วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรมอบนโยบายแก่เกษตรจังหวัดสตูล พร้อมติดตามความก้าวหน้าโครงการแก้ไขยางพาราทั้งระบบ ปี ๒๕๕๗


ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล อ.เมือง จ.สตูล นายนำชัย พรมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายบริหาร พร้อมคณะ เดินทางมายังจังหวัดสตูล เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ พร้อมมอบนโยบายกรมส่งเสริมการเกษตร ปี ๒๕๕๗ แก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจังหวัดสตูล โดยมีเกษตรจังหวัดสตูลนำเสนอผลการดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ และข้อเสนอแนะต่างๆ พร้อมรับฟังนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีนโยบายสำคัญ คือ การส่งเสริมการเกษตรตามรูปแบบการส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ MRCF

โอกาสนี้ นายนำชัย พรมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในการมาครั้งนี้เพื่อให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จกว่า ๙๗% และยังคงเหลือเพียง ๔๐๐ กว่ารายเท่านั้น ซึ่งจะประสานไปยังสำนักงบประมาณเพื่อเตรียมเบิกจ่ายแก่เกษตรกรที่ยังตกค้างอยู่ สำหรับเกษตรกรที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขของการช่วยเหลือตามโครงการฯ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรอีกครั้ง



กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล

จังหวัดสตูล เตรียมจัดกิจกรรม Satun MTB Challenge พร้อมเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมแข่งขันจักรยานทางเรียบ ประจำปี ๒๕๕๗

จังหวัดสตูล โดยนายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล ชมรมจักรยานเสือภูเขาจังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือเตรียมความพร้อมดำเนินการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวจังหวัด ภายใต้โครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยกำหนดจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (Satun MTB Challenge) ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ สนามกีฬาโรงเรียนบ้านนาลาน ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล พร้อมกับการจัดกิจกรรมขี่จักรยานเพื่อสุขภาพ และการท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองสตูลควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวประเทศ

สำหรับการแข่งขัน แบ่งออกเป็น ๕ รุ่น ได้แก่ รุ่น A ไม่จำกัดอายุ/เพศ ระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร, รุ่น B ไม่จำกัดอายุ/เพศชาย ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร, รุ่น C อายุไม่เกิน ๑๕ ปี/ไม่จำกัดเพศ ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร, รุ่น W ไม่จำกัดอายุ/เพศหญิง ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร และรุ่น VIP ไม่จำกัดอายุ/เพศ ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล สนามกีฬากลางจังหวัดสตูล อ.เมือง จ.สตูล โทร.๐๗๔-๗๑๑๒๒๕ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗



กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล

จังหวัดสตูล จัดพิธีวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี ๒๕๕๗


วันนี้ (๒๕ เม.ย. ๕๗) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำหัวหน้าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะ จุดธูป เทียน เครื่องทองน้อย และกล่าวถวายราชสดุดี ถวายความเคารพต่อพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระคุณอนันต์ต่อแผ่นดินไทย โดยพระองค์ได้ทรงกอบกู้อิสรภาพของประเทศไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า และนับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา แม้หงสาวดีจะเพียรพยายามส่งกองทัพเข้ามารบหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพของกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง โดยพระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๑๓๓ ซึ่งในขณะนั้น มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย ไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอมา และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๑๔๘ รวมพระชนมายุ ๕๐ พรรษา สิริรวมการครองราชย์สมบัติ ๑๕ ปี

ดังนั้น เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเชิดชูพระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ รัฐบาลไทยโดยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ จึงกำหนดให้ทุกวันที่ ๒๕ เมษายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสืบต่อไป



กนกพิชญ์ / ข่าว
ส.ปชส.สตูล

ผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงการดำเนินคดีรุมโทรมหญิงท้องของตำรวจภูเก็ต

  (ลำดับที่ 1)

ชาวบ้านปิดถนนเรียกร้องตำรวจนำ 2 โจ๋ชิงทรัพย์ – ข่มขืนสาวท้อง5เดือนทำแผนพร้อมให้ขอโทษผู้เสียหาย ชาวบ้านไม่พอใจเรียกร้องตำรวจท่าฉัตรไชยนำตัวโจ๋พี่น้องฝาแฝดวัย 17 ปี ก่อคดีชิงทรัพย์-ข่มขืนสาวท้อง 5 เดือน ทำแผน - ขอโทษผู้เสียหาย รวมตัวปิดถนนเทพกระษัตรีทั้งขาเข้า –ขาออกบริเวณปากทางเข้าวัดไม้ขาวแล้ว ทำรถติดเป็นทางยาว ขณะที่ตำรวจขอฝากขังที่ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต พร้อมนำตัวส่งควบคุมที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนภูเก็ต

สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนนาย A และนาย B สองพี่น้องฝาแฝดที่ก่อเหตุรุมข่มขืน และชิงทรัพย์สาวท้อง 5 เดือน ที่บริเวณถนนสายบ้านหมากปรก – บ้านไม้ขาว ต.ไม้ขาว หมู่ที่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ จ.13/2557 และ จ.14/2557 ลงวันที่ 22 เม.ย. 2557 ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันเป็นลักษณะโทรมหญิง ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ล่าสุดเมื่อเวลา 11 .00 น.วันที่ 23 เม.ย.57 บริเวณจุดที่เกิดเหตุคนร้ายชิงทรัพย์และข่มขืนผู้เสียหาย ได้มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านรอเป็นเวลานานแต่ทางตำรวจยังไม่นำตัวมาผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาทำแผนแต่อย่างใดทำให้ชาวบ้านพอใจและรวมตัวกันปิดถนนในบริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเวลา 16 .00 น.ชาวบ้านได้รวมตัวกันและย้ายมาปิดถนนสายหลักเส้นเทพกระษัตรีทั้งขาเข้าและขาออกที่บริเวณหน้าทางเข้าวันไม้ขาว อ.ถลางจ.ภูเก็ต เพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนและขอโทษผู้เสียหายรวมทั้งญาติของผู้เสียหาย ทำให้รถที่จะสัญญาไปมาในเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถเคลื่อนตัวได้

