วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กกต.นครศรีธรรมราชสรุปผลการเลือกตั้ง สส. ซึ่งเลือกตั้งได้ 23 หน่วยเลือกตั้ง ในจำนวนนั้น มีผู้มาใช้สิทธิเพียง 8.75 % บัตรเสีย 13.36% ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 26.73 %

กกต.นครศรีธรรมราชสรุปผลการเลือกตั้ง สส. ซึ่งเลือกตั้งได้ 23 หน่วยเลือกตั้ง ในจำนวนนั้น มีผู้มาใช้สิทธิเพียง 8.75 % บัตรเสีย 13.36% ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 26.73 % นำเสนอที่ประชุม กกต.เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

นายสมบัติ จันทรา ผอ.กกต.นครศรีธรรมราชนครศรีธรรมราช มีประชากร 1,541061 คน เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,153,060 คน แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๙ เขตเลือกตั้งเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่พร้อมเปิดได้ 1,970 หน่วย แต่เป็นหน่วยเลือกตั้งที่สามารถรับอุปกรณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งได้ 89 หน่วย เปิดหีบลงคะแนนได้ 84 หน่วย สามารถนับคะแนนได้ 23 หน่วย จาก 3 เขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 สามารถจัดการเลือกตั้งได้เรียบร้อย 3 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2081 คน มาใช้สิทธิ 85 คน คิดเป็นร้อยละ 14.08 แยกเป็นบัตรดี 59 ใบ บัตรเสีย 5 ใบ ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 21 ใบ เขตเลือกตั้งที่ 6 เปิดได้ 1 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 909 คน มาใช้สิทธิ 40 คน คิดเป็นร้อยละ 0.44 เป็นบัตรดี 18 ใบ บัตรเสีย 8 ใบ ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 14 ใบ เขต 9 มี 19 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 11,835 คน มาใช้สิทธิ 1,177 คน คิดเป็นร้อยละ 9.95 เป็นบัตรดี 703 ใบ บัตรเสีย 161 ใบ ไม่ประสงค์ลงคะแนน 313 ใบ รวม 3 เขต 23 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 14,825 คน มาใช้สิทธิ 1,302 คน คิดเป็นร้อยละ 8.75 เป็นบัตรดี 780 ใบ คิดเป็นร้อยละ 59.90 บัตรเสีย 174 ใบ คิดเป็นร้อยละ13.36 ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 348 ใบ คิดเป็นร้อยละ 26.73

ซึ่งข้อสรุปที่ได้รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ จะได้นำเรียนต่อที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จังหวัดชลบุรีในวันพรุ่งนี้

เครือข่ายตัวแทนเกษตรกร ช่วยจัดทำแผนแม่บทพัฒนาเกษตรกรรม

นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการจัดตั้งและสร้างเครือข่ายผู้แทนเกษตรกรระดับตำบล อำเภอ และจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรม ที่หอประชุมโรงเรียนมัธยมจุฬาภรณ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช

นายประทีป กลีบแก้ว สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นำ ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร 185 คน ของ อ.จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ และ อ.ชะอวด เข้าร่วมการประชุม รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติมีงานหนักรออยู่ ต้องพัฒนาภาคการเกษตรให้ก้าวหน้า เพื่อเกษตรกรจะได้ไม่ต้องออกปิดถนน เนื่องจากเดือดร้อนเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ สำหรับการจัดตั้งเครือข่ายผู้แทนเกษตรกร เป็นไปด้วยความถูกต้อง สภาเกษตรกรแห่งชาติได้จัดทำระเบียบออกมารองรับเรียบร้อยแล้ว เครือข่ายเกษตรกรมีความสำคัญในการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาเกษตรกรรม เป็นการทำแผนจากระดับล่างขึ้นบน เปิดให้เกษตรกรทุกคนมีส่วนร่วม มีกำหนดจัดทำแผนเม่บทให้แล้วเสร็จในปีนี้ นำเสนอนายกรัฐมนตรีของประชาชน เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และประกาศใช้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพัฒนาภาคการเกษตรให้มีความมั่นคง ยั่งยืน เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น

หลังจากบรรยายพิเศษเสร็จแล้ว นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดโอกาสให้ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร ให้ข้อเสนอแนะและตอบข้อซักถาม 

กกต.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจไม่บุกเข้าไปนำบัตรเลือกตั้งออกมาใช้เลือกตั้งหวั่นเกิดความรุนแรง

กกต.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจไม่บุกเข้าไปนำบัตรเลือกตั้งออกมาใช้เลือกตั้งหวั่นเกิดความรุนแรง ขณะที่การรักษาความปลอดภัย ทั้งตำรวจและทหารให้การสนับสนุนเต็มที่ โดย แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำกำลังพลที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ห้ามพกพาอาวุธเด็ดขาด

นายสมบัติ จันทรา รักษาราชการแทน ผอ,กกต. กล่าวในขณะนี้บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และ กระบี่ ยังคงอยู่ที่ที่ทำการไปรษณีย์เขต 8 ซึ่งมีมวลชนปิดล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก และจากการเฝ้าสังเกตการณ์ ประธาน กกต.นครศรีธรรมราช พิจารณาเห็นว่า หากมีการใช้กำลังเข้าใปนำออกมาอาจเกิดความเสียหายขึ้นได้

สำหรับในด้านการรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 2010 หน่วย ของจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต. พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้ประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย ในขณะที่ พลโทสกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการให้การสนับสนุนการเลือกตั้ง ตามนโยบายของกองทัพบก ในกรณีที่ กกต.ประจำพื้นที่ประสานหรือร้องขอ ห้ามมิให้กำลังพลพกพาอาวุธโดยเด็ดขาด หากมีสถานการณ์ความไม่ปกติใด ๆ ให้ใช้การเจรจาเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการปะทะ และห้ามมิให้ใช้กำลังในการเข้าผลักดันเป็นอันขาด                                                                 

กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งชี้แจง จนท.กกต.พังงา

วันศุกร์ที่  31 มค. 57  ที่โรงแรมภูงาธานี นายสมชัย ศรีวิสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งพร้อมด้วยคณะ เดินทางประชุม จนท. ทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง การเลือกตั้ง สส. วันที่ 2 กพ. 57 โดยมีนายพีระ เพชรพาณิชย์ ประธาน กกต.จ.พังงา นางวสี อุทัยมงคล ผอ. กกต. พังงา พร้อมด้วย จนท. และ หน.ส่วนราชการที่รับผิดชอบการเลือกตั้ง เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง

การเลือกตั้ง สส.ในวันที่ 2 กพ. 57 นอกจากจะต้องทำให้สำเร็จตามกรอบของกฎหมายแล้ว จะต้องคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่นำไปสู่ความรุนแรง ขณะนี้เรื่องที่มีความกังวลในการเลือกตั้งของภาคใต้มี 3 ประเด็นคือ เรื่องผู้ทำหน้าที่ กปน.ประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งอาจไม่ครบเนื่องจากถูกกดดัน ประเด็นที่ 2 บัตรเลือกตั้งบัญชีรายชื่อ และประเด็นที่ 3 คือวันเลือกตั้งที่อาจจะไม่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ ถึงอย่างไรก็ตามการตัดสินใจยุติการลงคะแนนหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินในหน่วยเลือกตั้งใด เป็นอำนาจของประธานกรรมการประจำหน่วย และเมื่อปิดการลงคะแนนแล้วจะไม่มีอำนาจสั่งการให้เปิดใหม่ได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย

นางวสี อุทัยมงคล ผอ.กกต.จ.พังงา กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งในภาพรวมด้วยบัตรเลือกตั้ง วัสดุอุปกรณ์ ได้ดำเนินการจัดเก็บและแจกจ่ายไปยังอำเภอต่าง ๆ เป็นบางส่วนแล้ว พร้อมทั้งได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจภูธร จ.พังงาเพื่อให้การสนับสนุน การช่วยเหลือ การจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ชุดควบคุมหน่วย และกำลังทหารจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดูแลความปลอดภัยด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะกำลังทำการประชุม ได้มีตัวแทน กปปส.จ.พังงา จำนวนหนึ่งได้เข้ามาแสดงสัญลักษณ์ และความรู้สึกในการเลือกตั้งเพื่อให้ กกต.ได้พิจารณาในการเลื่อนการเลือกตั้ง จนกว่าจะมีการปฏิรูปประเทศไทย

กปปส.ระนอง ไปยังวิทยาลัยเทคนิคระนอง เนื่องจากทราบข่าวว่าจะมีการแจกจ่ายบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตของพื้นที่อำเภอเมืองในสถานที่ดังกล่า

กลุ่มมวลชนแนวร่วม กปปส. ในพื้นที่จังหวัดระนอง ได้ออกมาเดินรณรงค์คัดค้านการจัดการเลือกตั้ง ที่อำเภอกะเปอร์ กลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่ง ประมาณ 70 คน พร้อมรถติดเครื่องขยายเสียง และประชาชนเดินเท้าถือป้ายรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้ง และให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง พร้อมทั้งเป่านกหวีดแสดงสัญลักษณ์การต่อต้าน

ขณะที่ในอำเภอเมือง นายสุชีพ พัฒน์ทอง แกนนำกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดระนอง ได้ระดมมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังวิทยาลัยเทคนิคระนอง เนื่องจากทราบข่าวว่าจะมีการแจกจ่ายบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตของพื้นที่อำเภอเมืองในสถานที่ดังกล่าว

นอกจากนี้นายสุชีพยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวในพื้นที่อื่น ๆ มีมวลชนปิดล้อมกดดันที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจภูธร ทั้งที่อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์ อำเภอสุขสำราญ เพื่อเฝ้าติดตามการแจกจ่ายบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้หากหน่วยเลือกตั้งใดเปิดให้ลงคะแนนในวันเลือกตั้งได้ กลุ่มมวลชนจะเดินทางไปโอบล้อมและแสดงการคัดค้านอย่างสันติ

โดยขณะนี้จังหวัดระนองประสบปัญหาการขาดกรรมการประจำที่เลือกตั้งมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

กปปส.ภูเก็ต ปิดกั้น สภ.ถลาง ไม่ให้ ขนย้ายบัตร

ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรถลาง อำเภอถลาง จังหวัด นายสุรทิน เลี่ยนอุดม ทนายความและอดีตนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และนายสมาน เกราะเหล็ก แกนนำ กปปส. จังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยประชาชน ชาย หญิง ที่อ้างตัวว่าเป็น กปปส.จังหวัดภูเก็ตประมาณ300 คนยืนปิดล้อมบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า-ออกและตลอดแนวยาวของประตูรั้วด้านนอก เพื่อป้องกันไม่ให้มีรถของเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ลำเลียงหรือขนถ่ายบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หลังจากที่ทราบว่า กกต.นำบัตรเลือกตั้งทั้งหมดมาเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรถลาง และจะมีการขนย้าย ไปยังสถานที่อื่น ใกล้หน่วยเลือกตั้ง ภายในคืนนี้ สำหรับพฤติกรรมของผู้ชุมนุมบางส่วน พยายามเล็ดรอดเข้าไปในรั้วสถานีตำรวจ พร้อมกับชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง และบางส่วนนั่งเฝ้าประตูทางออกทั้งด้านหน้า และด้านหลังเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้ง ส่วนภายในห้องทำงานต่างๆ มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรและนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ กกต.ปฏิบัติหน้าที่และร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย

นายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำ กปปส.จังหวัดภูเก็ตกล่าวผ่านเครื่องกระจายเสียง โดยอ้างว่า การปิดล้อม สถานีตำรวจภูธรถลางในครั้งนี้จะยังคงใช้รูปแบบสันติ อหิงสา เช่นเดิม จะไม่มีการบุกเข้าไปเพื่อทำลายบัตรเลือกตั้ง หรือทรัพย์สินทางราชการ เพียงแต่จะมาเพื่อเป็นการขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้มีการขนบัตรไปยังหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น โดยก่อนหน้าจะมาปิดล้อม ตนเอง และผู้ร่วมชุมนุมทราบข่าวมาว่า ในคืนนี้เจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จะขนย้ายบัตรลงคะแนนเลือกตั้งขนถ่ายบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนประมาณ 143,000 ใบ จาก สถานีตำรวจภูธรถลาง ออกไปเก็บยังสถานที่อื่นๆ ใกล้หน่วยเลือกตั้ง จึงแจ้งข่าว ให้ประชาชน ในสังกัด กปปส.เดินทางมาปิดล้อมและจากนั้นในเวลาประมาณ 23.00 น. มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวทยอยเดินทางมาเข้าร่วมด้วย และส่วนใหญ่ถือเอาธงชาติไทยและนกหวีดเป็นเครื่องมือ นอกจากนี่้แกนนำผู้ชุมนุม ได้ประกาศหาอาสาสมัคร กปปส.ประมาณ 20 คนเพื่อร่วมเฝ้าบัตรเลือกตั้งอยู่ภายในสถานีตำรวจภูธรถลาง ก่อนแยกย้ายกลับไปในเมื่อเวลาประมาณ24.00น.พร้อมนัดหมายให้ กปปส.ทุกพื้นที่ ออกมาร่วมชุมนุมปิดล้อมต่อในเวลา 06.30 น.ของวันที่1 กุมภาพันธ์นี้ และเคลื่อนไหวควบคู่กับขบวนแห่รณรงค์ไม่ไปเลือกตั้ง ที่จะเคลื่อนขบวนไปในตัวเมืองภูเก็ต ในเวลาเดียวกันด้วย

สำหรับบรรยากาศการการปิดล้อมสถานีตำรวจภูธรถลาง ที่นายสุรทินเลี่ยนอุดม และนายสมาน เกราะเหล็ก เป็นแกนนำ ในช่วงเช้าวันนี้ เป็นไปอย่าง คึกคัก โดยแกนนำขึ้นปราศรัย พูดถึงการนัดหมาย ซักซ้อมความเข้าใจในรายละเอียดถึงแนวทางการปิดล้อมในครั้งนี้ และผู้ปราศรัยบางราย กล่าวประณาม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้ชุมนุมร่วมรับประทานอาหารที่มีผู้สนับสนุน นำมาแจกจ่าย รวมทั้ง พยายามของรับบริจาคเงิน หรือระดมเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือการต่อสู้ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และยังเต้น ร้องรำทำเพลงกันอย่างคึกคักสนุกสนาน

นอกจากนี้นายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำ กปปส.จังหวัดภูเก็ต กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตอนหนึ่งว่า จำเป็นจะต้องมีการปักหลักปิดล้อม สถานีตำรวจภูธรถลาง อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เคลื่อนย้ายบัตรเลือกตั้งไปจนถึงเวลา 08.00 น.ของวันที่2 กุมภาพันธ์ วันเลือกตั้ง เพื่อให้ กกต.ประกาศยุติการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ยืนยันว่าจะใช้แนวทางเดิมคือ ฃุมนุมอย่างสันติ อหิงสา ไม่บุกเข้าไปทำลายบัตรเลือกตั้ง และทรัพย์สินทางราชการ และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ได้ตามปกติ หรือขอความร่วมมือไม่ให้นำบัตรเลือกตั้งออกไปเท่านั้น

ทางด้านนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤตผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้สามารถนำบัตรเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้งออกมาให้ได้ แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ และถึงเวลา 08.00 น.ของวันพรุ่งนี้ จะต้องให้ นายไชยา ขำสะอาด ผู้อำนวยการ กกต.เขต 2 เป็นผู้ตัดสินใจออกประกาศยุติการลงคะแนนเลือกตั้งตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะ จำนวนหนึ่ง เข้าพบนายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำ กปปส. จังหวัดภูเก็ต ที่สถานีตำรวจภูธรถลาง เพื่อเจรจา ให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เคลื่อนย้ายบัตรเลือกตั้ง และ นำไปส่งให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ในเขตเลือกตั้ง ที่ 2 ส่วนนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต และกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต บางส่วนเข้าพบ เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการปิดล้อมสถานีตำรวจภูธรถลาง ที่กำลังเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง แต่ผลการพบปะพูดคุยกัน ในครั้ง นี้ ยังไม่เป็นที่เปิดเผย

สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ นายจิรายุส ทรงยศ ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย สามารถสมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 2ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น หรือเขตเลือกตั้งที่ 1และเขต 2 ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เหลือรวม 4 คนไม่ สามารถสมัครได้ตามกำหนดเวลาของ กกต. เพราะนายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำ กปปส.จังหวัดภูเก็ต นำประชาชน มาปิดกั้นศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นสถานที่รับสมัคร

อย่างไรก็ดี จังหวัดภูเก็ต มีทั้งหมด 2 เขตเลือกตั้ง รวม 400 หน่วยเลือกตั้ง และอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2จำนวน 205 หน่วย ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 145,000 คน นอกจากมีประชาชนปิดกั้นสถานีตำรวจภูธรถลาง เพื่อไม่ขนย้ายบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้งแล้ว ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ กปปส.ปิดกั้นที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดชุมพร ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน 

ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเงียบเหงาปราศจากป้ายโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมือง

ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2557 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น เนื่องจากสถาการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ มีการชุมนุมของมวลชนในนามกลุ่ม กปปส. เรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นทางการเมืองเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่ม กปปส. ทำให้ศูนย์ราชการถูกปิดทำการ รวมทั้งสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ถูกปิดทำการด้วย แต่ในการเตีรยมการเลือกตั้งยังคงดำเนินต่อไป ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2554 ซึ่งจากข้อมูลการเตรียมการเลือกตั้ง ทราบว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 19 อำเภอ มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 710,569 คน จำนวนหน่วยเลือกตั้ง 1,396 หน่วย

ในขณะที่บรรยากาศ 1 วัน ก่อนการเลือกตั้ง พบว่า ภายในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีแม้กระทั้งป้ายโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะตามเสาไฟฟ้า ริมทางเท้า หรือแยกต่างๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังพบว่าสรรหาคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งก็ยังหาได้ไม่ครบตามจำนวน และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ก็ยังตกค้างอยู่ที่ไปษณีย์จังหวัดชุมพร ขณะที่ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จะไม่มีการนำมาใช้ เนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีผู้สมัครจากพรรคการเมืองใด ทำการสมัครได้แม้แต่รายเดียว ในขณะที่การรักษาความสงบเรียบร้อย ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ตามแผนแล้ว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย และพร้อมทุกเมื่อในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งในส่วนของตำรวจไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

