จ.นครศรีธรรมราชจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ พิธีสืบดวงพระชาตา และถวายผ้าไตรพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557
วันนี้ 28 ก.ค. 57 เวลา 09.09 น.ที่อาคาร 100 ปี วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน เชาวลิต รอง ผวจ. นครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ พิธีสืบดวงพระชาตาและถวายผ้าไตรและถวายผ้าไตรพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16-17-18 ธรรมยุติ เป็นประธานสงฆ์ มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน นักเรียน ร่วมพิธี
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยจัดให้มีพิธีทางพระพุทธศาสนา ถวายราชสักการะ กล่าวถวายพระพรชัยมงคล กล่าวคำถวายผ้าไตรพระราชทาน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทประจำดาวนพเคราะห์ครบทั้ง 9 วัน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สืบดวงพระชาตา
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
อบต.สวนหลวงจัดโครงการสร้างพลังเยาวชนไทย ร่วมใจพัฒนาชาติประจำปี ๒๕๕๗
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสวนหลวง นายบุญยืน ประทุมมาศ นายก อบต.สวนหลวง พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ อบต.สวนหลวง จัดโครงการสร้างพลังเยาวชนไทย ร่วมใจพัฒนาชาติประจำปี ๒๕๕๗ นายบุญยืน ประทุมมาศ กล่าวว่า “องค์การบริหารส่วนตำบลสวนหลวง ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช และแกนนำเด็กเยาวชน /สภาเด็ก เยาวชนตำบลสวนหลวง ซึ่งเราได้ตระหนักความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน จึงได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชน เพราะปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนทั้งในเมืองและชนบทของไทย มีแนวโน้มที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทย คือ ปัญหาการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและยาเสพติด ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันสมควร การติดเชื้อเอดส์และการตั้งครรภ์นอกสมรส ปัญหาการเล่นการพนัน การใช้ความรุนแรง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนตำบลสวนหลวง แกนนำสภาเด็กและเยาวชนตำบล จำนวน ๓๐ คน เข้าร่วมกิจกรรม ” ซึ่งในช่วงเช้าได้รับเกียรติจากคุณกัลยา หนูคง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลเชียรใหญ่ วิทยากร ได้ให้ความรู้ เรื่องปัญหาจิตวิทยาวัยรุ่น และปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และในช่วงบ่าย ได้รับเกียรติจาก พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ สุพรรณพงค์ รอง ผกก.ป.สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ให้ความรู้เรื่องยาเสพติดและการเล่นการพนัน รวมทั้งกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงทัศนะต่อการจัดโครงการดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากตัวแทนแกนนำเยาวชนในพื้นที่ตำสวนหลวงเป็นอย่างดี
นายพิชัย ชูกลิ่น // ศูนย์ข่าวประชาสัมพันธ์ อบต.สวนหลวง // รายงาน
ประชาสัมพันธ์จังหวัดตรังประชุมชี้แจงการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อวิทยุตามแนวทาง คสช.
ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตรัง นายสาธร นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประธานการประชุมชี้แจงการเผยแพร่ข่อมูลข่าวสารผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง ทั้งสื่อวิทยุหลักจำนวน 5 แห่ง และวิทยุชุมชนที่ได้อนุญาตให้ออกอากาศแล้วจำนวน 5 แห่ง เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นไปตามระเบียบ ประกาศของ คสช. และ กสทช. หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาจัดการกับปัญหาต่าง ๆ โดยได้ออกประกาศและคำสั่งต่าง ๆ ออกมา เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยและคืนความสุขให้ประชาชน ระเบียบ กฎเกณฑ์ ต่าง ๆ ได้มีการปรับปรุง แก้ไข จนการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ เป็นไปในทางที่ควรจะเป็น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชน คสช. ได้ออกประกาศหลายฉบับ ที่ครอบคลุมสื่อทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสังคมออนไลน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์และวิทยุได้มีประกาศให้งดออกอากาศ ส่วนที่ออกอากาศได้ก็ต้องมีข้อตกลงกับ คสช. ก่อนเท่านั้น
