วันที่ 13 ก.พ.57 ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ นายอำเภอเมืองภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 1 โครงการศึกษาความเหมาะสมในการลงทุน โครงการวางท่อส่งน้ำดิบจากเขื่อนรัชชประภาไปเกาะภูเก็ต ซึ่งทางการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับบริษัท โปรเกรส เทคโนโลยี คอนซัลเแท็นส์ จำกัด จัดขึ้น มีนายพิศักดิ์ ชลยุทธ์ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต ผู้แทนจากการประปาส่วนภูมิภาค บริษัทที่ปรึกษา ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ต.ไม้ขาว ต.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ต.เกาะแก้ว ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต และ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เข้าร่วม
นายยงยุทธ พึ่งวงศ์ญาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ด้วย ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงาและภูเก็ต อาจส่งผลให้แหล่งน้ำดิบที่ใช้เพื่ออุปโภคและบริโภคไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การประปาส่วนภูมิภาค จึงมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำดิบสำหรับอุปโภคและบริโภคในระยะยาวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่นจำกัด และบริษัท โปรเกรส เทค โนโลยี คอนซัลแท็นส์ จำกัด ทำการศึกษาความเหมาะสมในการลงทุนโครงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา หรือแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงที่มีศักยภาพเพียงพอไปยังเกาะภูเก็ต เพื่อใช้ในกิจการประปา การเกษตรและอื่นๆ ให้เพียงพอในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า และให้ครอบคลุมความต้องการ ใช้น้ำในอนาคตที่อาจจะมีขึ้นของชุมชนตามแนวท่อส่งน้ำที่ผ่านบางพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา โดยมีระยะเวลาศึกษาโครงการ 420 วัน
“การประปาส่วนภูมิภาค ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 เพื่อนำเสนอ ข้อมูลโครงการอย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 6 และ 7 พฤศจิกายน 25566 ที่ผ่านมา และได้นำผลความคิดเห็นจากที่ประชุมมาประกอบการศึกษาจนได้ แนวทางเลือกในการ พัฒนาจึงได้มีการนำมาเสนอเพื่อขอรับความคิดเห็นในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องใน จ.ภูเก็ต เพื่อนำเสนอแนวทางเลือกในการพัฒนาโครงการ และเปิดเวทีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มร่วมแสดงความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ และแนวทางในการลดผลกระทบที่อาจมีขึ้น เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามหลักวิชาการและเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด” นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ พึ่งวงศ์ญาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ด้วย ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงาและภูเก็ต อาจส่งผลให้แหล่งน้ำดิบที่ใช้เพื่ออุปโภคและบริโภคไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การประปาส่วนภูมิภาค จึงมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำดิบสำหรับอุปโภคและบริโภคในระยะยาวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่นจำกัด และบริษัท โปรเกรส เทค โนโลยี คอนซัลแท็นส์ จำกัด ทำการศึกษาความเหมาะสมในการลงทุนโครงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา หรือแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงที่มีศักยภาพเพียงพอไปยังเกาะภูเก็ต เพื่อใช้ในกิจการประปา การเกษตรและอื่นๆ ให้เพียงพอในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า และให้ครอบคลุมความต้องการ ใช้น้ำในอนาคตที่อาจจะมีขึ้นของชุมชนตามแนวท่อส่งน้ำที่ผ่านบางพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา โดยมีระยะเวลาศึกษาโครงการ 420 วัน
“การประปาส่วนภูมิภาค ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 เพื่อนำเสนอ ข้อมูลโครงการอย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 6 และ 7 พฤศจิกายน 25566 ที่ผ่านมา และได้นำผลความคิดเห็นจากที่ประชุมมาประกอบการศึกษาจนได้ แนวทางเลือกในการ พัฒนาจึงได้มีการนำมาเสนอเพื่อขอรับความคิดเห็นในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องใน จ.ภูเก็ต เพื่อนำเสนอแนวทางเลือกในการพัฒนาโครงการ และเปิดเวทีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มร่วมแสดงความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ และแนวทางในการลดผลกระทบที่อาจมีขึ้น เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามหลักวิชาการและเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด” นายยงยุทธ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น