(ลำดับที่ 2)

ชาวบ้านยังปิดถนนทั้งขาเข้า –ขาออก จี้ตร.ขอโทษจับผิดตัว ชาวบ้านยังไม่ยอมเปิดถนนเทพกระษัตรีทั้งขาเข้า – ขาออก ภูเก็ต เรียกร้องตำรวจท่าฉัตรไชยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำตัววัยรุ่นในพื้นที่ไม้ขาวไปสอบสวนสงสัยเป็นคนร้าย ก่อนที่จะจับกุมผู้ต้องหาตัวจริงได้ ขณะที่ในส่วนของญาติผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์ –ข่มขืนยังอยู่ในพื้นที่

สำหรับความคืบหน้ากรณีชาวบ้านปิดถนนเทพกระเทพกระษัตรี บริเวณสามแยกทางหมู่บ้านวัดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทั้งขาเข้า – ขาออก เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ และข่มขืน สาวท้อง 5เดือน มาทำแผนและมาขอโทษผู้เสียหาย รวมทั้งกลุ่มชาวบ้านได้เรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าฉัตรไชย นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัววัยรุ่นในพื้นที่จำนวน 3 คนไปสอบสวน เนื่องจากสงสัยว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ก่อนที่จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจริงๆมาดำเนินคดีในภายหลัง ซึ่งขณะนี้การปิดถนนดังกล่าวได้ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว และสถานการณ์การปิดถนนยังตึงเครียด อย่างไรก็ตามขณะนี้พ.ต.อ.พีรยุทธ การเจดีย์ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการคำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ แต่ไม่เป็นผล กลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะปิดถนนต่อไปจนกว่าจะมีการนำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าฉัตรไชย จำนวน 4 คน ที่ควบคุมตัวเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ไปสอบสวนทั้งๆที่ไม่ใช่คนร้าย มาขอโทษกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกควบคุมตัวไป และเรียกร้องร้องให้ย้ายตำรวจทั้ง 4 คน ออกจากพื้นที่ทันที

สำหรับข้อเรียนร้องของชาวบ้านดังกล่าวทางตำรวจได้รับปากที่จะดำเนินการ แต่จนถึงขณะนี้เวลา20.00 น.ยังไม่มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย เข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามสำหรับการปิดถนนดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องเดินทางไปยังสนามบิน ไม่สามารถที่จะเดินทางไปได้ ซึ่งบางส่วนได้ลงจากรถเดินผ่านกลุ่มชุมนุมเพื่อไปขึ้นรถที่ทางบริษัทจัดหามารับ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่ยังต้องรออยู่ ซึ่งรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรไปมา ที่รถต้องจอดติดอยู่กับที่เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว

(ลำดับที่ 3)

ชาวบ้านยอมเปิดถนนทั้งขาเข้า-ขาออกแล้วหลังปิดถนนนานกว่า 7ชั่วโมง.หลังผู้ว่าฯภูเก็ตเข้าเจรจายอมรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมให้ย้ายตำรวจ 4 นายออกจากพื้นที่ทันที สำหรับความคืบหน้ากรณีชาวบ้านปิดถนนเทพกระษัตรีทั้งขาเข้าและขาออกจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้การจราจรเข้าออกยังไม่สามารถสัญจรไปมา ได้ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.15 น. ของวันที่ 23 เม.ย.57 สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วเมื่อ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ. พีระยุทธ การะเจดีย์ พ.ต.อ. ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ. สมชาย สรรประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเจรจากับ ญาติของวัยรุ่นที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบปากคำ เนื่องจากสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีชิงทรัพย์ และข่มขืนสาวท้อง 5 เดือน ซึ่งเป็นการเชิญไปสอบผิดตัว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจออกมารวมตัวปิดถนนดังกล่าว