โดยสื่อวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ได้งดออกอากาศตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา หากจะออกอากาศก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบกระบวนการทางเทคนิคของเครื่องส่ง จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ก่อน และต้องมีบันทึกข้อตกลงกับ คสช. ด้วย ถึงกฎกติกาในการออกอากาศ นับจนถึงปัจจุบันจังหวัดตรังมีวิทยุชุมชนที่ผ่านหลักเกณฑ์ของ กสทช. แล้วจำนวน 7 แห่ง จาก 51 แห่ง นายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง กล่าวว่า เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากการรับสัญญาณการถ่ายทอดทุกครั้งที่มีประกาศจาก คสช.แล้ว การดำเนินการเผยแพร่ในสิ่งต่าง ๆ ต้องอยู่ภายใต้ประกาศของ คสช. และ กสทช. โดยมี พ.อ.สมทรง คงพึ่ง ผู้แทน กอ.รมน.จว.ตรัง นายพันศักดิ์ ปลอดเอี่ยม ผู้แทนจาก กสทช.เขต 4 สงขลา ร่วมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติที่ทุกสถานีฯ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งด้านเทคนิคของเครื่องส่งผ่านการตรวจสอบแล้ว ด้านเนื้อหาของรายการประชาชนทุกคนกำลังตรวจสอบการนำเสนอข้อมูลของทุกสถานีฯ หากท่านไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือข้อตกลง หากมีการร้องเรียนหรือตรวจพบว่าสถานีได้ทำผิดเงื่อนไข สถานีนั้น ๆ เหล่านั้นจะถูกปิดอย่างถาวร
โดยสื่อวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ได้งดออกอากาศตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา หากจะออกอากาศก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบกระบวนการทางเทคนิคของเครื่องส่ง จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ก่อน และต้องมีบันทึกข้อตกลงกับ คสช. ด้วย ถึงกฎกติกาในการออกอากาศ นับจนถึงปัจจุบันจังหวัดตรังมีวิทยุชุมชนที่ผ่านหลักเกณฑ์ของ กสทช. แล้วจำนวน 7 แห่ง จาก 51 แห่ง นายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง กล่าวว่า เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากการรับสัญญาณการถ่ายทอดทุกครั้งที่มีประกาศจาก คสช.แล้ว การดำเนินการเผยแพร่ในสิ่งต่าง ๆ ต้องอยู่ภายใต้ประกาศของ คสช. และ กสทช. โดยมี พ.อ.สมทรง คงพึ่ง ผู้แทน กอ.รมน.จว.ตรัง นายพันศักดิ์ ปลอดเอี่ยม ผู้แทนจาก กสทช.เขต 4 สงขลา ร่วมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติที่ทุกสถานีฯ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งด้านเทคนิคของเครื่องส่งผ่านการตรวจสอบแล้ว ด้านเนื้อหาของรายการประชาชนทุกคนกำลังตรวจสอบการนำเสนอข้อมูลของทุกสถานีฯ หากท่านไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือข้อตกลง หากมีการร้องเรียนหรือตรวจพบว่าสถานีได้ทำผิดเงื่อนไข สถานีนั้น ๆ เหล่านั้นจะถูกปิดอย่างถาวร
อบจ.ตรัง มอบพัสดุรางวัลส่งเสริมประชาธิปไตย
ที่ วัดหัวถนน ตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง จ.ตรัง นายกิจ หลีกภัย นายกอบจ.ตรัง ผอ.กองกิจการสภาอบจ.ตรัง เป็นประธานและร่วมในพิธีมอบพัสดุรางวัลส่งเสริมประชาธิปไตย ประกอบด้วย เต็นท์โครงเหล็กทรงโค้ง จำนวน 6 หลัง/โต๊ะขาเหล็ก พร้อมผ้าปูโต๊ะ จำนวน 60 ตัว/เก้าอี้พลาสติก จำนวน 110 ตัวและกล้องวงจรปิดพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 4 ตัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากอบจ.ตรังในการจัดซื้อ เป็นเงินทั้งสิ้น 330,020 บาท เนื่องจากได้รับรางวัลสนับสนุนตามโครงการส่งเสริมประชาธิปไตย ที่มุ่งจูงใจให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งนายกอบจ.ตรัง ในอัตราสูงสุดตามลำดับในระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2555 ปรากฏว่าประชาชน หมู่ที่ 4,5,6 ตำบลนาพละ มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง สูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ของจังหวัด จาก 810 หน่วยเลือกตั้ง โดยการดำเนินการหาพัสดุครั้งนี้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนที่ได้ลงมติ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2555 โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ให้ได้นานที่สุด นายกอ บจ.ตรัง กล่าวว่า อบจ.ตรัง ได้ดำเนินการหาพัสดุ ตามความต้องการของคนส่วนใหญ่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นว่าประชาชนหมู่ที่ 4,5,6 ตำบลนาพละ ได้แสดงพลังสร้างและเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหมู่บ้านอื่นๆในจังหวัด ด้านผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้คำมั่นว่าจะดูแลและบำรุงรักษาพัสดุเหล่านี้ไว้ใช้ประโยชน์ให้ได้นานที่สุด
