ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ประชุมสรุปอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 เกิดอุบัติเหตุ 18 ครั้ง บาดเจ็บ 23 คน เสียชีวิต 2 ราย กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น
วันที่ 18 เม.ย. 57 เวลา 9.30 น. ที่ห้องประชุมพลับพลึงธาร ศาลากลางจังหวัดระนอง ว่าที่ร้อยตรีเชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผวจ.ระนอง เป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง เทศกาลสงกรานต์ จังหวัดระนอง โดยมีนายศุภวัชร ศักดา รองผวจ.ระนอง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม พร้อมกับการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมกันทั่วประเทศในการรายงานผลการปฏิบัติงานในภาพรวม
สำหรับจังหวัดระนองสรุปยอด 7 วัน มีอุบัติเหตุจำนวน 18 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10 คน และผู้เสียชีวิต 2 คน ที่อ.กระบุรี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 คน ส่วน อ.สุขสำราญ เป็น อ.เดียวที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วงของ 7 วันอันตราย
นอกจากนี้ได้มีการสรุปยอดการดำเนินคดีจากมาตรการ 3 ม. 2ข. 1ร. พบว่า จากการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พบมีผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่มากที่สุด รองลงมาคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้มีการสั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มขึ้น
วันที่ 18 เม.ย. 57 เวลา 9.30 น. ที่ห้องประชุมพลับพลึงธาร ศาลากลางจังหวัดระนอง ว่าที่ร้อยตรีเชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผวจ.ระนอง เป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง เทศกาลสงกรานต์ จังหวัดระนอง โดยมีนายศุภวัชร ศักดา รองผวจ.ระนอง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม พร้อมกับการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมกันทั่วประเทศในการรายงานผลการปฏิบัติงานในภาพรวม
สำหรับจังหวัดระนองสรุปยอด 7 วัน มีอุบัติเหตุจำนวน 18 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10 คน และผู้เสียชีวิต 2 คน ที่อ.กระบุรี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 คน ส่วน อ.สุขสำราญ เป็น อ.เดียวที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วงของ 7 วันอันตราย
นอกจากนี้ได้มีการสรุปยอดการดำเนินคดีจากมาตรการ 3 ม. 2ข. 1ร. พบว่า จากการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พบมีผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่มากที่สุด รองลงมาคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้มีการสั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น