อย่างไรก็ตามการเจราจาในครั้งนี้ ซึ่งมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ใช้เวลาในการพูดคุยนานประมาณ ครึ่งชั่วโมง ได้ข้อสรุปดังนี้คือทางผู้ว่ารับปากที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน รวมทั้งดูแลความปลอดภัยบ้านพ่อ แม่ และญาติที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย ที่เกี่ยวข้องในการคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นไปสอบสวนนั้น ในเบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ย้ายออกนอกพื้นที่แล้วซึ่งมีผลทันที นอกจากนั้นจะมีการเรียกตัวมาสอบสวนและขอโทษผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งจะให้ อส.เข้ามาดูแลอีกส่วนหนึ่งจนเกิดความมั่นใจในการดำรงชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน นายไมตรี กล่าวอีกว่า อยากวิงวอนให้ทุกคนเห็นใจซึ่งกันและกัน และเปิดเส้นทางเข้าออกเพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ ตนเองพร้อมที่จะขอโทษพ่อแม่ของวัยรุ่นทั้ง 3 คนที่มีเรื่องเกิดขึ้น และพร้อมที่จะกำกับดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก หลังการเจรจาจบชาวบ้านยอมเปิดถนนหลังจากที่ปิดมานานกว่า 7 ชั่วโมงทำให้รถติดยาวเหยียดประมาณ 10 กิโลเมตรทั้งขาเข้าและขาออกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงจะเคลียรถได้ทั้งหมดจากนั้นผู้ว่าราชการได้เดินทางไปยังบ้านของพ่อแม่ วัยรุ่นที่ถูกคุมตัวไปสอบสวน เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามขณะที่กลุ่มชาวบ้านกำลังช่วยกันรื้อสิ่งกีดขวางที่วางกั้นถนนไว้นั้นได้มีเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเมื่อมีวัยรุ่นชายไม่ทราบชื่อใช้มือถือถ่ายภาพกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมปิดถนนทำให้มีปากเสียงกันจนกลุ่มวัยรุ่นที่ปิดถนนรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งกันตัวออกนอกพื้นที่ทันที

(ลำดับที่ 4)

ตำรวจนำสองผู้ต้องหาข่มขืนสาวท้องส่งเข้าสถานพินิจแล้วขณะแม่ผู้เสียหายยืนยันจะไปหาเพื่อต้องการให้ออกมาขอโทษและจะดำเนินคคีให้ถึงที่สุดส่วนมตราการเยียวยาผู้เสียหน่อยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเอ และนายบี สองพี่น้องฝาแฝดที่ก่อเหตุรุมข่มขืน และชิงทรัพย์สาวท้อง 5 เดือน ที่บริเวณถนนสายบ้านหมากปรก-บ้านไม้ขาว ต.ไม้ขาว หมู่ที่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ จ.13/2557 และ จ.14/2557 ลงวันที่ 22 เม.ย.2557 ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันเป็นลักษณะโทรมหญิง ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

ล่าสุดทาง พ.ต.อ. สมชาย สรรประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย เปิดเผย พนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปยืนขอฝากขังที่ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต และ ซึ่งศาลได้รับคำร้องและส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปควบคุมที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนภูเก็ต แล้ว ซึ่งการสอบปากคำหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเพราะผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน ทางตำรวจไม่สามารถสอบปากคำได้ฝ่ายเดียว แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไว้แล้ว ส่วนผู้เสียหายนั้นทางพนักงานสอบสวนได้เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนที่ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งในส่วนของผู้เสียหายนั้นยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป ในส่วนของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องนั้นผู้กำกับท่าฉัตรไชยเปิดเผยว่าไม่สามารถนำตัวออกมาได้แล้วเพราะตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ในความดูแลของสถานพินิจหากจะนำตัวออกมาต้องขออนุญาตศาลฯและจากการสอบถามไปยังมารดาผู้เสียหายยังยืนยันว่าต้องการเจอหน้าสองผู้ต้องหาดังกล่าวแต่จะรอให้ผู้เสียหายคือลูกสาวออกจากโรงพยาบาลก่อนจึงจะเดินทางไปสถานพินิจเพื่อดูตัวผู้ต้องหาและให้ผู้ต้องหาออกมากราบขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปกับผู้เสียหายส่วนคดีความนั้นจะดำเนินการตามกฏหมายให้ถึงที่สุด

นายณรงค์ศักดิ์ อิ่มด้วง นักวิชาการอบรมและฝึกอาชีพชำนาญการพิเศษ สถานพินิจฯ กล่าวว่า ในส่วนของเยาวชน 2 คนที่ถูกดำเนินคดีนั้น ทางสถานพินิจฯ จะทำการบำบัดโดยทีมนักวิชาชีพ ประกอบด้วย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล นักวิชาการอบรมและฝึกอาชีพ ให้ดูแลปรับตัวหลังจากนั้นจะทำการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู เตรียมพร้อม ก่อนพิจารณาคดีของศาลจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา โดยเป็นการควบคุมตัวตามอำนาจศาล พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัว ปี 2553

นางนริศา ปานสะอาด หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าในส่วนของสำนักงานฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายเพื่อให้ยื่นคำร้องรับเงินค่าเสียหายตาม พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 2544 ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

จังหวัดสงขลา จัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เช้าวันนี้ (25 เม.ย. 57) ที่หอประชุมอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.เมืองสงขลา  นายกฤษฎา  บุญราช   ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานในพิธีถวายราชสักการะและถวายราชสดุดีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนจังหวัดสงขลา ร่วมวางพานพุมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระคุณอนันต์ต่อแผ่นดินไทย

โดยพระองค์ได้ทรงกอบกู้อิสรภาพของประเทศไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า และนับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา แม้หงสาวดีจะเพียรพยายามส่งกองทัพเข้ามารบหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพของกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง โดยพระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย ไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอมา และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมพระชนมมายุ 50 พรรษา สิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี

ดังนั้น เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเชิดชูพระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ รัฐบาลไทยโดยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 จึงกำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



ยุสรา  วาจิ//ข่าว
ชิดนัย  แก้วมณีโชติ//ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ สงขลา กอ.รมน. จังหวัดสงขลา ส่วนหน้า จัดบรรยายพิเศษศูนย์ปฎิบัติการอำเภอ กับแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้


เช้าวันนี้ (25 เม.ย.57)  ที่ห้องประชุม สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาสงขลา เขต 3 อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เวลา 09.30 น. พล.ต. ปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาค 4 ประธานบรรยายพิเศษ  ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในอำเภอเข้าร่วม

