วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดกระบี่ เปิดโครงการ ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี ( ปลูกเตยปาหนันและปักดำในแปลงนาสาธิต)


จังหวัดกระบี่เปิดโครงการ ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี ( ปลูกเตยปาหนันและปักดำในแปลงนาสาธิต)

วันนี้ 12 สิงหาคม 2557 เวลา 13.30 น. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดโครงการปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี ประจำปี 2557 ณ.อาคารเฉลิมพระเกียรติทุ่งแค บ้านร่าหมาด หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยมีนายวาทกานต์ ช่อแก้ว พัฒนาการจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าการเปิดโครงการ ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี ( ปลูกเตยปาหนันและปักดำในแปลงนาสาธิต)มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาและเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่างๆโดยเฉพาะการทำมาหากิน โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริจึงเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการพัฒนาปัจจัยการผลิตต่างๆเช่น ดินน้ำ ที่ทำกิน และความรู้ด้านการเกษตรกรรม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จังหวัดกระบี่ได้สนองพระราชดำริ โดยดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งหมด 13 โครงการ ซึ่งจะมีการพัฒนาและต่อยอดขยายผลให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมปลูกต้นกล้าพันธ์เตยปาหนันในพื้นที่บ้านร่าหมาด ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา จำนวน 1000 ต้น และการปักดำในแปลงนาสาธิตจำนวน 2 แปลง จึงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการส่งเสริมอาชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี



หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

ผู้ว่าฯ ตรังและพสกนิกรชาวตรังร่วมใจตักบาตรถวายแม่ของแผ่นดิน

วันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 07.00 น. ที่บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางณัฐพิศุทธิ์ เหมทานนท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร และประชาชนชาวตรัง นำอาหารหวานคาว และข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมดอกไม้ธูปเทียน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 83 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ซึ่งนับเป็นมหามงคลยิ่งอีกวาระหนึ่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อปวงชนชาวไทย

จังหวัดตรังจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและกล่าวถวายพระพรชัยมงคลเพื่อเทิดพระ เกียรติและถวายความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสงานเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพร และถวายเครื่องราชสักการะและกล่าวคำอาศิรวาทราชสดุดีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลเพื่อเทิดพระเกียรติและถวายความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสงานเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ครบรอบ 82 พรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 นอกจากนี้ ยังมีการลงนามถวายพระพรและร้องเพลงสดุดีเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินินาถ โดยมีข้าราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

จังหวัดตรัง ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 380 คน เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ที่เรือนจำจังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมโครงการ กาชาดตรัง เลี้ยงอาหารผู้ต้องขังหญิง เนื่องในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้พระราชทานเลี้ยงแก่ผู้ตกงาน และประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สร้างความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาแก่ผู้ต้องขังหญิงและประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมี นางณัฐพิศุทธิ์ เหมทานนท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง พร้อมด้วยข้าราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ชมรมแม่บ้านมหาดไทย ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดตรัง สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดตรัง เข้าร่วมพิธี สำหรับกิจกรรมงานมีการแสดง และการขับร้องเพลงของผู้ต้องขังหญิง เพื่อระลึกถึงพระคุณแม่ ตลอดจนผู้ที่ให้การอุปการะเลี้ยงดู โดยผู้ต้องขังหญิงรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข และยืนยันว่าจะประพฤติตัวเป็นคนดี เมื่อพ้นโทษ เพื่อถวายเป็นราชสักการะ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาของพระองค์ท่าน และอาหารที่พระราชทานเลี้ยงในวันนี้ประกอบด้วยข้าวหมกไก่ ขนมจีน และไอศกรีม นอกจากนี้ นางจุรี มูลเมฆ ประธานแม่ดีเด่นแห่งชาติจังหวัดตรัง ได้มอบเงินสมทบทุนโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันอีกด้วย

พสกนิกรชาวตรัง ร่วมถวายราชสดุดี จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

ค่ำวันนี้ (12 ส.ค.57) พสกนิกรชาวจังหวัดตรังทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีถวายราชสดุดีและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 โดยตั้งแต่เวลา 18.00 น. ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมถวายเครื่องราชสักการะ พร้อมชมวีดีทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ และนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประกอบพิธีวางพานพุ่ม และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกับกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพสกนิกรชาวตรังทุกหมู่เหล่า ต่างร่วมผนึกดวงใจ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ที่นับเป็นมหามงคลยิ่งอีกวาระหนึ่ง จากนั้นร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา และจุดพลุดอกไม้ไฟ จำนวน 82 นัด เป็นอันเสร็จพิธี