กว่า ๑๗๐ หน่วยสามารถเลือกได้ไม่ถึง ๒๐ หน่วย ขณะที่ กปปส.นศ.ยังปิดล้อม

บรรยากาศการเลือกตั้ง ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ค่อนข้างตึงเครียด โดยในเขตเลือกตั้งที่ ๑ หน่วยเลือกตั้งที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ได้มีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ ไว้ แต่ไม่ติดประกาศ การเป็นหน่วยเลือกตั้งเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช และเป็น กกต.เขต ๑ ได้เรียกกำลังตำรวจกว่า ๑๐๐ นายที่ได้รับคำสั่งให้เป็น คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง มาชี้แจงแผนการปฏิบัติตั้งแต่เวลา ๐๕๐๐ น.เพื่อปรับการปฏิงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากบางพื้นที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ โดยให้ผู้ที่อยู่หน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถเลือกตั้งได้ มาเตรียมพร้อมเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในเขตเลือกตั้งและสนับสนุนเขตเลือกตั้งอื่นหากได้รับการร้องขอ

สำหรับที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเก็บหีบบัตรและคูหาเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ ๑ จนถึงขณะนี้ยังมีมวลชนปักหลักเฝ้าระวังไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์การเลือกตั้งออกไป

นายสมบัติ จันทรา รักษาราชการแทน ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช กล่าวจากการสรุปผลในช่วงค่ำที่ผ่านมา ในเขต ๑ มีหน่วยเลือกตั้งรวมกว่า ๑๗๐ หน่วย มีสถานที่สำหรับตั้งหน่วยเลือกตั้งเพียง ๘๔ หน่วย และมีกรรมการประจำหน่วยพร้อมเพียง ไม่ถึง ๒๐ หน่วยเลือกตั้ง ส่วนเขต ๓ และ ๘ ไม่มีผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขต ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากนครศรีธรรมราชไม่มีบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนเขตเลือกตั้งที่ ๒ กกต.ขาดมีเพียง ๒ คน ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ , เขต ๔ , ๖, ๗ กรรมการและหน่วยเลือกตั้งพร้อม แต่ อุปกรณ์ การเลือกตั้ง ถูกมวลชนปิดล้อมศูนย์ฯ ไม่สามารถกระจายไปยังหน่วยเลือกตั้งได้เช่นเดียวกัน

นครศรีธรรมราช สามารถแจกจ่ายอุปกรณ์การเลือกตั้งไปได้เพียง ๘๖ หน่วยเลือกตั้งจาก ๒๐๑๐ หน่วยเลือกตั้ง

นครศรีธรรมราช สามารถแจกจ่ายอุปกรณ์การเลือกตั้งไปได้เพียง ๘๖ หน่วยเลือกตั้งจาก ๒๐๑๐ หน่วยเลือกตั้ง แต่เมื่อจะเปิดหีบ หลายหน่วยกรรมการไม่ครบ เจ้าของสถานที่ไม่ให้ใช้ และไม่มั่นใจว่าหน่วยที่เปิดได้จะดำเนินการได้จนปิดหีบเลือกตั้งหรือไม่

การเลือกตั้ง สส.ในวันนี้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เคร่งเครียดตั้งแต่ก่อนถึงเวลา เปิดหีบเลือกตั้ง ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งให้การสนับสนุนแนวคิดของ กปปส. ไม่สนับสนุนการเลือกตั้ง จึงได้ปฏิเสธในด้านต่าง ๆ รวมทั้งไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่กลุ่มผู้ที่เป็นผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง อยากออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งแต่เกิดความไม่มั่นใจ ทำให้มีความลังเลและยังไม่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าต้องออกมา และยังมีกลุ่มวางเฉย ที่เฝ้าดูสถานการณ์เงียบ ๆ รวมทั้งปัญหาของการไม่มีหน่วยเลือกตั้งให้ไปใช้สิทธิด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มี๙ เขตเลือกตั้ง ๒๐๑๐ หน่วยเลือกตั้ง โดยถึงเช้าวันนี้มีหน่วยที่ได้รับหีบบัตรเลือกตั้ง พร้อมบัตรเลือกตั้ง ไปมีเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ ๑ จำหนวน ๗ หน่วย เขต ๕ จำนวน ๕ หน่วย เขต ๖ จำนวน ๓ หน่วย และเขต ๙ มี ๗๐ หน่วย รวม ๘๖ หน่วยเลือกตั้ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่พบว่ามีบางหน่วยเลือกตั้ง เจ้าของสถานที่ไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่และ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ครบ

นายสมบัติ จันทรา รักษาราชการแทน ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช กล่าวในเช้านี้มีหน่วยเลือกตั้งที่มีบัตรเลือกตั้งครบเพียงไม่ถึงร้อยละ ๕ และไม่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดทำการเลือกตั้งได้กี่หน่วยและหน่วยที่เปิดแล้วก็ไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นจนกระทั่งปิดหีบเลือกตั้งหรือไม่

เลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราชเงียบเหงา เขตเลือกตั้งที่ 1 เปิดหน่วยลงคะแนนได้ 4 หน่วยจาก 171 หน่วย

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ ( 2 ก.พ.57 ) บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนได้เมื่อเวลา 08.00 น. เพียง 4 หน่วยเลือกตั้งเท่านั้นจาก 171 หน่วย

โดยที่โรงเรียนเทศบาลเสมาเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีหน่วยเลือกตั้ง 2 หน่วย คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 39 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 625 คน และหน่วยเลือกตั้งที่ 40 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 327 คน ส่วนที่หน้าหน่วยเลือกตั้งไม่มีการปิดประกาศหมายเลขและรูปถ่ายของผู้สมัครว่าสังกัดพรรคการเมืองใดอย่างเป็นทางการ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจึงต้องแก้ไขปัญหาโดยการเขียนหมายเลขผู้สมัครและพรรคที่สังกัด ลงในกระดาษเอ 4 แล้วปิดประกาศควบคู่กับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้รู้ว่าในเขตของตัวเองมีผู้สมัครกี่คน ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 นี้มีผู้สมัครจำนวน 4 คน และสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เฉพาะ ส.ส.แบบแบ่งเขตเท่านั้น เนื่องจากบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเบิกมาได้