พล.ต.ปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอในพื้นที่ 4 อำเภอของ จังหวัดสงขลา ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ เป็นตัวอย่างที่ดีในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ซึ่งมีสถิติเหตุการณ์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังคงใช้กำลังส่วนหนึ่ง ในการเฝ้าระวังพื้นที่ จึงถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเข็มแข็งของภาคประชาชน จึงทำให้ไม่มีการบ่มเพาะ หรือขยายตัวของกลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรง จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้มแข็ง และทำให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติงานให้เป็นไปในแนวทางแนวกัน จึงทำให้การทำงานในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องมาบูรณาการ และปฏิบัติงานร่วมกันทั้งงานด้านการพัฒนางานด้านการทหาร จึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจ และให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับศูนย์ปฎิบัติการอำเภอ ในการร่วมบูรณาการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป



จิรพัฒน์ วงศ์กระจ่าง/ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

นครสงขลา แถลงข่าวการจัดงาน "เทศกาลอาหาร 2 ทะเล อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์" ครั้งที่ 15 และงานสมโภชปู่ทวดหัวเขาแดง ประจำปี 2557

ค่ำวันนี้ (25 เม.ย.57) เวลา 18.30 น. ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ อ.เมือง จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา และผู้แทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “อาหาร 2 ทะเล อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์” ครั้งที่ 15 ประจำปี 2557 และงานสมโภชปู่ทวดหัวเขาแดง โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เทศบาลนครสงขลา ร่วมกับจังหวัดสงขลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และอีกหลายหน่วยงาน กำหนดจัดงาน ‘ เทศกาลอาหาร 2 ทะเล อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์’ ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 24 พฤษภาคม 2557 และงานสมโภชปู่ทวดหัวเขาแดง ระหว่างวันที่  12 – 18 พฤษภาคม 2557  ณ บริเวณสระบัว แหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา โดยภายในงานจัดให้มีการออกร้านจำหน่ายอาหารทะเล และอาหารพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทะเล สินค้า OTOP ของชุมชน ชมการแสดงบนเวที การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและศิลปวัฒนธรรมในแต่ละภาคจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ การแสดงดนตรีของศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงของนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครสงขลาและโรงเรียน สถาบันการศึกษาอื่น ๆ กิจกรรมการแข่งขันประกอบอาหาร สาธิตการประกอบอาหาร และอื่น ๆ มากมาย พร้อมชมฟรี คอนเสิร์ต จากศิลปินดังมากมาย ตลอดจนกิจกรรมการประกวดนางสาวสมิหลา ซึ่งได้รับความสนใจจากสาวงามทั่วประเทศ เข้าร่วมการประกวดเป็นอย่างมาก

ด้าน นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี  นายกเทศมนตรีนครสงขลา  กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้    เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา และเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารทะเล อาหารพื้นบ้านของจังหวัดสงขลาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอันดีงามในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสงขลาอีกด้วย




ภาพ/ชิดนัย แก้วมณีโชติ
ข่าว/จิรพัฒน์ วงศ์กระจ่าง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

เยาวชนภูเก็ตทีมสโมสรดราก้อนจูเนียร์ เป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมแข่งฟุตบอลรุ่น อายุ 9 ปี และ 12 ปี รายการ COPA FOOTBALL SEA ที่ประเทศสิงคโปร์


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2557 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอนุรักษ์  บุญมี ผู้จัดการทีมสโมสรดราก้อนจูเนียร์จังหวัดภูเก็ต  นำนักกีฬาฟุตบอลที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยให้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่ประเทศสิงคโปร์เข้าเยี่ยมคารวะรับโอวาทจาก นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก่อนเดินทางไปแข่งขันฯ

นายอนุรักษ์  กล่าวว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ทางทีมได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล รายการ COPA FOOTBALL SEA ที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีการจัดแข่งขันทั้งหมด 3 รุ่น ทางทีมได้ส่งตัวนักกีฬาเข้าแข่งขัน 2 รุ่นคือ รุ่นอายุ 9 ปี  และรุ่นอายุ 14 ปี โดยมีนักฟุตบอลรุ่นละ 12 คน จะเดินทางไปแข่งที่ประเทศสิงคโปร์ในการแข่งขันระหว่างวันที่ 26 - 29 เมษายน 2557 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 9 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์และไทยโดยการนำนักกีฬามาเยี่ยมคารวะครั้งนี้ก็เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และรับโอวาทจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก่อนจะเดินทางไปแข่งขัน สำหรับความพร้อมของทีมได้เตรียมความพร้อมทั้งเรื่องการฝึกซ้อม โดยผู้เล่นชุดนี้มีความสมบูรณ์ 100% ส่วนเรื่องแพ้-ชนะก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามทางทีมมั่นใจว่าจะคว้าถ้วยรางวัลมาฝากพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตและคนไทยอย่างแน่นอน อยากให้ทุกคนเป็น แรงเชียร์ให้นักเตะเยาวชนชุดนี้ด้วย

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ภูเก็ต ฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ 4 ภูมิภาค (ภาคใต้) หลักสูตรวิชาบุกเบิก

เมื่อเวลา  09.00 น. วันที่ 25 เมษายน 2557 ที่ ค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ 4 ภูมิภาค (ภาคใต้) หลักสูตรวิชาบุกเบิก โดยมี นายชลำ อรรถธรรม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต  องค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชนและผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วม

