อยโอกาส จำนวน ๒๐ ทุน และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูลยังได้มอบข้าวสารและแว่นตาแก่ผู้สูงวัยในพื้นที่อีกด้วย
สำหรับตำบลควนกาหลง มีครัวเรือน ๔,๙๕๕ ครัวเรือน ๑๑ หมู่บ้าน ประชากร ๑๔,๒๓๐ คน ราษฎรประกอบอาชีพเกษตรกรรม สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ประชากรส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธประมาณร้อยละ ๖๐% ศาสนาอิสลามประมาณร้อยละ ๔๐% ไม่มีความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติศาสนา ดำรงชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่ก็ยังคงมีปัญหาในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ทำกิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาความต้องการหน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับป่าไม้ตั้งสำนักงานบริเวณน้ำตกดาวกระจาย ปัญหาการก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านส้านแดงถึงแค้มป์ขี้พร้า และปัญหาการขยายเขตไฟฟ้าเข้าน้ำตกดาวกระจาย ซึ่งทางจังหวัดรับทราบปัญหาและจะนำเสนอที่ประชุมระดับเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ภายในงานมีกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ บูธนิทรรศการ การจำหน่ายสินค้า OTOP แจกพันธุ์กล้าไม้แก่เกษตรกร การรับชำระภาษีรถประจำปี การสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น จากนั้นมีการมอบเงินสงเคราะห์และทุนการศึกษาแก่เด็กที่ด้อยโอกาส จำนวน ๒๐ ทุน และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูลยังได้มอบข้าวสารและแว่นตาแก่ผู้สูงวัยในพื้นที่อีกด้วย
สำหรับตำบลควนกาหลง มีครัวเรือน ๔,๙๕๕ ครัวเรือน ๑๑ หมู่บ้าน ประชากร ๑๔,๒๓๐ คน ราษฎรประกอบอาชีพเกษตรกรรม สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ประชากรส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธประมาณร้อยละ ๖๐% ศาสนาอิสลามประมาณร้อยละ ๔๐% ไม่มีความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติศาสนา ดำรงชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่ก็ยังคงมีปัญหาในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ทำกิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาความต้องการหน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับป่าไม้ตั้งสำนักงานบริเวณน้ำตกดาวกระจาย ปัญหาการก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านส้านแดงถึงแค้มป์ขี้พร้า และปัญหาการขยายเขตไฟฟ้าเข้าน้ำตกดาวกระจาย ซึ่งทางจังหวัดรับทราบปัญหาและจะนำเสนอที่ประชุมระดับเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล
ส.ปชส.สตูล
หอการค้าจังหวัดจัดงานสตูลฟันแฟร์ ส่งเสริมการลงทุนหวังกระตุ้นเศรษฐกิจสตูลเปิดประตูสู่อาเซียน
นายวิทชัย อรุณอร่ามศักดิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล จัดงาน "สตูลฟันแฟร์” ครั้งที่ ๓ ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันที่ ๑๙ - ๒๑ มิ.ย. นี้ ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสตูล เพื่อส่งเสริมการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ และให้ความรู้ด้านธุรกิจ เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สมาชิก และผู้ประกอบการทั่วไปภายในจังหวัดสตูล อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และระดับประเทศต่อไป โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธาน
กิจกรรมต่างๆ ภายในงาน อาทิ การจำหน่ายและแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อย การจำหน่ายสินค้า OTOP กิจกรรมบนเวที การประกวดร้องเพลง การแสดงศิลปะพื้นบ้าน บูธของธนาคารรัฐและพาณิชย์ บูธของชมรมประกันภัย ธุรกิจประกันสุขภาพ ธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจเฟรนไชน์ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายวิทชัย อรุณอร่ามศักดิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการในจังหวัดสตูล มีช่องทางให้การจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมีการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคการประกอบธุรกิจ แนะนำอาชีพใหม่ๆ ในรูปแบบแฟรนไชส์ที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสตูล และสามารถพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในจังหวัด เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสารถสู่การแข่งขันในตลาดสากล และเป็นจุดเริ่มต้นการเปิดประตูสู่อาเซียนในอนาคตต่อไป
กิจกรรมต่างๆ ภายในงาน อาทิ การจำหน่ายและแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อย การจำหน่ายสินค้า OTOP กิจกรรมบนเวที การประกวดร้องเพลง การแสดงศิลปะพื้นบ้าน บูธของธนาคารรัฐและพาณิชย์ บูธของชมรมประกันภัย ธุรกิจประกันสุขภาพ ธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจเฟรนไชน์ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายวิทชัย อรุณอร่ามศักดิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการในจังหวัดสตูล มีช่องทางให้การจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมีการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคการประกอบธุรกิจ แนะนำอาชีพใหม่ๆ ในรูปแบบแฟรนไชส์ที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสตูล และสามารถพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในจังหวัด เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสารถสู่การแข่งขันในตลาดสากล และเป็นจุดเริ่มต้นการเปิดประตูสู่อาเซียนในอนาคตต่อไป
กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล
ส.ปชส.สตูล
ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เร่งดำเนินการแผนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างภาครัฐกับประชาชน ตามนโยบายของ คสช.
นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลและผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดสตูล เชิญหัวหน้าส่วนราชการ แกนนำท้องถิ่นจาก ๗ อำเภอ ตำรวจ ทหาร และแกนนำทางการเมืองทุกฝ่ายกว่า ๑๐๐ คน ร่วมดื่มกาแฟยามเช้า ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัด อ.เมือง จ.สตูล เพื่อร่วมปรึกษาหารือในการปรองดองสมานฉันท์ระหว่างภาครัฐกับประชาชน ตามประกาศของ คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๗ ซึ่งได้มอบหมายภารกิจสำคัญเร่งด่วนของประเทศในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนในระดับพื้นที่ เสริมสร้างความรักความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้สังคมไทยและปฏิรูปการเมือง ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่าย
โอกาสนี้ นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในวันนี้ จะดำเนินการขับเคลื่อนและเร่งรัดให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอำเภอ ได้เร่งดำเนินการให้เกิดผลชัดเจน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานทั้งระดับจังหวัดและอำเภอต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว มีการจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เน้นสร้างจิตสำนึก ในความรักความสามัคคี จากนั้นจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงเจตนารมณ์และแนวทางดำเนินงานตามนโยบายของ คสช. เพื่อก่อให้เกิดความสงบสุขในจังหวัดสตูลต่อไป
กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล
ส.ปชส.สตูล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)