เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายสุรทิน เลี่ยนอุดม ทนายความ และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต และอดีตแกนนำ กปปส.จังหวัดภูเก็ต ที่เปลี่ยนบทบาท มาตั้งตัวเป็นแกนนำ ที่อ้างว่า คือ กลุ่มกบฏรักชาติจังหวัดภูเก็ต พร้อมผู้สนับสนุน จำนวนหนึ่งชุมนุมรวมตัวกัน ที่บริเวณศูนย์ราชการกระทรวงการคลังจังหวัดภูเก็ต โดยมีเป้าหมาย ปักหลักชุมนุม จนกว่า จะได้รับชัยชนะ หรือ รอการประสานงาน การเคลื่อนไหว จาก กปปส. กรุุงเทพมหานคร และสำหรับล่าสุด มีประชาชนร่วมบริจาคเงินได้รวม 1,192,600 บาท โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ แกนนำ มีกำหนดจะนำไปมอบให้นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จำนวน 1,000,000บาทเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหว ส่วนที่เหลืออีก 192,600 บาท จะนำมาใช้ เคลื่อนไหว ที่เวทีกลุ่มกบฏรักชาติจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีมาลีฮ่วนน่า ที่บริเวณศูนย์ราชการกระทรวงการคลังจังหวัดภูเก็ตด้วย
สำหรับเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่ธนาคารออมสินสาขาภูเก็ต ถนนพังงา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ประชาชนทุกเพศทุกวัยที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตที่เป็นลูกค้าของธนาคาร เดินทางมาติดต่อพนักงาน เป็นวันที่ 2และพบว่า มีบางราย ที่เป็นผู้สูงอายุ เป็นลูกค้าเก่าแก่มา เป็นเวลานานถึง 30-40 ปี และจากยอดการรับบัตรคิว ในช่วงเช้า มีสูงถึงประมาณ 400 กว่าบัตร และแจ้งความประสงค์ว่าขอถอนเงินจากบัญชีประเภทต่างๆ รวมทั้ง สลากออมสินและปิดบัญชีไปจำนวนหนึ่ง เนื่องจาก มีความตื่นกลัว ว่า ธนาคารจะเอาเงินฝากของตน ไปให้ ธกส.กู้ และจ่ายเงินให้กับชาวนา ตามนโยบายรัฐบาล แม้ว่า ผู้บริหารธนาคาร พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงว่าธนาคารดำเนินการตามปกติ ที่เป็นลักษณะของ Inter-Bankก็ตาม แต่กลับไม่เป็นผล นอกจากนี้กลุ่มพนักงานธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ตทั้งชายและหญิงยังแต่งกายด้วยชุดดำและชุดขาวร่วมด้วย อย่างไรก็ดี มีประชาชนส่วนหนึ่ง ที่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลเพื่อชาวนา และเป็นปัญหาการเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ไปติดต่อซื้อสลากออมสิน เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้พนักงานของธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต จ่ายเป็นเช็คเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คให้แก่ลูกค้าธนาคารที่มาถอนเงินในวงเงินที่สูง และจ่ายเป็นเงินสดในรายที่ถอนเป็นเงินหลัก10,000บาท และประชาชน ที่ มาติดต่อธนาคาร ให้เหตุผล ในทำนองที่คล้ายคลึงกันว่า การตัดสินใจถอนเงิน เป็นเพราะไม่มั่นใจในความมั่นคงของธนาคารออมสินและไม่พอใจรัฐบาลที่สั่งให้ธนาคารออมสินทำธุรกรรม Inter-Bank และเข้าใจว่าเป็นการปล่อยเงินกู้ไปให้ ธ.ก.ส. และ ธกส.จะนำเงินไปจ่ายหนี้ให้แก่ชาวนา และในกรณีที่ประชาชน ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ หรือมียอดเงินฝากสูง ผู้จัดการธนาคารออมสิน เชิญไปพูดคุยให้ห้องทำงานเพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริง ในเหตการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอร้องไม่ให้ถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งจะมาถึงภูเก็ตในช่วงบ่ายวันนี้
สำหรับเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่ธนาคารออมสินสาขาภูเก็ต ถนนพังงา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ประชาชนทุกเพศทุกวัยที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตที่เป็นลูกค้าของธนาคาร เดินทางมาติดต่อพนักงาน เป็นวันที่ 2และพบว่า มีบางราย ที่เป็นผู้สูงอายุ เป็นลูกค้าเก่าแก่มา เป็นเวลานานถึง 30-40 ปี และจากยอดการรับบัตรคิว ในช่วงเช้า มีสูงถึงประมาณ 400 กว่าบัตร และแจ้งความประสงค์ว่าขอถอนเงินจากบัญชีประเภทต่างๆ รวมทั้ง สลากออมสินและปิดบัญชีไปจำนวนหนึ่ง เนื่องจาก มีความตื่นกลัว ว่า ธนาคารจะเอาเงินฝากของตน ไปให้ ธกส.กู้ และจ่ายเงินให้กับชาวนา ตามนโยบายรัฐบาล แม้ว่า ผู้บริหารธนาคาร พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงว่าธนาคารดำเนินการตามปกติ ที่เป็นลักษณะของ Inter-Bankก็ตาม แต่กลับไม่เป็นผล นอกจากนี้กลุ่มพนักงานธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ตทั้งชายและหญิงยังแต่งกายด้วยชุดดำและชุดขาวร่วมด้วย อย่างไรก็ดี มีประชาชนส่วนหนึ่ง ที่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลเพื่อชาวนา และเป็นปัญหาการเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ไปติดต่อซื้อสลากออมสิน เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้พนักงานของธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต จ่ายเป็นเช็คเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คให้แก่ลูกค้าธนาคารที่มาถอนเงินในวงเงินที่สูง และจ่ายเป็นเงินสดในรายที่ถอนเป็นเงินหลัก10,000บาท และประชาชน ที่ มาติดต่อธนาคาร ให้เหตุผล ในทำนองที่คล้ายคลึงกันว่า การตัดสินใจถอนเงิน เป็นเพราะไม่มั่นใจในความมั่นคงของธนาคารออมสินและไม่พอใจรัฐบาลที่สั่งให้ธนาคารออมสินทำธุรกรรม Inter-Bank และเข้าใจว่าเป็นการปล่อยเงินกู้ไปให้ ธ.ก.ส. และ ธกส.จะนำเงินไปจ่ายหนี้ให้แก่ชาวนา และในกรณีที่ประชาชน ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ หรือมียอดเงินฝากสูง ผู้จัดการธนาคารออมสิน เชิญไปพูดคุยให้ห้องทำงานเพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริง ในเหตการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอร้องไม่ให้ถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมด และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งจะมาถึงภูเก็ตในช่วงบ่ายวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น