กรณีเกิดเหตุผู้ไม่หวังดี ได้แขวนป้ายผ้า มีลักษณะสีขาว เขียนตัวหนังสือ สีแดงและสีน้ำเงิน เขียนเป็นภาษารูมี มีข้อความว่า SIAM merintah negeri sendini tak mampu.. Apakah lagi untuk merintah bangsa Melayu PATAN I แปลว่า “หากสยามปกครองตนเองไม่ได้ จงให้มาลายูปกครองแทน”โดยทุกที่ที่มีการแขวนป้ายจะมีวัตถุต้องสงสัย หรือ กล่องต้องสงสัยวางอยู่บนป้ายผ้า สร้างความป่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนเองได้รับข้อมูลว่ามีการแขวนป้ายผ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ข้อความว่า SIAM merintah negeri sendini tak mampu.. Apakah lagi untuk merintah bangsa Melayu PATAN มีความหมายว่า “หากสยามปกครองตนเองไม่ได้ จงให้มาลายูปกครองแทน” ซึ่งเป็นการเขียนข้อความเชิงเยอะเย้ย โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ การที่มีป้ายผ้าในเวลาเดียวกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา หากมองย้อนกลับไปก็น่าจะมีการแขวนในลักษณะดังกล่าวหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว หลายฝ่ายมีการตั้งคำถามว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่อย่างไร ขั้นตอนนี้ก็คงจะไม่ยากที่จะทำการพิสูจน์ทราบ หากเจ้าหน้าที่นำป้ายผ้าเก่าๆที่ผู้ไม่หวังดี เคยแขวนไว้ มาทำการเปรียบเทียบ ว่ามีลายมือและตัวอักษร ในแบบเดียวกันหรือไม่ ซึ่งจากการที่ตนเองดูการเขียนข้อความในป้ายผ้าในหลายๆจุด แหล่งผลิต หรือ คนที่เขียน น่าจะมาจากจุดเดียวกัน เพราะลายมือรวมทั้งการวรรคตอนของคำ มีลักษณะเดียวกัน แสดงว่าทั้งหมดนี้ ต้องมีเครือข่ายในการติดตั้ง เพราะมีการติดตั้งในเวลาเดียวกันเกือบจะทุกที่ ตนเองเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็คงจะพิสูจน์ได้ในอนาคต
ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกว่า หากจะให้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นได้ว่าผู้ที่ไปติดตั้งป้ายผ้า อาจจะได้รับคำสั่ง ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหน้าและในเบื้องหลัง ก็คงจะติดตามสถานการณ์และสถานภาพของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด พวกเขาเหล่านั้นจะไม่เรียกว่าไทย แต่จะเรียกว่า เสียม(SIAM) เพราะยังมีความอาฆาตแค้นในเรื่องราวของอดีต ถ้าเป็นลักษณะของการเขียนข้อความเยอะเย้ยแบบนี้ เป็นการลดเครดิด ของคณะที่ไปเจรจาสันติภาพ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัด หาคณะเจรจาชุดนี้จะทำการเจรจาต่อไป ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อให้มีเครดิดที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ หรือ ไม่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็ตาม ตนเองใคร่ขอให้ความคิดเห็นว่า ในเมื่อเริ่มต้นไปได้ดีอยู่แล้ว ก็ควรจะมีการพัฒนาให้ดีกว่าเดิมยิ่งๆขึ้นไป ให้เห็นผลที่ชัดเจน มีการยอมรับในศักยภาพของการเจรจา ตนเองรวมทั้งประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังยืนยันที่จะสนับสนุนให้มีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นอีกในครั้งต่อๆไป โดยจะวิธีใดๆ ก็ตาม โดยการเจรจากับกลุ่มแรก ๆ ก็จะนำไปสู่การเจรจากับอีกหลายๆกลุ่มต่อไป เท่าที่ตนเองได้ติดตามการเจรจาสันติภาพ ที่ผ่านมาก็เป็นที่ยอมรับจากหลายๆฝ่าย หากมีการเจรจาครั้งต่อไป ก็ขึ้นอยู่ที่ศักยภาพของทางรัฐบาล ว่าจะมีศักยภาพและมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน หากรัฐบาลมีศักยภาพและอำนาจจริงในการที่จะคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่หลายฝ่ายต้องการได้ ก็คิดว่าอีกหลายๆกลุ่มจะเข้ามาพูดคุยเพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ได้
