ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อำเภอหัวไทร และ อ.เชียรใหญ่
วันนี้ (20 ก.พ.57) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนและผู้นำหมู่บ้านชุมชน เพื่อนำมาหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปรับปรุงดินเปรี้ยว ตามทฤษฎีแกล้งดินบ้านควนโถ๊ะ หมู่ที่ 10 ต.แหลม อ.หัวไทร ซึ่งศูนย์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว โดยนำรูปแบบการพัฒนาในพื้นที่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริมาขยายผล โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงาน กปร. มาตั้งแต่ปี 2552 ครอบคลุมพื้นที่ 4,000 ไร่ ให้สามารถกลับทำการเกษตรได้ตามปกติ เช่น ปลูกข้าว พืชผัก ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น แต่ที่ดินเกษตรกรบางส่วนไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ แม้ว่าจะมีการเดินสำรวจรังวัดที่ดินเพื่อออกเอกสารสิทธิ์แล้วก็ตาม เนื่องจากมีการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทำให้พื้นที่บางส่วนกลับไปอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยในเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นายอำเภอหัวไทร ไปตั้งเรื่องเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ กบร.นครศรีธรรมราช.เพื่อแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนต่อไป หรืออีกทางคือให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมกลุ่มกันไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อพิสูจน์สิทธิ์การถือครองที่ดินว่าได้มาก่อนหรือหลังการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าบ้านเกาะสำโรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (คลองชะอวด-แพรกเมือง) หมู่ที่ 5 ต.แหลม อ.หัวไทร โดยมีเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช ร่วมให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปถึงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมอาคารประกอบ ประตูระบายน้ำ แต่ละแห่งต้องใช้งบประมาณ 23 ล้านบาท โดยโครงการชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สำรวจและออกแบบการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชไว้แล้ว พร้อมเสนอของบประมาณไปยังกรมชลประทาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดยินดีสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนงานของชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ
ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ ซึ่งศูนย์แห่งนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชีนาถ ทรงพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อส่งเสริมงานด้านศิลปาชีพให้กับราษฎรในพื้นที่ และหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น การทอผ้า แปรรูปกระจูด เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎร ให้มีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ได้รับมอบหมายจากศูนย์กลางศิลปาชีพสวนจิตรลดา ให้เป็นผู้ทอผ้าไหมยกดอกดิ้นทอง เพื่อใช้สำหรับเป็นเครื่องแต่งกายของโขนอีกด้วย
วันนี้ (20 ก.พ.57) นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนและผู้นำหมู่บ้านชุมชน เพื่อนำมาหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปรับปรุงดินเปรี้ยว ตามทฤษฎีแกล้งดินบ้านควนโถ๊ะ หมู่ที่ 10 ต.แหลม อ.หัวไทร ซึ่งศูนย์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยกรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว โดยนำรูปแบบการพัฒนาในพื้นที่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริมาขยายผล โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงาน กปร. มาตั้งแต่ปี 2552 ครอบคลุมพื้นที่ 4,000 ไร่ ให้สามารถกลับทำการเกษตรได้ตามปกติ เช่น ปลูกข้าว พืชผัก ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น แต่ที่ดินเกษตรกรบางส่วนไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ แม้ว่าจะมีการเดินสำรวจรังวัดที่ดินเพื่อออกเอกสารสิทธิ์แล้วก็ตาม เนื่องจากมีการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทำให้พื้นที่บางส่วนกลับไปอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยในเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นายอำเภอหัวไทร ไปตั้งเรื่องเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ กบร.นครศรีธรรมราช.เพื่อแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนต่อไป หรืออีกทางคือให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมกลุ่มกันไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อพิสูจน์สิทธิ์การถือครองที่ดินว่าได้มาก่อนหรือหลังการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าบ้านเกาะสำโรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (คลองชะอวด-แพรกเมือง) หมู่ที่ 5 ต.แหลม อ.หัวไทร โดยมีเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช ร่วมให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปถึงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมอาคารประกอบ ประตูระบายน้ำ แต่ละแห่งต้องใช้งบประมาณ 23 ล้านบาท โดยโครงการชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สำรวจและออกแบบการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชไว้แล้ว พร้อมเสนอของบประมาณไปยังกรมชลประทาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดยินดีสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนงานของชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ
ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ ซึ่งศูนย์แห่งนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชีนาถ ทรงพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพื่อส่งเสริมงานด้านศิลปาชีพให้กับราษฎรในพื้นที่ และหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น การทอผ้า แปรรูปกระจูด เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎร ให้มีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ได้รับมอบหมายจากศูนย์กลางศิลปาชีพสวนจิตรลดา ให้เป็นผู้ทอผ้าไหมยกดอกดิ้นทอง เพื่อใช้สำหรับเป็นเครื่องแต่งกายของโขนอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น