ธ.ก.ส.ตรัง ร่วมประชุมโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 ระดับจังหวัด พร้อมแนะให้เกษตรกรชาวสวนยางปรับวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี2557 ระดับจังหวัด โดยมี นายภาณุมาศ ตั้นซู่ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม โดยขณะนี้มีเกษตรกรชาวสวนยางมาลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 58,000 ราย และได้โอนให้ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายเงิน 12,630 ราย ซึ่งจังหวัดตรังถือเป็นอันดับที่ 2 ในภาคใต้ รองจากจังหวัดนครศรีธรรมราช และขณะนี้มีเกษตรกรชาวสวยยางที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วมีปัญหา จำนวน 4,000 ราย ซึ่งส่วนมากจะมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด โดยทางจังหวัดได้เน้นย้ำให้ผู้รับผิดชอบทำหนังสือติดต่อประสานไปยังเกษตรกรดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อติดตามผลการดำเนินงานความคืบหน้าตามลำดับ สำหรับในส่วนของปัญหาและอุปสรรคนั้นพบว่า เอกสารและหลักฐานของเกษตรกรส่วนใหญ่มีความซ้ำซ้อน ไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ และเกษตรกรบางรายที่ขึ้นทะเบียนมีเอกสารสิทธิ์ที่ดินหลายแปลง รวมทั้งข้อมูลไม่เรียบร้อย จนทำให้เกิดการล่าช้าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทางด้าน นายภาณุมาศ ตั้นซู่ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้ข้าราชการทำงานรับใช้ประชาชน โดยปลอดการเมือง เพื่อสร้างความสุขให้คนทั้งประเทศ ในส่วนของยางพารา พบว่า การแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้อนุมัติค่าปัจจัยการผลิต ไร่ละ 2,520 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง และขณะนี้ทาง ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง ก็ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรตามรายที่ถือครอง ซึ่งมียอดเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีของเกษตรกร จำนวน 70,389 แปลง ยอดเงินสะสม 1,267,379,190 บาท ซึ่งเกษตรกรสามารถเบิกได้ 2 ช่องทาง คือ เบิกผ่านตู้ ATM ทุกธนาคาร หรือจะเบิก ณ เคาน์เตอร์บริการของ ธ.ก.ส. ได้ทุกสาขา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรชาวสวนยาง
นอกจากนี้ทางด้าน ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง ยังแนะนำฝากข้อคิดให้ชาวสวนยางตระหนักถึงการหารายได้ให้พอเพียงกับรายจ่าย มีเงินคงเหลือเพียงพอกับการครองชีพ อย่ายึดอาชีพเดียว เนื่องจากปัจจุบันชาวสวนยางไทยเป็นชาวสวนยางรายย่อย ซึ่งจะมีเนื้อที่สวนยางเฉลี่ยประมาณ 10 ไร่เศษ/ครัวเรือน ผลผลิตเฉลี่ย 264 กก./ไร่/ปี คำนวณเป็นเงินรายได้มากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อปี ดังนั้นจึงจำเป็นที่เกษตรกรต้องทำงานหนักและหารายได้เพิ่ม และควรที่จะนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ทางด้าน ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง ยังแนะนำฝากข้อคิดให้ชาวสวนยางตระหนักถึงการหารายได้ให้พอเพียงกับรายจ่าย มีเงินคงเหลือเพียงพอกับการครองชีพ อย่ายึดอาชีพเดียว เนื่องจากปัจจุบันชาวสวนยางไทยเป็นชาวสวนยางรายย่อย ซึ่งจะมีเนื้อที่สวนยางเฉลี่ยประมาณ 10 ไร่เศษ/ครัวเรือน ผลผลิตเฉลี่ย 264 กก./ไร่/ปี คำนวณเป็นเงินรายได้มากกว่าหนึ่งแสนบาทต่อปี ดังนั้นจึงจำเป็นที่เกษตรกรต้องทำงานหนักและหารายได้เพิ่ม และควรที่จะนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตสัมมนาประวัติศาสตร์ถลาง นำข้อมูลที่ได้ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์
วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุมเล็ก ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ดร. สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาประวัติศาสตร์ถลาง ครั้งที่ 3 เรื่อง “ Phuket Historical Park” และบรรยายพิเศษ เรื่อง “หลักฐานเล่าเรื่องเมืองถลาง” โดยมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต ผศ.ดร. ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นายชาญ วงศ์สัตยนนท์ รองประธานมูลนิธิท้าวเพทกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร นิสิตนักศึกษาจากสถาบันราชภัฎภูเก็ต กลุ่มผู้สนใจประวัติศาสตร์เมืองถลางจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งการสัมมนาจัดระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้