นายสมเกียรติ  กล่าวว่า  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนโยบายในการส่งเสริมการจัดกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษา ซึ่งเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีวินัย มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เสียสละเพื่อส่วนรวม และรู้จักการพึ่งตนเอง ซึ่งในปัจจุบันทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น ผู้บังคับบัญชาลูกเสือยังขาดทักษะและองค์ความรู้ในเรื่องต่อไปนี้ ได้แก่ วิชาการบันเทิงในลูกเสือ วิชาแผนที่เข็มทิศและวิชาบุกเบิก สำหรับโครงการฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือขึ้นใน 4 ภูมิภาคนั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือมีความรู้วิชาบุกเบิกเป็นมาตรฐานเดียวกันและมีทักษะวิธีดำเนินการวิชาบุกเบิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การจัดการฝึกอบรมวิชาบุกเบิก สำหรับบุคลากรทางการลูกเสือในภาคใต้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2557 เป็นการฝึกอบรมแบบอยู่ค่ายพักแรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ จำนวน 5 วัน 4 คืน โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งสิ้น 80 คน จากโรงเรียนใน14จังหวัดภาคใต้ คณะวิทยากร จำนวน 32 คน

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลป่าตองและสมาชิกสภาเทศบาล คึกคัก คาดผู้ใช้สิทธิเกิน 60%

นายพูนศักดิ์  นาคเสนา  ปลัดเทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 เมษายน 2557) จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และสมาชิกสภาเทศบาลแทนตำแหน่งที่ว่าง  โดยมีผู้มีสิทธิ์ตามบัญชีการเลือกตั้ง 12,663 คน ทางเทศบาลฯ ตั้งเป้าให้มีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่า 60% หลายการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็บรรลุเป้าหมาย ในการเตรียมการวันนี้ ทางคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้งมารับหีบบัตร และตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว หน่วยการเลือกตั้งทุกหน่วยได้ดำเนินการตั้งอุปกรณ์ ติดตั้งเต้นท์ ครบ ทั้งหมด 23 หน่วย โดยเขตที่ 1 มี 7 หน่วย เขตที่ 2 มี 7 หน่วย เขตที่ 3 มี 9 หน่วย คณะกรรมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 1 ท่าน ส่วนหน่วยที่ 1 สมาชิก  2 ตำแหน่ง ผู้มีสิทธิ์เลือกได้ 2 คน ส่วนเขตที่ 2 และเขตที่3 จะมีตำแหน่งว่าง 1 ตำแหน่ง เลือกได้เขตละ 1 คน เรื่องร้องเรียนไม่มี ค่อนข้างเรียบร้อย การติดป้ายประกาศไม่ได้มีเหตุผิดกฎหมาย การนับคะแนนรู้ผลตามเป้าหมายไม่เกิน 18.00 น. เวลาประมาณ 21.00 น. น่าจะเรียบร้อย ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเทศบาลป่าตอง ซึ่งการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิก มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับพ่อแม่พี่น้องชาวป่าตอง อยากให้ทุกคนมาใช้สิทธิ์ การตรวจสอบบัญชีรายชื่อ ถ้ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆที่ขัดข้อง เช่นบัตรประชาชนมีปัญหา ก็สามารถมาติดต่อที่เทศบาลได้ ในวันพรุ่งนี้ (26 เมษายน 2557) ซึ่งจะเปิดทำการปกติ สามรถติดต่อสอบถามได้ว่ามีชื่ออยู่ที่หน่วยไหน หรือมีเหตุขัดข้องประการใด เรามีเจ้าหน้าที่คอยบริการอำนวยความสะดวกให้ และอยากเชิญชวนให้ทุกหน่วยเลือกตั้งมีป้ายบอกทาง อยากให้ไปใช้สิทธิ์กันตั้งแต่ช่วงเช้าเพราะเรามีเวลาเพียง 15.00 น.

สำหรับผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ประกอบด้วย เบอร์ 1 นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย และมีสมาชิกสภาเทศบาลเขต 1 เบอร์ 1 นายมนัส อิสลาม  เบอร์ 2 นายมาโนด  ทองหอม  เขต 2 เบอร์ 1 นายประสบ  ประทีป ณ ถลาง เขต 3 เบอร์ 1 นายกอบชัย  ตรึกตรองกิจ  ชูนโยบายถึงเวลาก้าวข้ามความจำทน สู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งเรื่องวิกฤติจราจร วิกฤติน้ำท่วม วิกฤติสิ่งแวดล้อม วิกฤติคุณภาพการศึกษา วิกฤติการใช้พื้นที่สาธารณะ และวิกฤติยาเสพติด

ด้านนายเปี่ยน  กี่สิ้น ผู้สมัครหมายเลข 2 และสมาชิกสภาเทศบาลเขต 1 เบอร์ 4 นายยุทธพงศ์  หะสัน เบอร์ 5 นายศิวกร  ไกรทอง เขต 2 นายสหัส  จรุงกลิ่น เบอร์ 2 และเขต 3 นายวีรชิชญ์  เครือสมบัติ เบอร์ 2 โดยชูนโยบายเราทำมาแล้ว เราทำจริง เราพร้อมจะทำต่อไป ทำเพื่อประชาชนชาวป่าตอง พร้อมชูผลงานด้านการบริหารในครั้งที่ผ่านมา     ขณะที่ นายกิตติสัณห์  คุรุ ผู้สมัครหมายเลข 3 เน้นการหาเสียง ด้วยการใช้ป้ายประชาสัมพันธ์ชูนโยบาย ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม กล้านำปฏิรูป

