นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ของสำนักชลประทานที่ 15 กรมชลประทาน ระบุว่า ปริมาณน้ำฝนในปี พ.ศ. 2556 ที่ตกในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช วัดได้ประมาณ 1,960 มิลลิเมตร ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติ ซึ่งจากการวัดระดับน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และประตูระบายน้ำแพรกเมือง สูงกว่าเกณฑ์ปกติเล็กน้อย ส่วนปริมาณน้ำที่กักเก็บในอ่างห้วยน้ำใส อ.ชะอวด ปัจจุบันมีปริมาณ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณกักเก็บสูงสุด 80 ล้านลูกบาศก์เมตร และจากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ(เอลนิโญและลานิญา)ด้วยวิธีการทางสถิติแล้ว ปรากฏว่า น่าจะเป็นไปด้านค่อนข้างแล้ง ดังนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมจะทำให้น้ำที่กักเก็บไว้ตามลำคลองสายต่าง ๆ และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสจะลดลง ทำให้ในช่วงฤดูแล้งจะขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีน้ำต้นทุนที่กักเก็บเพียง 120-130 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ดังนั้นในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับเกษตรกรขอให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ส่วนการทำนาปรังในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังขอให้ทำในเขตชลประทานเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถปลูกได้ประมาณ 120,000-140,000 ไร่ จากปกติในฤดูแล้งที่มีฝนตกชุก สามารถปลูกข้าวได้ประมาณ 220,000 ไร่ นอกจากนี้ขอให้กรมชลประทานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันกำจัดพืชน้ำเช่น ต้นผักตบชวา ผักกระฉูด เป็นต้นที่กำลังแพร่กระจายตามคูน้ำคำคลองต่าง ๆ รวม 580 สาย รวมระยะทางประมาณ 1,600 กิโลเมตร โดยอาจหาวิธีนำวัชพืชเหล่านี้มาทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด แล้วนำแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป สำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2557 ที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเข้าไปดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขต 10 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีทั้งงบปกติ(งบฟังก์ชั่น)ของหน่วยงาน กรม กระทรวงต่าง ๆ งบพัฒนาจังหวัด งบกลุ่มจังหวัด และงบอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 260 ล้านบาท
นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาระดับน้ำในป่าพรุควนเคร็งเพื่อป้องกันไฟไหม้ป่านั้นขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อม สร้างทำนบ คันกั้นน้ำ หรือฝายชะลอน้ำต่าง ๆ ให้เรียบร้อยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากระดับน้ำลดลงมากขอให้เตรียมการวางแผนในการสูบน้ำเข้าไปยังในเขตป่าพรุด้วย นอกจากนี้ในช่วงฤดูแล้งอาจขอรับการสนับสนุนในการทำฝนหลวง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งด้วย
ส.ปชส.นศ. เมื่อ : 28 ม.ค. 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น