ส่วนหน่วยเลือกตั้งอื่น ๆ ของเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ไม่สามารถเปิดให้ลงคะแนนได้นั้น เนื่องจากไม่สามารถส่งหีบบัตรและอุปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่ได้ บางหน่วยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเบิกหีบบัตรและอุปกรณ์มาแล้วแต่ไม่สามารถนำไปยังหน่วยเลือกตั้งได้ เพราะเจ้าของสถานที่ไม่ให้ใช้สถานที่จึงต้องส่งหีบบัตรและอุปกรณ์คืน ขณะที่บางหน่วยกรรมการหน่วยเลือกตั้งไม่ไปรับหีบบัตรและอุปกรณ์ และลาออกจากเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ส่วนเขตเลือกตั้งอื่น ๆ ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน กล่าวคือ เขตที่สามารถเปิดลงคะแนนได้บางส่วนคือ เขตเลือกตั้งที่ 1 , 5 , 6, 9 โดยเขตเลือกตั้งที่ 9 ( อ.ท่าศาลา อ.ขนอม และ อ.สิชล) สามารถเปิดหน่วยลงคะแนนได้ประมาณ 69 หน่วย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดลงคะแนนได้ คือ เขตที่ 2, 3 ,4,7,8

กลุ่ม กกปส.นครศรีธรรมราช ชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ ( 2 ก.พ.57) กลุ่ม กปปส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 39 และ 40 โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีการใช้รถกระจายเสียงเคลื่อนที่ปราศรัยคัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ และกดดันให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งยุติการเลือกตั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ภายใน มีการปิดประตูรั้วโรงเรียน แต่ก็เปิดให้ผู้ที่ต้องการออกไปใช้สิทธิให้เข้าไปลงคะแนนได้ ซึ่งหน่วยเลือกตั้งที่ 39 และ 40 นี้ เป็น 2 ใน 4 หน่วยเลือกตั้ง จาก 171 หน่วยเลือกตั้งของเขตการเลือกตั้งที่ 1 ที่สามารถเปิดให้ลงคะแนนได้เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา

แต่อย่างไรก็ตามได้มีการประกาศยุติการลงคะแนนไปแล้ว 1 หน่วย คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 2 ในซอยก้าวหน้า ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ถูกกลุ่ม กกปส. กดดัน ส่วนหน่วยเลือกตั้งอีก 3 หน่วยที่ยังเปิดให้ลงคะแนน คือ หน่วยเลือกตั้งที่ 11 โรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช และหน่วยเลือกตั้งที่ 39 และ 40 โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง กำลังถูกกลุ่ม กกปส.กดดันให้ยุติการลงคะแนน แต่จนถึงเวลา 10.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนยังคงออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง

กกต.กระบี่ ประกาศงดการลงคะแนนเลือกตั้งทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง

กกต.กระบี่ประกาศงดการลงคะแนนเลือกตั้งทั้ง 3 เขตเลือกตั้งของจังหวัดกระบี่เนื่องจากไม่ได้รับบัตรเลือกตั้ง

วันที่ ( 2 ก.พ.2557 ) นายสมปอง ตั้งเริก ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขตของจังหวัดกระบี่ประกาศงดการลงคะแนนของหน่วยเลือกตั้งภายในเขต 3 เขต รวม 573 หน่วยแล้ว เนื่องจากไม่ได้รับบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเลือกตั้ง ตลอดจนบางหน่วยเลือกตั้งไม่มีกรรมการประจำหน่วยมาปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากได้มีกลุ่มคนจำนวนมากมาขัดขวางการเข้าไป ณ สถานที่เลือกตั้ง ทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้

สำหรับจังหวัดกระบี่มีการเลือกตั้งเฉพาะ สส.บัญชีรายชื่อเท่านั้น ส่วนระบบเขตไม่มีผู้สมัคร นายสมปอง ตั้งเริก ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ เปิดเผยอีกว่า สำหรับผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิในครั้งนี้ ไม่ต้องไปแจ้งเหตุ เนื่องจากทาง กกต.กระบี่ ประกาศงดการลงคะแนนเอง

ส่วนการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเลือกวันไหนทาง กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ทราบต่อไป

อำเภอนาทวี ขอเชิญเที่ยวงาน ประจำปีกิ่งกาชาดอำเภอนาทวี ประจำปี 57 ระหว่างวันที่ 14 -23 ก.พ. 57

นางธัญญลักษณ์ จิรสุขประเสริฐ นายกกิ่งกาชาดอำเภอนาทวี ขอเชิญเที่ยวงานประจำปีกิ่งกาชาดอำเภอนาทวี ประจำปี 57 ระหว่างวันที่ 14 -23 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี ร่วมสนุกตักนาวากาชาด ใบละ 20 บาท ลุ้นรับของรางวัลมากมาย ชมมหรสพต่างๆ และพบกับการของนักร้องนักแสดงอีกมากมาย

ผู้ว่าฯ สงขลา เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพของ อส.ทพ. สามิตร ไชยของพรหม

ที่วัดพรุตู ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา เวลา 11.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.57) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เชิญพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ จำนวน 12 พวง วางหน้าหีบศพ อาสาสมัครทหารพรานสามิตร ไชยของพรหม อายุ 39 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4705 ฉก.ทพ.47 ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกลอบวางระเบิด ในขณะเจ้าหน้าที่ทหารพราน ออกลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อรักษาความปลอดภัยครูและเส้นทาง บริเวณทางเข้าโรงเรียนวังสำราญ ม.4 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าบ้านที่ดี

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการต้อนรับผู้มาเยือนระหว่างการประชุมวิชาการองค์การวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ระดับชาติ ระหว่างวันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2557