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า จะมีป้ายคำว่า ชาวป่าตอง ไม่เห็นแก่เงินซื้อเสียง ติดคู่กับป้ายผู้สมัครทั้ง 3 คน

ภูเก็ต Smart Province จังหวัดต้นแบบนำร่องด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2557 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการดำเนินงานโครงการ Smart Province (จังหวัดอัจฉริยะ) โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเสรี พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายประเสริฐ ศรีพนารัตนกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นางละอองดาว คมสัน สถิติจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชน เข้าร่วม

นางละอองดาว กล่าวว่า โครงการ Smart Province จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อีกทั้งเพื่อร่วมจัดทำจังหวัดต้นแบบขึ้น ณ. จังหวัดภูเก็ต โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศพร้อมทั้งระบบการบริหารและการจัดการที่มุ่งเน้นคุณภาพ เพื่อเป็นจังหวัดต้นแบบและจังหวัดเรียนรู้แบบบูรณาการในมิติใหม่ และเพื่อพัฒนาบุคลากรพร้อมทั้งสร้างเครือข่ายต้นแบบพนักงานของรัฐ ตลอดจนพัฒนาความรู้ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสานเทศและการสื่อสารแก่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงประเมินผลและศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายผลจากจังหวัดอัจฉริยะ สิ่งที่เป็นกังกลจากการทำโครงการจังหวัดอัจฉริยะคือ ประชาชนชาวบ้านอาจจะไม่ค่อยมีความรู้ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีมากนัก อาจทำให้การจัดทำโครงการไม่เป็นผล และการใช้ทะเบียนราษฎร์บัตรประจำประชาชนในการเก็บฐานข้อมูลครัวเรือนอาจเกิดปัญหาในการบิดเบือนข้อมูลบุคคลเพื่อการใส่ร้ายผู้อื่น ซึ่งมีความเสี่ยงและอาจส่งผลกระทบต่อโครงการฯ

ทั้งนี้การดำเนินงานโครงการได้มีการสุ่มหมู่บ้าน 10 หมู่บ้านในจังหวัดภูเก็ต เป็นต้นแบบนำร่องเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต่อไป

เกษตรจังหวัดกระบี่เปิดอบรมถ่ายทอดความรู้การจัดการสินค้าเกษตรแปรรูป


เกษตรจังหวัดกระบี่เปิดอบรมถ่ายทอดความรู้การจัดการสินค้าเกษตรแปรรูป เข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จังหวัดกระบี่ ปี 2557

วันที่ 24 เมษายน 2557 เวลา 09.30 น.นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยารองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดเปิดอบรมถ่ายทอดความรู้การจัดการสินค้าเกษตรแปรรูปเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จังหวัดกระบี่ ปี 2557ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ หมู่ที่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยมีนายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน

การอบรมการถ่ายทอดความรู้การจัดการสินค้าเกษตรแปรรูปเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน จังหวัดกระบี่ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้สินค้าเกษตรแปรรูปได้รับการพัฒนากระบวนการผลิตรูปแบบ คุณภาพ และบรรจุภัณฑ์ ให้มีเอกลักษณ์ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและสามารถแข่งขันได้ในตลาด ให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าเกษตรแปรรูปที่ผลิตโดยกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ที่จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ สร้างความภาคภูมิใจในอาชีพด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เนื่องจากจังหวัดกระบี่ ในปัจจุบันมีรายได้จากภาคเกษตรที่เกิดจากอาชีพการเกษตรของเกษตรกร มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของจังหวัด และในการให้ความสำคัญของอาชีพการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร องค์กรเกษตรกรและ วิสาหกิจชุมชน ให้ได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อาชีพการเกษตร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ในชุมชนเป็นโครงสร้างเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ในการจัดอบรมการถ่ายทอดความรู้การจัดการสินค้าเกษตรแปรรูป ฯ ครั้งนี้ ได้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ได้สนับสนุนวิทยากรให้ความรู้ เรื่อง “หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารให้ถูกสุขลักษณะ , การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์แปรรูป และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจาก 8 อำเภอ รวม 120 ราย เป็นสมาชิกแม่บ้านเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน จำนวน 90 ราย เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 30 คน จากสาธารสุขจังหวัด/อำเภอ พัฒนาชุมชนอำเภอ และจากสำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอ ระยะเวลาการจัดอบรม จำนวน 1 วัน






จังหวัดกระบี่ จัดงานวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


วันนี้ 25 เมษายน 2557 เวลา 09.00 น. ณ หอประชุมสุดมงคล ชั้น 2 สำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานประกอบพิธีวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีข้าราชการ นักเรียน มาร่วมงานประมาณ 100 คน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทร์ เมื่อปีพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพและฝีพระหัตถ์ในทางการรบ และเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงคราม ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้น นับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา ทรงสามารถขับไล่กองทัพพระยาจีนจันตุ จนแตกพ่ายไป ในวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา จนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาลไปทั่วปฐมพี หลังจากศึกสงครามยุทธหัตถีนี้แล้ว ได้ทรงปราบปรามหัวเมืองมอญฝ่ายใต้ ได้เมืองตะนาวศรี มะริด และทวาย ปีพุทธศักราช 2138 และ 2142 ทรงกรีฑาทัพไปตีเมืองหงสาวดี ได้เมืองเมาะลำเลิง แล้วทรงยกทัพไปถึงเมืองหงสาวดีและเมืองตองอู จนหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งปวง ยอมขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา ในปีพุทธศักราช 2148 พระเจ้าอังวะมีอำนาจขึ้น จึงขยายอาณาเขตเข้ามาทางแคว้นไทยใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปยังเมืองห้างหลวง และประชวนหนักจนเสด็จสวรรคต เมื่อเดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2148 พระชนมายุ 50 พรรษา อยู่ในราชสมบัติ 15 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้พระองค์จะได้เสด็จสวรรคต มานานกว่า 400 ปี แล้วก็ตาม พสกนิกรไทยทั้งมวล ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ขับไล่อริราชศัตรูตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย และเป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือ ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้






