เมื่อเวลา 14.30 น. ( 7 ก.พ. 57 ) กลุ่มเครือข่ายผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันละหมาดฮายัติขอพรให้พื้นที่เกิดความสันติสุขหลังจากเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงครอบครัวนายเจ๊ะมุ มะมัน จนเป็นเหตุให้บุตรชายของครอบครัวเสียชีวิต 3 คนและนางพาดีละห์ แมยู ภรรยาที่ท้อง 4 เดือนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีการละหมาดพร้อมกันที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอบาเจาะ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ในพิธีละหมาดฮายัติ นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกนพดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นายจำนัล เหมือนดำ ปลัดจังหวัดนราธิวาส และ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมในพิธีด้วย
ด้านนายมะมัน มะอูเซ็ง เลขาอิหม่าม ฆอเต็บ ประจำ อ.บาเจาะ กล่าวว่า อาวุธของชาวมุสลิมคือการวิงวอนขอจากอัลลอฮ์เท่านั้นไม่มีการใช้อาวุธในการเข็ญฆ่ากัน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเจ๊ะมุ ถือเป็นการสูญเสียครั้งที่ยิงใหญ่ของชาวมุสลิมในพื้นที่เพราะเป็นการกระทำที่จงใจให้เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งเปรียบเสมือนผ้าขาว โดยกระทำการของกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรงไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ และเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักศาสนาด้วย
ขณะที่ด้านเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้มีการยืนยันกับกลุ่มที่มาร่วมละหมาดในครั้งนี้ว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้
และหลังจากละหมาดเสร็จสิ้น นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกนพดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และนายเจ๊ะมุ มะมัน ได้ร่วมแถลงข่าวถึงความคืบหน้าทางคดีครั้งนี้ โดยนายเจ๊ะมุ กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเร่งติดตามคดี ซึ่งตนเองขอเพียงให้จับผู้ที่ก่อเหตุให้ได้เท่านั้น ส่วนหลังจากนี้ตนเองก็จะยังคงใช้ชีวิตในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากมีบ้านเกิดอยู่ในพื้นที่ แต่คงจะต้องระมัดระวังตนเองมากขึ้นแต่ก็ไม่รู้จะต้องดูแลตนเองเช่นไร ขณะที่ด้าน รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่าในคดีนี้จะต้องมีการดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนการดูแลเยียวยาครอบครัวถือเป็นหน้าที่หลักของ ศอ.บต.ที่จะต้องดูแลเพื่อครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
ด้าน นาวาเอกนภดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเรือซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.บาเจาะ นั้นหลังจากนี้จะมีการเพิ่มความเข้มสำหรับการดูแลนายเจ๊ะมุ มากขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นมุ่งทำร้ายชีวิตของเจ๊ะมุอย่างชัดเจน ส่วนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติเช่นเดิมต่อไปทั้งการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ ทั้ง เอเค 47 เอ็ม 16 และ 9 มม. นั้นพบว่าปลอกทั้งหมดไม่เคยมีการก่อเหตุในพื้นที่ใดมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนหาแหล่งที่มาของปืน พร้อมกันนี้ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งนายเจ๊ะมุ และภรรยา เพื่อให้ได้เบาะแสของกลุ่มที่ก่อเหตุเพิ่มเติม @import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);
ทั้งนี้ในพิธีละหมาดฮายัติ นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกนพดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นายจำนัล เหมือนดำ ปลัดจังหวัดนราธิวาส และ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมในพิธีด้วย
ด้านนายมะมัน มะอูเซ็ง เลขาอิหม่าม ฆอเต็บ ประจำ อ.บาเจาะ กล่าวว่า อาวุธของชาวมุสลิมคือการวิงวอนขอจากอัลลอฮ์เท่านั้นไม่มีการใช้อาวุธในการเข็ญฆ่ากัน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเจ๊ะมุ ถือเป็นการสูญเสียครั้งที่ยิงใหญ่ของชาวมุสลิมในพื้นที่เพราะเป็นการกระทำที่จงใจให้เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งเปรียบเสมือนผ้าขาว โดยกระทำการของกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรงไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ และเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักศาสนาด้วย
ขณะที่ด้านเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้มีการยืนยันกับกลุ่มที่มาร่วมละหมาดในครั้งนี้ว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้
และหลังจากละหมาดเสร็จสิ้น นายปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาเอกนพดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และนายเจ๊ะมุ มะมัน ได้ร่วมแถลงข่าวถึงความคืบหน้าทางคดีครั้งนี้ โดยนายเจ๊ะมุ กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเร่งติดตามคดี ซึ่งตนเองขอเพียงให้จับผู้ที่ก่อเหตุให้ได้เท่านั้น ส่วนหลังจากนี้ตนเองก็จะยังคงใช้ชีวิตในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากมีบ้านเกิดอยู่ในพื้นที่ แต่คงจะต้องระมัดระวังตนเองมากขึ้นแต่ก็ไม่รู้จะต้องดูแลตนเองเช่นไร ขณะที่ด้าน รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่าในคดีนี้จะต้องมีการดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนการดูแลเยียวยาครอบครัวถือเป็นหน้าที่หลักของ ศอ.บต.ที่จะต้องดูแลเพื่อครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
ด้าน นาวาเอกนภดล ฐิตะวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเรือซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.บาเจาะ นั้นหลังจากนี้จะมีการเพิ่มความเข้มสำหรับการดูแลนายเจ๊ะมุ มากขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นมุ่งทำร้ายชีวิตของเจ๊ะมุอย่างชัดเจน ส่วนการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติเช่นเดิมต่อไปทั้งการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ ทั้ง เอเค 47 เอ็ม 16 และ 9 มม. นั้นพบว่าปลอกทั้งหมดไม่เคยมีการก่อเหตุในพื้นที่ใดมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนหาแหล่งที่มาของปืน พร้อมกันนี้ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งนายเจ๊ะมุ และภรรยา เพื่อให้ได้เบาะแสของกลุ่มที่ก่อเหตุเพิ่มเติม @import url(http://contentcenter.prd.go.th/CuteSoft_Client/CuteEditor/Load.ashx?type=style&file=SyntaxHighlighter.css);@import url(/admin/cuteeditor.css);
นำเสนอโดย โสรายา สาเรป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น