วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ตำรวจดภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้กลอุบายและกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์กรณีรถยนต์

ตำรวจภูธรเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่เช่ารถหรูและเชิดหนี ในห้วง 3 ปี มีเป้าหมายรถยนต์สูญหาย สูงถึง 52 คัน บางส่วนส่งขาย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศมาเลเซีย

กลุ่มเจ้าของรถยนต์จากเต็นท์รถเช่าต่างๆ ใน จังหวัดภูเก็ตประมาณ 10 คนเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอดูตัวนางสุกัญญา จันทนารักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/16 ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้กลอุบายและกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับที่ จ.256/2555 สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล และอีกหลายหมายของ สถานีตำรวจภูธรฉลอง,เมืองภูเก็ตและสถานีตำรวจภูธรถลางเป็นต้น หลังจากที่ พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ หัวหน้าชุดสอบสวนจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านทอง ถนนศรีสุนทร ตำบลเชิงทะเลเมื่อช่วงเย็นวันที่4 พฤษภาคมนี้

พนักงานสอบสวนแจ้งว่าเนื่องจากตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา นางสุกัญญา จันทนารักษ์ มีพฤติกรรมไปหลอกเช่ารถยนต์ที่มีราคาแพง ตามเต็นท์รถเช่า ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเกาะภูเก็ต โดยเฉพาะรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ,ฮอนด้าซีอาร์วี ,ซีวิค และรถยนต์เก๋งต่างๆ โดยทำทีมาเช่าต่อเนื่องเป็นเวลานาน 1 เดือนโดย ให้ราคาสูงถึง 20,000 -70,000 บาทและมี นางสาวสุภาลักษณ์ ครุฑมณี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/38 ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากที่เช่าไปแล้ว กลับไม่มีการส่งคืนแต่มักจะนำรถยนต์คันที่เช่าส่งไปขายต่อทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้เจ้าของเต็นท์รถเช่าบางราย ยังถูกนางสุกัญญา จันทนารักษ์ โทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่โดยตรง คือหากต้องการอยากได้รถยนต์คืน ต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเท่านั้น และเมื่อมีการโอนเงินแล้ว ผู้เสียหายจะต้องไปจ่ายเงินค่าไถ่จากนายทุนคนที่นางสุกัญญา จันทนารักษ์ นำรถยนต์ไปจำนำไว้อีกต่างหาก และผู้ประกอบการรถเช่าบางราย มีรถสูญหายไปในกระบวนการยักยอกทรัพย์ไปมากถึง 10 คัน เนื่องจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม พยายามทำตัวเข้าไปตีสนิทและไปเช่าเป็นประจำ คือ ในช่วงแรกขอเช่า 1-3 วันก่อนที่จะขอเช่าเป็นเดือน โดยอ้างว่าทำธุรกิจหลายอย่างและมีแขกมากเป็นต้นจากนั้นยังทยอยเข้ามาเช่าวันเว้นวันจากนั้นได้โอกาส ที่เจ้าของเต็นท์รถเช่าตายใจ จึงเชิดรถหนีไปหรือโทรศัพท์กลับมาที่เต็นท์รถเพื่อเรียกค่าไถ่รถยนต์

พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ หัวหน้าชุดสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล กล่าวว่าหลังจากมารับตำแหน่ง ได้ตรวจสอบดูคดีค้างเก่าต่างๆ และพบว่านางสุกัญญา จันทนารักษ์ เป็นผู้ต้องหาที่เคยจับในคดีการพนันเนื่องจากเป็นนักเล่นการพนันตัวยงหลายครั้ง โดยมีหมายจับในคดีลักทรัพย์เฉพาะในสถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล 5 คดี และที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต, ถลาง,ฉลองและสถานีตำรวจภูธรกะทู้ แห่งละ 1 คดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รวบรวมรถยนต์ที่นางสุกัญญา จันทนารักษ์ เชิดหายไปมากถึง 52 คัน ในระยะเวลาเพียง 3 ปีและในวันนี้ จากการที่ได้สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าจะนำเงินที่ได้จากการจำนำสร้อยคอทองคำไปเช่ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ตามที่มีใบสั่้งมาแต่ไม่ทันได้เช่าแต่มาถูกจับเสียก่อน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยตรวจยึดและอายัดรถยนต์ ที่มีนายธนธัติ เอกบุตร อยู่บ้านเลขที่ 76/1 หมู่ที่9 ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี อ้างเป็นผู้ครอบครองรถยนต์รวมทั้งหมด 16 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า รับซื้อ มาจากกลุ่มของ นางสุกัญญา จันทนารักษ์ และนางสาวสุภาลักษณ์ ครุฑมณี และทั้งคู่มีพฤติกรรม ยื่นทำบัตรประชาชนและเปลี่ยนแปลงชื่อและสกุล มาแล้วหลายสิบครั้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้องพัวพันอีกหลายคน และเป็นขบวนการใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น