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้มอบหมายให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาภาคใต้ และวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการองค์การวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย ระดับชาติ ครั้งที่ 23 ประจำปีการศึกษา 2556 ระหว่างวันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2557 ณ วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ซึ่งมีสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศจำนวน 369 แห่ง มีคณะกรรมการ องค์การวิชาชีพฯ ระดับหน่วย ครูที่ปรึกษา รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา และคณะกรรมการดำเนินงาน เข้าร่วมประชุมจำนวน 1,267 คน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้คณะผู้เข้าร่วมประชุมฯดังกล่าว ได้เดินทางถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว จึงขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดุจญาติมิตรในการต้อนรับผู้มาเยือน ทั้งในด้านการให้คำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัด การให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น ทั้งด้านที่พัก อาหาร ของที่ระลึก ของฝาก รวมทั้งการดูแลอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ความปลอดภัย เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในนามชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่เลือกจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ในการจัดประชุมครั้งนี้

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการตรวจสอบผู้ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน

ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองกระบือ เรื่องประกวดราคาจ้างด้วยการประมูลจ้างเหมาก่อสร้างประเภทถนน จำนวน 2 โครงการ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (โครงการที่1) โครงการก่อสร้างถนน คสล.สายวัดบ้านงาม-นาออก หมู่ที่ 2 ตำบลคลองกระบือ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงวันที่ 9 มกราคม 2557 โดยกำหนดให้ยื่นเอกสารเสนอราคา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 10.00 น. ซี่งมีผู้ยื่นเอกสาร จำนวน 3 ราย นั้น

คณะกรรมการ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของการไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ยื่นเสนอราคาตามประกาศข้างต้นแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้เสนอราคา จำนวน 3 ราย ดังนี้
1.หจก.อภิชัจจ์ บริการ
2.หจก.ไตรทอง นครศรีฯ
3.นายสำราญ บุญกาญจน์

ประกาศ ณ วันที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


สนชัย สังขศรี
(นายสนชัย สังขศรี)
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองกระบือ

ผู้ว่าฯ นครฯ นำคณะสื่อมวลชลร่วมงานตรุษจีนจันดี

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำคณะสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมงานเทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย ประจำปี 2557

ค่ำวานนี้ ( 2 ก.พ.57) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางเลขา ซื่อธานุวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมเกียรติ จันหนู หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และ นางเสาวลักษณ์ แหละบัง ประชาสัมพันธ์จังหวัด นำคณะสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมชมงาน “เทศกาลตรุษจีนจันดี เที่ยวตลาด 100 ปี ชมบารมีพ่อท่านคล้าย” ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของงาน ณ ถนนสายกลางตลาดจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง ซึ่งเทศบาลตำบลจันดี จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาด 100 ปี และให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิมของชาวจันดี ตลอดจนได้นมัสการและชื่นชมบารมีพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ โดยมีนายชาญวิจารณ์ เกียรติวุฒินนท์ นายกเทศมนตรีตำบลจันดี คณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลจันดี และคณะกรรมการจัดงานให้การต้อนรับ

สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย การแข่งขันการทำขนมเข่ง ขนมเทียน การประกวดการทำข้าวหลาม การแข่งขันทำขนมค่อม การแข่งขันการทำข้าวเหนียวหน้า การแข่งขันการกินหมี่เกี๊ยวจันดี การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การแข่งขันบาสเก็ตบอล การออกร้านจำหน่ายอาหารของดีตลาด 100 ปี จันดี และการแสดงบนเวทีกลาง การแสดงของศิลปินนักร้อง และรำวงเวียนครกทุกคืนตลอดงาน

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะได้สักการะรูปเหมือนพ่อท่านคล้าย เดินเยี่ยมชมบู๊ธสินค้า บู๊ธอาหารต่าง ๆ ภายในงาน พร้อมทั้งร่วมยิงปืนใหญ่ไม้ไผ่บนเวทีกลาง มอบเงินรางวัลและเกียรติบัตรให้ผู้ที่ชนะการประกวด แข่งขันกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในงาน รับชมการแสดงบนเวทีกลาง เป็นต้น

ป.ป.ช.ประกาศแต่งตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตรัง

นายทวีป แดงวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดตรัง แจ้งว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ดำเนินการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตรัง ตามประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่อง รับสมัครกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตรัง ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103/13 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 และข้อ 33 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ.2555 ประกอบมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคคลตามบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาเสนอเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดในการประชุมครั้งที่ 9-1/2557 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2557 คณะกรรามการ ป.ป.ช.จึงแต่งตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดตรัง คือ นายอิศร เอกพิศาลกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.จ. นายวีรชัย ชีวศุภกร กรรมการ ป.ป.จ. และ นายไชยยศ ธงไชย กรรมการ ป.ป.จ. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งในวันนี้ (3 ก.พ.) ที่สำนักงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดตรัง โดยผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งทั้ง 3 คน คือ นายอิศร เอกพิศาลกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.จ. นายวีรชัย ชีวศุภกร กรรมการ ป.ป.จ. และนายไชยยศ ธงไชย กรรมการ ป.ป.จ.ได้เดินทางมารายงานตัวในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

สำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ประกาศประชาสัมพันธ์ เรื่อง การชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป

สำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ขอประชาสัมพันธ์แจ้งนายจ้างที่อยู่ในข่ายบังคับตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ในความรับผิดชอบ ได้รับทราบอัตราเงินสมทบ ตั้งแต่งวดค่าจ้างเดือน มกราคม 2557   เป็นต้นไป ดังนี้

    1. นายจ้าง ที่อยู่ในข่ายบังคับตามพระราชบัญญัติประกันสังคม

- ตั้งแต่งวดเดือน มกราคม 2557 เป็นต้นไป นำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในอัตราฝ่ายละ ร้อยละ 5 ของค่าจ้างของผู้ประกันตน
 
   2. ผู้ประกันตนมาตรา 39

- ตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป นำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ในอัตราร้อยละ 9 โดยให้ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท


จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน


                                            สำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง

สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง ขอเชิญผู้สนใจร่วมงาน "วันนัดพบแรงงานและแนวแนวอาชีพจังหวัดตรัง"

สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง ขอเชิญผู้สนใจร่วมงาน "วันนัดพบแรงงานและแนวแนวอาชีพจังหวัดตรัง" (Labour Market and Career Day)  ในวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00 - 16.00 น.
ณ อาคารเรียนรวม 2 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง

ในงาน... พบกับ- ตำแหน่งงานดี สวัสดิการดี
- มีรายได้วันละ 300 บาท
- สมัครงานกับสถานประกอบการกว่า 30 แห่ง
- รับสมัครงานผู้ว่างงานที่ต้องการหางานทำ ผู้ต้องการเปลี่ยนงาน คนพิการ นิสิตนักศึกษา   ที่สำเร็จการศึกษา
- สาธิตอาชีพอิสระและฝึกปฏิบัติ (ฟรี)
- นิืทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
- ทดสอบความถนัดทางอาชีพ
- การแข่งขันตอบปัญหาทางอาชีพ
- การบรรยายในหัวข้อ "การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน"

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง ศาลากลางหลังใหม่ ชั้น 2 หรือโทรศัพท์ 075-214027-8, 081-9683506, www.doe.go.th/trang

กปปส.สุราษฎร์-ชุมพรเต็มหน้าศูนย์ไปรษณีย์ชุมพรถนนสายเอเซีย 41 ขาขึ้นปิดหนึ่งช่องทาง

เมื่อค่ำวันที่ 27 ม.ค. 57 ที่ผ่านมา กลุ่ม กปปส.สุราษฎร์ธานี และมวลชนในจังหวัดชุมพรบางส่วน นำโดย นายดำรงค์ เทือกสุบรรณ รองนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี และ นายพวงรัตน์ ปิ่นแก้ว ประธาน กปปส.สุราษฎร์ธานี ได้มาร่วมตัวกันศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร ริมถนนสายเอเซีย 41 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร เนื่องจากทราบว่า ศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร เป็นจุดกระจายหีบบัตรเลือกตั้งทั่วไปของพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา และ ภูเก็ต

ประธาน กปปส.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า มาอยู่ศูนย์ไปรษณีย์ชุมพรแห่งนี้ 4 วันแล้ว และไม่ได้กีดกันการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แต่อย่างใด ข้างในยังมีการทำงานกันปกติ เพียงแต่คอยดูไม่ให้หีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งทราบว่าถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ เพื่อที่จะกระจายไปใช้ในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้ ไม่ให้ออกไปจากศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร ซึ่งชาวสุราษฎร์และชาวชุมพรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและไม่ให้การสนับสนุนการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้บัตรเลือกตั้งทั้งหมดไปถึงมือพี่น้องประชาชน ซึ่งวันนี้เราได้รถเครื่องเสียงมาประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาร่วมตัวกันทำให้มีเยอะกว่าทุกวันที่ผ่านม

สำหรับบรรยากาศการชุมชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยช่วงเย็นมีการประกาศเชิญชวนป

ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองชุมพร จัดประกวดหนูน้อยสุขภาพดี

ศูนย์บริการสาธารณสุข  เทศบาลเมืองชุมพร จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กแรกเกิด – 5 ปี ซึ่งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และระบบบริการอนามัยแม่และเด็กที่มีมาตรฐาน โดยจัดอบรมให้ความรู้ พร้อมจัดประกวดสุขภาพเด็กแรกเกิด – 5  ปี  โดยมีเด็กเข้าร่วมประกวด จำนวนกว่า  60  คน

นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กแรกเกิด – 5  ปี เป็นการบูรณาการงานอนามัยแม่และเด็ก และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบบริการอนามัยแม่และเด็กในสถานบริการสาธารณสุข  ครอบครัวและชุมชนแบบองค์รวม  อีกทั้งพัฒนาองค์ความรู้และระบบบริการอนามัยแม่และเด็กที่มีมาตรฐาน  โดยเน้นการดูแลเด็กทารกตั้งแต่อยู่ ในครรภ์มารดา  ในระยะตั้งครรภ์  คลอด  หลังคลอด  การเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดถึง  5  ปี โดยให้บิดา  มารดา  ผู้เลี้ยงดูเด็ก  มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพบริการงานอนามัยแม่และเด็ก  เพื่อมุ่งหวังให้เด็กเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย

ซึ่งการจัดทำโครงการในครั้งนี้ได้จัดให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ในการเลี้ยงดูเด็กเล็ก  และการส่งเสริมพัฒนาการ  โดยแพทย์จากโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ ซึ่งเน้นในเรื่องพัฒนาการเด็กและโภชนาการเด็ก พร้อมชี้แจงการใช้สมุดบันทึกอนามัยแม่และเด็ก  และจัดให้มีการจัดประกวดสุขภาพ เด็กใน 3  กลุ่มวัย ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ช่วงอายุ  6  เดือน - 12  เดือน กลุ่มที่ 2 ช่วงอายุ  13 เดือน - 18  เดือน  กลุ่มที่  3  ช่วงอายุ 19 เดือน - 60  เดือน  ซึ่งเกณฑ์ในการตัดสินการประกวดได้แก่ประวัติการตั้งครรภ์  การคลอด  การได้รับวัคซีน  การตรวจสุขภาพช่องปาก  และพัฒนาการของเด็ก  โดยมีเด็กเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ จำนวนกว่า  60  คน

ตำรวจภูธรภาค 8 ห่วงใยประชาชนในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน

ตำรวจภูธรภาค 8 มีความห่วงใยในสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของประชาชน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ของชาวไทยเชื้อสายจีน ขอให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในสถานที่ท่องเที่ยวเป็นพิเศษ

พันตำรวจเอก สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ด้วยในวันที่ 31 มกราคม 2557 ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะหยุดกิจการและการค้า เพื่อทำพิธีไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ หลังจากนั้นจะหยุดผักผ่อน หรือบางครอบครัวก็เดินทางท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ ตำรวจภูธรภาค 8 มีความห่วงใยในสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงขอความร่วมมือจากประชาชน ช่วยกันป้องกันเหตุร้าย ดังนี้

ให้ระมัดระวังอัคคีภัยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจุดธูปเทียนไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และเผาสิ่งของเซ่นไหว้ ตลอดจนการใช้เชื้อเพลิงประกอบอาหาร ต้องมีผู้ควบคุมอย่างใกล้ชิด เรื่องการจุดประทัด หรือวัตถุอื่นใดที่มีเสียงดังคล้ายประทัด ที่จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นความผิดตามกฎหมาย หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดี การจับจ่ายซื้อของและการท่องเที่ยว ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่า ทั้งไม่ควรให้เด็กๆ ไปเที่ยวตามลำพัง และขอให้ผู้ปกครองจัดทำบัตรที่ปรากฏ ชื่อ ซื่อสกุลของเด็ก ซื่อบิดามารดา หรือผู้ปกครอง สถานที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ใส่ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าเสื้อของเด็ก เพื่อติดตามผู้ปกครองได้เร็วขึ้น ส่วนในการเดินทางไปทำธุระหรือท่องเที่ยว ขอให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดได้โปรดใช้ความระมัดระวังเป็น พิเศษ อย่าขับรถด้วยความประมาท อย่าใช้ความเร็ว เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และในบริเวณอุทยาน น้ำตก หรือสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งต่างๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งมีประชาชนไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ คอยดูแลให้ความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกทั้งทางบกทางน้ำ ตามหน้าที่อีกส่วนหนึ่งด้วย

จ.ชุมพร ฝึกทบทวนการป้องกันการก่อความไม่สงบ ประจำปี 2557

วันที่ 29 ม.ค. 2557 เวลา 09.00 น. ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพร ที่ 1 นายกองเอก ชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดโครงการฝึกทบทวนการป้องกันการก่อความไม่สงบ ประจำปี 2557 เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพและเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ ให้กับกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพิ่มประสิทธิภาพในการระงับควบคุมเหตุการณ์มิให้ลุกลามขยายออกไปจนถึงขั้นก่อจลาจล และสามารถปฏิบัติภารกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองในการรักษาความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ยุติโดยเร็ว

นายกองเอก ชาติชาย อุทัยพันธ์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศในปัจจุบัน ได้ขยายวงกว้างจากส่วนกลาง สู่ภูมิภาคจนถึงระดับชุมชน ทำให้ประชาชนแบ่งเป็น 2 ฝ่าย อย่างชัดเจน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ประชาชนเข้ามามีส่วนในการชุมนุมเคลื่อนไหว เรียกร้องผลประโยชน์ ซึ่งบางกรณีเป็นการกระทำผิดกฏหมาย ละเมิดสิทธิเสรีภาพ มีการใช้กำลังก่อความไม่สงบ และทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการจลาจล สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการและประชาชนทั่วไป

ขณะที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ซึ่งเป็นกองกำลังประจำถิ่น มีภารกิจและหน้าที่ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองในการรักษาความสงบเรียบร้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการอบรมครั้งนี้มีผู้บังคับบัญชาสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เข้ารับการอบรมจำนวน 5 นาย สามาชิกกองอาสารักษาดินแดนจำนวน 72 นาย รวม 76 นาย ใช้ระยะในการฝึกอบรม 2 วัน โดยได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร มาให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ

ทสจ.ชุมพร จัดกิจกรรมวันชุมนุมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมเนื่องในวันชุมนุมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 กุมภาพันธ์  มีเป้าหมายพัฒนาเยาวชน ให้มีจิตสำนึกและความรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้กิจกรรมค่ายลูกเสือ เป็นสื่อกลาง

วันที่ (1 ก.พ. 57) เวลา 08.00 น. ที่ค่ายลูกเสือชั่วคราว โรงเรียนปากน้ำชุมพรวิทยา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมเนื่องในวันชุมนุมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม จังหวัดชุมพร ประจำปี 2557 โดยมีลูกเสือและเนตรนารี จากโรงเรียนท่าข้ามวิทยา และโรงเรียนปากน้ำชุมพรวิทยา เข้าร่วม ซึ่งกิจกรรมได้จัดให้มีการเข้าค่ายลูกเสือ เพื่อทำกิจกรรมที่สอดแทรกความรู้ในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับให้ลูกเสือได้ยึดมั่นในคำปฏิญาณของลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3 ข้อด้วยกัน คือ จะดำรงชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตลอดไป จะเป็นผู้บริโภคที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นางอวยพร ชิตดุษดี ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ การสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือกัน ในการพัฒนาเยาวชน โดยเฉพาะลูกเสือ และเนตรนารี ด้วยการบูรณาการสาระองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของกิจกรรม โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นลูกเสือ ให้มีจิตสำนึกและความรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานของชีวิต และมีส่วนร่วมตามบทบาทหน้าที่ และอาชีพของตนในอนาคต

ซึ่งก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2552 มีมติเห็นชอบนโยบายสร้างจิตสำนึกเยาวชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้กำหนดให้ทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันชุมนุมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เยาวชนโดยเฉพาะผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมลูกเสือ ซึ่งเป็นผู้มีระเบียบวินัย มุ่งมั่น ประพฤติดีด้วย กาย วาจา ใจ ย่อมสามารถร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติให้คงอยู่ต่อไป โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด จัดฝึกอบรมลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งภูมิภาคทั่วประเทศ มีลูกเสือและเนตรนารีที่เข้าร่วมการอบรม จำนวน 13,000 คน ด้วยกัน

จ.ชุมพร จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบสตมวาร 100 วัน ถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช

จังหวัดชุมพร จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลครบ รอบสตมวาร 100 วัน ถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน

วันนี้ 31 ม.ค. 57 เวลา 10.10 น. ณ วัดโพธิการาม อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานพิธีจุดธูปเทียนหน้าพระรัตนตรัย และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบสตมวาร 100 วัน ถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จเข้ารับการรักษาพระวรกาย และประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องพระอาการประชวร เนื่องมาจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) และพระอันตคุณ (ลำไส้เล็ก) ขาดพระโลหิต และมีแผลติดเชื้อ คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาด้วยการผ่าตัดพระอันตะและพระอันตคุณบางส่วนออก และเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ให้ประชาชน ได้ทราบอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2556 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา รายงานว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระอาการโดยรวมทรุดลง ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 19.30 น. สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงเจริญพระชนมายุ 100 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2556  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทรงปฏิบัติศาสนกิจเป็นคุณประโยชน์แก่คณะ สงฆ์ และพระพุทธศาสนาเป็นอเนกประการ จังหวัดชุมพร ได้จัดพิธีพร้อมกับทางส่วนกลาง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน