วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 (เวลา 13.10 น.) ที่สำนักสงฆ์ลำยะ ตำบลบาโหย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมงานศพของนายเอกพงศ์ แสนโรจน์ อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงราษฎรที่กำลังรับซื้อน้ำยางพารา บริเวณบ้านคลองเตะ บ้านย่อยบ้านแอและ หมู่ที่ 6 ตำบลกาบัง อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
จากนั้นในวันเดียวกัน เวลา 13.40 น. รองเลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้เดินทางต่อไปยังวัดบ้านไร่ ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมงานศพของนางสาวทิพย์วดี ทองสองแก้ว อายุ 21 ปี และนางสาวดวงเดือน ร่มบัว อายุ 35 ปี (แม่เลี้ยงของนางสาวทิพย์วดี) ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ เด็กชายพิพัฒน์ชัย ทองสองแก้ว อายุ 6 ปี (น้องชายของนางสาวทิพย์วดี) มีบาดแผลกระสุนปืนเฉี่ยวบริเวณศีรษะ นอกจากนี้ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้พูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัวจำนวนหนึ่ง
ด้านนางพัชรินทร์ นิวาสวุฒิกิจ ญาติของผู้สูญเสียกล่าวขอบคุณ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ที่มาให้กำลังใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ให้ตนได้ย้ายมาเป็นครูสอนในโรงเรียนใกล้บ้าน เพื่อสะดวกในการเดินทางมาเลี้ยงหลาน อายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังฝากว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกินกำลังที่ชาวบ้านจะเตรียมรับมือได้ทัน วินาทีนั้นทุกคนต้องเอาตัวรอด อยากให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านระวังตัวในการใช้ชีวิต ไม่อยากให้นำเรื่องของศาสนามาเกี่ยวข้อง และไม่อยากให้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
จากนั้นในวันเดียวกัน เวลา 13.40 น. รองเลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้เดินทางต่อไปยังวัดบ้านไร่ ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมงานศพของนางสาวทิพย์วดี ทองสองแก้ว อายุ 21 ปี และนางสาวดวงเดือน ร่มบัว อายุ 35 ปี (แม่เลี้ยงของนางสาวทิพย์วดี) ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ เด็กชายพิพัฒน์ชัย ทองสองแก้ว อายุ 6 ปี (น้องชายของนางสาวทิพย์วดี) มีบาดแผลกระสุนปืนเฉี่ยวบริเวณศีรษะ นอกจากนี้ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้พูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัวจำนวนหนึ่ง
ด้านนางพัชรินทร์ นิวาสวุฒิกิจ ญาติของผู้สูญเสียกล่าวขอบคุณ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ที่มาให้กำลังใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ให้ตนได้ย้ายมาเป็นครูสอนในโรงเรียนใกล้บ้าน เพื่อสะดวกในการเดินทางมาเลี้ยงหลาน อายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังฝากว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกินกำลังที่ชาวบ้านจะเตรียมรับมือได้ทัน วินาทีนั้นทุกคนต้องเอาตัวรอด อยากให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านระวังตัวในการใช้ชีวิต ไม่อยากให้นำเรื่องของศาสนามาเกี่ยวข้อง และไม่อยากให้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น