วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

ผวจ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจ “ภูเก็ตบันจี้จัมป์” ชี้ก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาต เตรียมตรวจสอบบันจี้จัมป์อีก 3 แห่งในพื้นที่

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 20 เม.ย.57 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรี ตำบลฉลอง นายสิชล เหมือนเลื่อน รักษาการผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลตำบลฉลอง สมาชิกสภาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ ภูเก็ตบันจี้จัมป์ ซอยศาลเจ้ากวนอู หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง เมือง จ.ภูเก็ต ภายหลังหุ้นส่วนของโครงการ ช่างประจำโครงการ และอาสาสมัครประสบอุบัติเหตุสายสลิงดึงกระเช้าขาด จนทำให้กระเช้าเหล็กตกจากความสูง 52 เมตร ลงมาสู่พื้นจนมีผู้เสียชีวิตคาที่ จำนวน 2 คน และบาดเจ็บ 1 คน โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายไมตรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการดังกล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้มาติดตามตรวจสอบใน 4 เรื่อง คือ 1.เรื่องการขออนุญาตก่อสร้างจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้พบว่ามีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีการก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาต ซึ่งการขออนุญาตมีการขอก่อสร้างอาคาร 3 หลัง รวมทั้งตัวอาการบันจี้จัมป์ ทั้งพบว่ามีการก่อสร้างอาคารบริการติดกับอาคารบันจี้จัมป์ ในใบขออนุญาตจะต้อสร้างแยกจากกันที่สำคัญที่พบว่า การก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตคือ ตัวอาคารบันจี้จัมป์ ที่อนุญาตให้ก่อสร้างได้ที่ความสูงเพียงแค่ 12 เมตร เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมสิ่งแวดล้อม แต่ปรากฏว่า ทางโครงการไปสร้างสูงถึง 52 เมตร ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ยื่นขออนุญาต ซึ่งทราบว่าก่อนสงกรานต์ทางเจ้าหน้าที่ของทาง อบต.ได้แจ้งเตือนด้วยวาจาให้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว

นายไมตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องที่ 2 ที่ลงมาตรวจสอบในครั้งนี้ คือ มูลเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความผิดพลาดทางด้านวิศวกรรม และความผิดพลาดจากคนที่สะเพร่า และประมาท เพราะช่วงที่มีการทดสอบนั้นทดสอบในเวลากลางคืนซึ่งแสงสว่างมีไม่เพียงพอ นอกจากนั้น คนที่ทดลองไม่มีประสบการณ์ และไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งการเล่นกับความเสี่ยงจะต้องเป็นมืออาชีพ และมีมาตรฐานมากพอเพราะกิจกรรมแบบนี้เสี่ยงกับชีวิตคน จำเป็นที่จะต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพ และสถานที่การบริการต้องได้มาตรฐาน

ส่วนเรื่องที่3 ที่ลงมาตรวจสอบในครั้งนี้ นายไมตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของการดำเนินคดี ซึ่งคดีกรณีมีผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการเพื่อเอาผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ขึ้น ส่วนเรื่องของการก่อสร้างอาคารไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาต เจ้าหน้าที่จะต้องนำข้อมูลไปแจ้งต่อทางทางตำรวจเพื่อดำเนินคดีในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งเรื่องของการใช้อาคาร ทางผู้ประกอการยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตใช้อาคาร ซึ่งถ้ามีการยื่นขอเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งว่าการก่อสร้างเป็นไปตามที่ขออนุญาต และจะอนุญาตให้ใช้อาคารหรือไม่

สำหรับเรื่องเรื่องที่ 4 คือ เรื่องของการป้องกันเพื่อให้ให้เกิดเหตุซ้ำ จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการบันจี้จัมป์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งมีอีก 3 แห่ง ว่า การเปิดให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ แม้ว่าสถานบริการเหล่านั้นจะเปิดให้บริการอยู่แล้วก็ตาม ก็จะต้องมีการตรวจซ้ำเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก เพราะกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงต่อชีวิตคน การให้บริการกับสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่มีความเป็นมืออาชีพจะต้อหยุดไปก่อน เมืองภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ การประกอบอาชีพทุกอย่างจะต้องเป็นมืออาชีพเท่านั้น

นายไมตรี กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากจะฝากไปยังผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่จะทำกิจกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และการสร้างอาคารที่เกี่ยวกับความเสี่ยงทั้งหลาย ว่า จะต้องทำให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และที่สำคัญ จะต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นจากการสร้างอาคารที่ไม่ถูกต้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น