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนเองได้รับข้อมูลว่ามีการแขวนป้ายผ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ข้อความว่า SIAM merintah negeri sendini tak mampu.. Apakah lagi untuk merintah bangsa Melayu PATAN มีความหมายว่า “หากสยามปกครองตนเองไม่ได้ จงให้มาลายูปกครองแทน” ซึ่งเป็นการเขียนข้อความเชิงเยอะเย้ย โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ การที่มีป้ายผ้าในเวลาเดียวกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา หากมองย้อนกลับไปก็น่าจะมีการแขวนในลักษณะดังกล่าวหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว หลายฝ่ายมีการตั้งคำถามว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่อย่างไร ขั้นตอนนี้ก็คงจะไม่ยากที่จะทำการพิสูจน์ทราบ หากเจ้าหน้าที่นำป้ายผ้าเก่าๆที่ผู้ไม่หวังดี เคยแขวนไว้ มาทำการเปรียบเทียบ ว่ามีลายมือและตัวอักษร ในแบบเดียวกันหรือไม่ ซึ่งจากการที่ตนเองดูการเขียนข้อความในป้ายผ้าในหลายๆจุด แหล่งผลิต หรือ คนที่เขียน น่าจะมาจากจุดเดียวกัน เพราะลายมือรวมทั้งการวรรคตอนของคำ มีลักษณะเดียวกัน แสดงว่าทั้งหมดนี้ ต้องมีเครือข่ายในการติดตั้ง เพราะมีการติดตั้งในเวลาเดียวกันเกือบจะทุกที่ ตนเองเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็คงจะพิสูจน์ได้ในอนาคต
ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกว่า หากจะให้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นได้ว่าผู้ที่ไปติดตั้งป้ายผ้า อาจจะได้รับคำสั่ง ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหน้าและในเบื้องหลัง ก็คงจะติดตามสถานการณ์และสถานภาพของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด พวกเขาเหล่านั้นจะไม่เรียกว่าไทย แต่จะเรียกว่า เสียม(SIAM) เพราะยังมีความอาฆาตแค้นในเรื่องราวของอดีต ถ้าเป็นลักษณะของการเขียนข้อความเยอะเย้ยแบบนี้ เป็นการลดเครดิด ของคณะที่ไปเจรจาสันติภาพ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัด หาคณะเจรจาชุดนี้จะทำการเจรจาต่อไป ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อให้มีเครดิดที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ หรือ ไม่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็ตาม ตนเองใคร่ขอให้ความคิดเห็นว่า ในเมื่อเริ่มต้นไปได้ดีอยู่แล้ว ก็ควรจะมีการพัฒนาให้ดีกว่าเดิมยิ่งๆขึ้นไป ให้เห็นผลที่ชัดเจน มีการยอมรับในศักยภาพของการเจรจา ตนเองรวมทั้งประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังยืนยันที่จะสนับสนุนให้มีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นอีกในครั้งต่อๆไป โดยจะวิธีใดๆ ก็ตาม โดยการเจรจากับกลุ่มแรก ๆ ก็จะนำไปสู่การเจรจากับอีกหลายๆกลุ่มต่อไป เท่าที่ตนเองได้ติดตามการเจรจาสันติภาพ ที่ผ่านมาก็เป็นที่ยอมรับจากหลายๆฝ่าย หากมีการเจรจาครั้งต่อไป ก็ขึ้นอยู่ที่ศักยภาพของทางรัฐบาล ว่าจะมีศักยภาพและมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน หากรัฐบาลมีศักยภาพและอำนาจจริงในการที่จะคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่หลายฝ่ายต้องการได้ ก็คิดว่าอีกหลายๆกลุ่มจะเข้ามาพูดคุยเพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ได้
ยุทธนา จันทร์วิมาน ส.ปชส.ยะลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น