นายสำราญ ชัยสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากจังหวัดภูเก็ต โดยมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร สถาบันการศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ได้จัดสัมมนาประวัติศาสตร์ถลางมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสาระของการสัมมนาเป็นการสืบสานและคันหาหลักฐานเรื่องเมืองถลางที่ปรากฏชัด และสามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ของภูเก็ตในเชิงวิชาการได้อย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ โดยในการสัมมนาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการ โดยการสนับสนุนจากจังหวัดภูเก็ต มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์จากวิทยากรแต่ละสาขา และการแสดงวิสัยทัศน์เสนอหลักฐานข้อมูลของผู้เข้าร่วมสัมมนา พร้อมสรุปบันทึกการสัมมนา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
นายสำราญ ชัยสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากจังหวัดภูเก็ต โดยมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร สถาบันการศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ได้จัดสัมมนาประวัติศาสตร์ถลางมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสาระของการสัมมนาเป็นการสืบสานและคันหาหลักฐานเรื่องเมืองถลางที่ปรากฏชัด และสามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ของภูเก็ตในเชิงวิชาการได้อย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ โดยในการสัมมนาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการ โดยการสนับสนุนจากจังหวัดภูเก็ต มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์จากวิทยากรแต่ละสาขา และการแสดงวิสัยทัศน์เสนอหลักฐานข้อมูลของผู้เข้าร่วมสัมมนา พร้อมสรุปบันทึกการสัมมนา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ชาวราไวย์ ตอบรับร่วมงาน สืบสานเล่าขานภูมิปัญญาชาวราไวย์ ครั้งที่ 7 คึกคัก เทศบาล ต.ราไวย์ ร่วมศูนย์ 3 วัย และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ จัดขึ้น เพื่อสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชนให้ดำรงอยู่สืบไปควบคู่กับความเจริญมั่นคงถาวรของเทคโนโลยีสมัยใหม่
วันที่ 28 ก.ค.57 ที่บริเวณลานวัดสว่างอารมณ์ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงาน สืบสานเล่าขานภูมิปัญญาชาวราไวย์ ครั้งที่ 7 ประจำปีงบประมาณ 2557 มีนายเรวัต อารีรอบ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงานเทศบาลตำบลราไวย์ และคณะกรรมการจัดงานฯ ที่เกี่ยวข้อง คณะครู นักเรียน ตลอดจนประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ เข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวถึงการจัดงานดังกล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับศูนย์ 3 วัยฯ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น จะเห็นได้จากการให้คนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ความสำคัญ รู้จักวิถีชีวิต รู้ถึงคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น อันจะสร้างความภูมิใจและจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือการถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำอาหารพื้นเมือง สาธิตการทำเครื่องจักรสานที่สามารถใช้ในครัวเรือน การแสดงพร้อมการละเล่นพื้นบ้าน รวมถึงการร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เห็นได้จากการให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีอันเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทั้งนี้กิจกรรม ภายในงาน ภาคกลางวันมีการจัดแสดงภูมิปัญญาด้านต่างๆ ประกอบด้วย ซุ้มหัตถกรรม อาทิ การแกะสลักผัก ผลไม้ ,จักรสาน,ดอกไม้เกล็ดปลา ฯลฯ ซุ้มภูมิปัญญาด้านอาหาร อาทิ การกวนกาละแม , การทำน้ำพริกคั่วภูเก็ต ขนมตู่โบ้,ขนมขี้มอด ,ขนมอี๋ , โอวต้าว ฯลฯ ซุ้มวิถีชีวิตชาวอุรักละโว้ (ชาวไทยใหม่) โดยมีการสาธิตอาหารพื้นเมืองของชาวไทยใหม่ อาทิตย์ อาทิ หอยหรมทอด ,ยำปลิงทะเล, แกงกะทิหลินส้ม, หอยติบหมี่สั่ว, โวยวายผัดต้นหอม ,มะละกอกะทิ ฯลฯ และการสาธิตการละเล่นพื้นบ้านของชาวไทยใหม่ และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงบนเวทีของศูนย์ 3 วัยฯ การแสดงของชมรมผู้สูงอายุ การแสดงของเด็กนักเรียน ฯลฯ
ขณะที่กิจกรรมภาคกลางคืน มีการร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ,การเดินแฟชั่นโชว์ครอบครัว 3 วัย และการรำวงย้อนยุค ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชนให้ดำรงอยู่ในท้องถิ่นที่ต้องการความเจริญมั่นคงถาวรของเทคโนโลยีสมัยใหม่ นายอรุณ กล่าวในที่สุด
นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวถึงการจัดงานดังกล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับศูนย์ 3 วัยฯ และสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น จะเห็นได้จากการให้คนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ความสำคัญ รู้จักวิถีชีวิต รู้ถึงคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น อันจะสร้างความภูมิใจและจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือการถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำอาหารพื้นเมือง สาธิตการทำเครื่องจักรสานที่สามารถใช้ในครัวเรือน การแสดงพร้อมการละเล่นพื้นบ้าน รวมถึงการร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เห็นได้จากการให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีอันเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทั้งนี้กิจกรรม ภายในงาน ภาคกลางวันมีการจัดแสดงภูมิปัญญาด้านต่างๆ ประกอบด้วย ซุ้มหัตถกรรม อาทิ การแกะสลักผัก ผลไม้ ,จักรสาน,ดอกไม้เกล็ดปลา ฯลฯ ซุ้มภูมิปัญญาด้านอาหาร อาทิ การกวนกาละแม , การทำน้ำพริกคั่วภูเก็ต ขนมตู่โบ้,ขนมขี้มอด ,ขนมอี๋ , โอวต้าว ฯลฯ ซุ้มวิถีชีวิตชาวอุรักละโว้ (ชาวไทยใหม่) โดยมีการสาธิตอาหารพื้นเมืองของชาวไทยใหม่ อาทิตย์ อาทิ หอยหรมทอด ,ยำปลิงทะเล, แกงกะทิหลินส้ม, หอยติบหมี่สั่ว, โวยวายผัดต้นหอม ,มะละกอกะทิ ฯลฯ และการสาธิตการละเล่นพื้นบ้านของชาวไทยใหม่ และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงบนเวทีของศูนย์ 3 วัยฯ การแสดงของชมรมผู้สูงอายุ การแสดงของเด็กนักเรียน ฯลฯ
ขณะที่กิจกรรมภาคกลางคืน มีการร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ,การเดินแฟชั่นโชว์ครอบครัว 3 วัย และการรำวงย้อนยุค ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุมชนให้ดำรงอยู่ในท้องถิ่นที่ต้องการความเจริญมั่นคงถาวรของเทคโนโลยีสมัยใหม่ นายอรุณ กล่าวในที่สุด
ภูเก็ตจัดกิจกรรมพิธีแห่พระแสงราชศัตราวุธรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ก.ค. 57 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ดร.ประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการจัดงานภูเก็ตใต้ร่มพระบารมี จักรีวงศ์ กิจกรรมแห่พระแสงราชศัตราวุธ โดยมี พ.ต.ต. พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายสาธิต กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ มีการเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ทั้งฝ่ายพิธีการ ฝ่ายตกแต่งรถยนต์ ฝ่ายขบวนแห่รอบเมืองและกลุ่มมวลชนที่จะเข้าร่วมขบวน เป็นต้น
ดร.ประเจียด กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์โดยกิจกรรมดังกล่าวใช้ชื่อว่า “ภูเก็ตใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์” โดยหนึ่งในสามกิจกรรมที่จะมีคือ พิธีแห่พระแสงราชศัตราวุธ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 เวลา 07.30 น. มีพิธีแห่รอบเมืองในเขตเทศบาลนครภูเก็ตและพิธีบริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
สำหรับพระแสงราชศัตราวุธ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชทานพระแสงราชศัตราวุธประจำเมืองภูเก็ตเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2460 มีหมายเหตุบันทึกไว้ว่า พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระกระแสดำรัสตอบ ทรงแสดงความพอพระราชหฤทัยที่ได้ทอดพระเนตรความเจริญของบ้านเมืองมณฑลนี้ ซึ่งพระองค์ได้ทรงถือว่าอยู่เป็นศรีของพระราชอาณาจักรได้แห่งหนึ่ง เมื่อสิ้นกระแสพระราชดำรัสแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระแสงราชศัตราประจำ มณฑลภูเก็ตแก่นายพลโทพระยาสุรินทราชา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจ ที่ได้ทรงแบ่งให้ถือไว้แทนพระองค์ สำหรับใช้เป็นเครื่องบำรุงความสุขสำราญแห่งประชาชนที่ตั้งใจทำมาหาเลี้ยงชีพ โดยความซื่อสัตย์สุจริต โดยพระแสงราชศัตราวุธได้ถูกเก็บไว้ที่สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ มีการเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ทั้งฝ่ายพิธีการ ฝ่ายตกแต่งรถยนต์ ฝ่ายขบวนแห่รอบเมืองและกลุ่มมวลชนที่จะเข้าร่วมขบวน เป็นต้น