จังหวัดกระบี่ มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนปอเนาะอัลฮารุ้ลอูลูม(ปอเนาะคลองกำ)


วันที่ 25 เมษายน 2557 นายประสิทธิ์ โอสถานนนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนางสุไลรัตน์ โอสถานนท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ และคณะได้เดินทางไปมอบส่งของและตรวจเยี่ยม ที่โรงเรียนอันฮารุ้ลอูลุม หรือปอเนาะคลองกำ ม.3 ต.คลองประสงค์ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เนื่องในวันสถาปนาสถากาชาดไทย ครบรอบ 121 ปี พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬา และผ้าห่ม จำนวน 150 ผืน เพื่อ่ให้เยาวชนในสถาบันได้ใช้และใช้ออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย ภายหลังเข้ารับการบำบัดยาเสพติด นอกจากนี้ยังได้เลี้ยงอาหาร ผลไม้ แก่นักเรียนในโรงเรียน โดยมีนายอนุรักษ์ กิ่งเล็ก ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียน ให้การต้อนรับ

นางสุไลรัตน์ โอสถานนท์ นายกเหล่ากาชาด จังหวัดกระบี่ กล่าว่า สำหรับเป็นโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม และบำบัดผู้ติดยาเสพติด ด้วยวิธีการทางศาสนา ปัจจุบันมีนักเรียน และเยาวชนที่เข้ามารับการบำบัดยาเสพติดอย่างไม่ขาดสาย ล่าสุดมี จำนวนกว่า 1,200 คน ทำให้เกิดความแออัด ขาดแคลนในหลายๆด้าน เช่น สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น รวมทั้งอุปกรณ์กีฬา ดังนั้นเนื่องในโอกาส วันสถาปนาสถากาชาดไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 26 เมษายน 2557 ในวันนี้ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แก่สถาบันที่ทำประโยชน์ ต่อสังคม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และสามารถทำให้เยาวชนที่ติดยาเสพติดสามารถเลิกยาเสพติดได้ และกลับไปเป็นคนดีของสังคมต่อไป



หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นปี2556 ลงพื้นที่อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ มอบหอถังน้ำสูง12 เมตร รถจักรยาน48คัน ชุดกระเป๋า 300 ชุด สนามเด็กเล่น อุปกรณ์กีฬา เวชภัณฑ์ ชุดสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมเพื่อการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนบ้านาพรุ อ.ลำทับ จ.กระบี่


คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นปี 2556 ลงพื้นที่อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ มอบหอถังน้ำสูง12 เมตร รถจักรยาน 48 คัน ชุดกระเป๋า 300 ชุด สนามเด็กเล่น อุปกรณ์กีฬา เวชภัณฑ์ ชุดสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมเพื่อการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนบ้านาพรุ อ.ลำทับ จ.กระบี่

วันนี้ 24 เมษายน 2557 คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นปี 2556 จำนวนกว่า 300 คน นำโดยพลโทอรรณพ ศิริศักดิ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอานาจักร สถาบันป้องกันประเทศได้ ได้ทำพิธีมอบหอถังน้ำสูง12 เมตร ให้แก่โรงเรียนบ้านาพรุ อ.ลำทับ จ.กระบี่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ขาดแลนน้ำอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังได้มอบรถจักรยาน48คัน ชุดกระเป๋า 300 ชุด สนามเด็กเล่น อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ชุดสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมเพื่อการเรียนรู้ และเวชภัณฑ์ อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้โอกาสทางด้านการศึกษาและสาธารณสุขแก่เด็กนักเรียนอย่างเท่าเทียมกัน

พลโทอรรณพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ได้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าทางของการให้โอกาสทางการศึกษาและสาธารณสุขที่เท่าเทียมกัน เพื่อจะได้พัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน จึงได้จัดโครงการ วปอ.เพื่อสังคมขึ้น โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญการศึกษา และมีความเชื่อมั่นว่าการให้การศึกษาแก่เด็กด้วยโอกาส เป็นการให้โอกาสเพื่อพัฒนาชีวิตที่เท่าเทียม ทางคณะนักศึกษา วปอ. จึงได้มีการสำรวจและพบว่า โรงเรียนบ้านนาพรุเป็นโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพ แต่อยู่ห่างไกลพื้นที่และทุรกันดาร และขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน

สำหรับหอถังน้ำสูง ทรงแชมเปญ ความสูง12เมตร ที่มอบให้กับโรงเรียนบ้านนาพรุ มีความจุได้ประมาร 1,200 ลิตร สามรุรองรับการใช้งานได้ 50 ครัวเรือน ซึ่งคณะวปอ. เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งได้รับการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้โดยเฉพาะด้านการศึกษาและสาธารสุขต่อไป



หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง นักสื่อสารมวลชน จำนวน 1 ตำแหน่ง


สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง นักสื่อสารมวลชน จำนวน 1 ตำแหน่ง  อัตราค่าตอบแทนเดือนละ 18,000 บาท   ระยะเวลาการจ้าง  นับแต่วันที่ทำสัญญาจ้าง - 30 กันยายน 2559

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

1. ได้รับวุฒิปริญญาตรี สาขาวิชานิเทศศาสตร์, สื่อสารมวลชน หรือ
2. ได้รับวุฒิปริญญาตรี ทุกสาขาวิชา มีประสบการณ์และหนังสือรับรองการผ่านงานด้านสื่อสารมวลชนจากหน่วยงานของนิติบุคคล (ภาครัฐ/ภาคเอกชน) มาไม่น้อยกว่า 2 ปี

ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ขเต 6 ฝ่ายบริหารทัวไป ชั้น 2 เลขที่ 40 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 19 - 23 พฤษภาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ ภาคเช้าเวลา 08.30 -12.00 น. และภาคบ่าย เวลา 13.00 - 16.00 น.

ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
- ผู้สมัครต้องเสียค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 300 บาท
- เมื่อสม้ัครสอบแล้วค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ  ทั้งสิ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 074-231840

จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เช้าวันนี้ (25 เมษายน 2557) ที่ห้องประชุมวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยจัดให้มีพิธีทางศาสนา ถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกไม้สด พร้อมกล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ขับไล่อริราชศัตรูตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทยและเป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือ ปรากฏว่าอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้ มีข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทร์ เมื่อปีพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพ และฝีพระหัตถ์ในทางการรบ และเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงคราม ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้น นับตั้งแต่พระชนมายุ 16 พรรษา ทรงสามารถขับไล่กองทัพพระยาจีนจันตุจนแตกพ่ายไป

ครั้นถึงปีพุทธศักราช 2133 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้นครองราชย์ และในวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา จนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี ได้เมืองตะนาวศรี มะริด และทวาย ครั้นปีพุทธศักราช 2138 และพุทธศักราช 2142 ทรงกรีฑาทัพไปตีเมืองหงสาวดี ได้เมืองเมาะลำเลิง แล้วทรงยกทัพไปถึงเมืองหงสาวดี และเมืองตองอู จนหัวเมืองไทยใหญ่ทั้งปวง ยอมขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา

ในปีพุทธศักราช 2448 พระเจ้าอังวะมีอำนาจขึ้น จึงขยายอาณาเขตเข้ามาทางแคว้นไทยใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยกทัพไปยังเมืองห้างหลวง และประชวรหนักจนสวรรคต เมื่อเดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2148 พระชนมายุ 50 พรรษา อยู่ในราชสมบัติ 15 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้พระองค์จะได้เสด็จสวรรคต มานานกว่า 400 ปีแล้วก็ตาม พสกนิกรไทยทั้งมวล ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระเกียรติคุณของพระองค์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ขับไล่อริราชศัตรูตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราชให้แก่ชาติไทย และเป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายนของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และให้ประกอบรัฐพิธี แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

พิธีเชิญเครื่องราชสักการะพระราชทานถวายพระบรมธาตุเจดีย์


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญเครื่องราชสักการะที่พระราชทานอุทิศถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ ประจำปีพุทธศักราช 2557 ณ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราช

เมื่อเวลา 13.39 น.วันนี้ (25 เม.ย. 57) ที่วิหารพระทรงม้า ภายในวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้อัญเชิญเครื่องราชสักการะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอุทิศถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ ประจำปีพุทธศักราช 2557 ณ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบด้วย ต้นไม้ทอง 1 ต้น ต้นไม้เงิน 1 ต้น เทียน 180 แกรม 2 เล่ม ธูปไม้ระกำ 2 ดอก แพรแดงติดขลิบ 1 ผืน และน้ำหอม 1 คณโฑ

ทั้งนี้ ขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะดังกล่าว ได้เคลื่อนออกจากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปตามถนนราชดำเนินก่อนเคลื่อนเข้าสู่วิหารพระทรงม้า ภายในบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประกอบพิธีเครื่องราชสักการะถวายเป็นพุทธบูชา โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร/เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช(ธ) เป็นประธานสงฆ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย วางเครื่องราชสักการะที่ตะหลุมมุก และกล่าวถวายเครื่องราชสักการะ พระสงฆ์ 3 รูป สวดชยันโต ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและคณะนำน้ำหอมไปสรงองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เสร็จแล้วถวายปัจจัย พระสงฆ์อนุโทนา

ซึ่งในการประกอบพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะดังกล่าว ได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวที่ได้รับทราบข่าว เข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

จังหวัดนราธิวาส จัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมกิจกรรม

วันนี้ (25 เม.ย. 57) ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส  นายณัฐพงศ์  ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ  และประชาชน ร่วมพิธี ถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยในพิธีผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและผู้แทนกระทรวงร่วมถวายเครื่องราชสักการะ พวงมาลา  ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และจุดเครื่องทองน้อย จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ทรงคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และรำลึกถึงวีรกรรมอันห้าวหาญเด็ดเดี่ยว

สำหรับการจัดพิธีดังกล่าว เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้วันที่ 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แทนวัน ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 โดยให้มีการถวายพวงมาลาถวายราชสักการะ โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

@import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);



นำเสนอโดย  โสรายา สาเรป