ดร.ประเจียด กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์โดยกิจกรรมดังกล่าวใช้ชื่อว่า “ภูเก็ตใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์” โดยหนึ่งในสามกิจกรรมที่จะมีคือ พิธีแห่พระแสงราชศัตราวุธ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 เวลา 07.30 น. มีพิธีแห่รอบเมืองในเขตเทศบาลนครภูเก็ตและพิธีบริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
สำหรับพระแสงราชศัตราวุธ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชทานพระแสงราชศัตราวุธประจำเมืองภูเก็ตเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2460 มีหมายเหตุบันทึกไว้ว่า พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระกระแสดำรัสตอบ ทรงแสดงความพอพระราชหฤทัยที่ได้ทอดพระเนตรความเจริญของบ้านเมืองมณฑลนี้ ซึ่งพระองค์ได้ทรงถือว่าอยู่เป็นศรีของพระราชอาณาจักรได้แห่งหนึ่ง เมื่อสิ้นกระแสพระราชดำรัสแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระแสงราชศัตราประจำ มณฑลภูเก็ตแก่นายพลโทพระยาสุรินทราชา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจ ที่ได้ทรงแบ่งให้ถือไว้แทนพระองค์ สำหรับใช้เป็นเครื่องบำรุงความสุขสำราญแห่งประชาชนที่ตั้งใจทำมาหาเลี้ยงชีพ โดยความซื่อสัตย์สุจริต โดยพระแสงราชศัตราวุธได้ถูกเก็บไว้ที่สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต
จังหวัดระนอง จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ ฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร
จังหวัดระนอง ร่วมกับ วัดสุวรรณคีรีวิหาร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนอง กำหนดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ ฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา
วันนี้ (28 ก.ค 57) เวลา 09.09 น. ที่วัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง นายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา พร้อมด้วยนายเสรี คงรัตน์ วัฒนธรรมจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมใส่ชุดสีขาวปฏิบัติธรรม และนักเรียนนักศึกษา ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
จากนั้น ประธานในพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร กล่าวถวายพระพรชัยมงคล โหรเจิมแป้งที่เทียนชัยมหามงคล และบัตรพลีนพเคราะห์ จุดเทียนมหามงคลเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ โหรประกาศอัญเชิญเทวดา โดยมีพระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดระนอง เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์บทประจำดาวนพเคราะห์ครบทั้ง 9 วัน โหรประกาศสรุปพระเคราะห์และให้พร ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์
หลังจากนั้นได้ไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา
วันนี้ (28 ก.ค 57) เวลา 09.09 น. ที่วัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง นายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา พร้อมด้วยนายเสรี คงรัตน์ วัฒนธรรมจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมใส่ชุดสีขาวปฏิบัติธรรม และนักเรียนนักศึกษา ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
จากนั้น ประธานในพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร กล่าวถวายพระพรชัยมงคล โหรเจิมแป้งที่เทียนชัยมหามงคล และบัตรพลีนพเคราะห์ จุดเทียนมหามงคลเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ โหรประกาศอัญเชิญเทวดา โดยมีพระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดระนอง เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์บทประจำดาวนพเคราะห์ครบทั้ง 9 วัน โหรประกาศสรุปพระเคราะห์และให้พร ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์
หลังจากนั้นได้ไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 62 พรรษา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)