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2557

เช้าวันนี้ (12 ส.ค.57) ที่บริเวณสวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยข้าราชการทุกหมู่เหล่า พ่อค้า ประชาชน จำนวนมากร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ทั้งนี้นอกจากกิจกรรมทำบุญตักบาตรแล้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมและการประกอบพิธีเพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาทิ การประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพร ณ หอประชุมเมืองเทศบาล ในเวลา 08.30 น. ทั้งนี้ทางสำนักพระราชวัง ยังเปิดให้ส่วนราชการต่าง ๆ และประชาชนทั่วไปได้ลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ พระตำหนักประทับแรมอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. และภาคค่ำในเวลา 18.30 น. กำหนดให้มีการประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ(พุ่มดอกมะลิ) และจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช



อุไรวรรณ /ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช รับบริจาคโลหิตวันแม่ 12 สิงหาคม 2557

นครศรีธรรมราช รับบริจาคโลหิตวันแม่ 12 สิงหาคม 2557

วันนี้ (12 สิงหาคม 2557) ที่ตึกเฉลิมพระบารมี โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช นางเลขา ซื่อธานุวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เยี่ยมผู้บริจาคโลหิต ซึ่งทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ได้เปิดรับบริจาคโลหิตจากประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี โดยมีประชาชนในพื้นที่ทั้งชายและหญิงจำนวนมากเข้าคิวบริจาคโลหิตกันตั้งแต่เช้า และเดินทางมาบริจาคโลหิตกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยได้ตั้งเป้ารับบริจาคโลหิตในครั้งนี้ไว้ 180 ราย มีผู้มาบริจาคโลหิตแล้ว 150 ราย

นางเลขา ซื่อธานุวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำหรับการบริจาคโลหิตในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถแล้ว ยังเป็นการเก็บสำรองโลหิตไว้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้ภายหลังประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย การผ่าตัด การรักษาชีวิต ต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และโรงเรียนในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ยังขาดแคลนโลหิตในหมู่โลหิตต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก



พรรณี กลสามัญ/ภาพ-ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช // 12 สิงหาคม 2557

ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกหมู่เหล่า ร่วมลงนามถวายพระพร

ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกหมู่เหล่า ร่วมลงนามถวายพระพรและกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 09.09 น. ที่หอประชุมเมือง เทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยจัดให้มีพิธีทางศาสนาของพระสงสมณะศักดิ์ 10 รูป มีหัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัด ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษาและกลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานมอบเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปี 2557 จำนวน 4 ราย คือ นางอุบล ชูเรืองสุข อำเภอพระพรหม ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม นางนวลจันทร์ ชูพันธ์ อำเภอขนอม ประเภทแม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร นางกำจอย พันธ์งาม อำเภอทุ่งสง ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และนางบุญยิ่ง สวัสดี อำเภอช้างกลาง ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ส่วนแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2557 จำนวน 2 ราย ได้เดินทางไปรับประทานพระบรมฉายาลักษณ์พระราชทานในงานวันแม่แห่งชาติ ปี 2557 ณ อาคารใหม่สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร

และวันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 18.30 น. ขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ(พานพุ่มดอกมะลิ) จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ มณฑลพิธีสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช และหน้าที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมลงนามถวายพระพร

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ พระตำหนักประทับแรมอำเภอปากพนัง

วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 11.00 น. ที่พระตำหนักประทับแรมอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางเลขา ซื่อธานุวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัด ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษาและกลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่าร่วมลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความสมัครสมานสามัคคี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวนครศรีธรรมราช

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำส่วนราชการและประชาชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๘๓ รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำส่วนราชการและประชาชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๘๓ รูป

ส่วนราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจและองค์กรภาคประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๘๓ รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา

เช้าวันนี้ (๑๒ ส.ค.๕๗) นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๘๓ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ หน้าศาลากลางจังหวัดพังงา ซึ่งมี หน่วยงานภาคราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงารักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำข้าราชการ พลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ลงนามถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ

วันนี้ (๑๒ ส.ค. ๕๗) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำน้ำผุด นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลและกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ โดย พิธีเริ่มด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำข้าราชการ พลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ลงนามถวายพระพร จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล และเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะ ถวายพานพุ่ม ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ พร้อมร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา กองเกียรติยศยิงสลุต ๒๑ นัด พระสงฆ์สวดถวายพระพร และได้ถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ๑๐ รูป โดยประธานและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลังจากนั้นประธานกรวดน้ำ พระสงฆ์ยกพัดขึ้นอนุโมทนาและถวายอดิเรกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

พสกนิกรสงขลา ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี

ที่ บริเวณสี่แยกพระพุทธศรีสงขลานครินทร์ อ.เมืองสงขลา 07.00 น.(12 ส.ค.57) นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ที่ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน นำอาหารหวานคาว ข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรอย่างคับคั่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระองค์ท่าน โดยมีพระสงฆ์ จำนวน 82 รูป เดินรับบิณฑบาตจากประชาชน

 และเวลา 07.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นำประชาชนร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ บริเวณหัวพญานาค สวนสองทะเล อ.เมืองสงขลา โดยมีสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสงขลา และประมงจังหวัดสงขลา จัดหาพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1.5 ล้านตัว มาปล่อยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมชินินาถฌโดยมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก




วิชราวุฒิ แกล้วกล้าหาญ//ข่าว//ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

จังหวัด สงขลา จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557

วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 09.00 น.ที่ หอประชุมเปรม 100 ปีมหาวชิราวุธ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำข้าราชการ ตำรวจ ทหาร เหล่ากาชาด หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประชาชนชาวสงขลา ทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคล 2557 เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557

โดย นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานในพิธี ร่วมลงนามถวายพระพร จากนั้น ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และร่วมรับศีล จากนั้น ประธานขึ้นสู่ที่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล เพื่อให้พสกนิกรชาวสงขลาทุกหมู่เหล่า ได้แสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกร ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้อุทิศพระวรกาย พระปัญญา และพระราชทรัพย์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์ โดยได้พระราชทานความช่วยเหลือ พสกนิกรผู้ยากไร้ให้สามารถพึ่งพาตนเอง ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา เป็นที่ประจักษ์ ประทับอยู่ในใจของพสกนิการ และก่อให้เกิดความสงบร่มเย็น ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าแก่ประเทศชาติและประชาชนตลอดมา

จังหวัดสตูลจัดพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันแม่แห่งชาติ และร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหามหาราชินี ที่จังหวัดสตูล นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ 83 รูป บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสตูล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง และครอบครัว มีพระครูศรีวุฒิโสภณ รักษาการเจ้าคณะจังหวัด    สตูล เป็นประธานฝ่ายพระสงฆ์ มีพุทธศาสนิกชนไปร่วมตักบาตร กันอย่างคึกคัก

จากนั้นในช่วงสายของวันเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำข้าราชการทุกหมู่เหล่า ร่วมวางพานพุ่มเงิน พานพุ่มทอง และทำบุญเลี้ยงพระ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ศาลากลางจังหวัดสตูล และกล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเทิดพระเกียรติในวันแม่แห่งชาติด้วย

ความช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตเหตุเพลิงไหม้ ร้านโชคชัยเฟอร์นิเจอร์

เทศบาลนครภูเก็ต ให้ความช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตเหตุเพลิงไหม้ ร้านโชคชัยเฟอร์นิเจอร์

น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงกรณีถึงเกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านโชคชัย เฟอร์นิเจอร์ ว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านโชคชัย เฟอร์นิเจอร์ อาคารเลขที่ 1/39 ถนนศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เป็นตึกแถว 4 คูหา 3 ชั้น ซึ่งมี นางจันทร์หอม จักรแก้ว เป็นเจ้าของร้าน และได้เช่าอาคารหลังนี้เพื่อประกอบกิจการขายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปเพื่อใช้สอยภายในบ้าน

จากการลงพื้นที่ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากญาติ พบว่า ในคืนเกิดเหตุมีผู้อาศัยอยู่ในอาคารจำนวน 5 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย ประกอบด้วย นายมงคล เรือนชัย ผู้จัดการร้าน อายุ 43 ปี นางนุจรี แสงประโคน (ภรรยานายมงคล) อายุ 43 ปี ด.ช.ธีรวัฒน์ เรือนชัย (บุตรนายมงคล) และ น.ส.ชัญญา กานต์นภัส (คนขับรถ) อายุ 59 ปี ที่อยู่ 29/3 หมู่ที่ 2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ขณะที่ผู้รอดชีวิตคือ นางจันทร์หอม จักรแก้ว อายุ 51 ปี เจ้าของร้าน โชคชัยเฟอร์นิเจอร์

โดยผู้เสียชีวิต 3 รายแรก ทางคณะผู้บริหารเทศบาลฯ และกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต ได้ให้ความช่วยเหลือในส่วนของค่าจัดการศพ และเงินทำบุญที่มอบให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 139,000 บาท ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุร่วมทำบุญ จำนวน 10,000 บาท ด้วย โดยได้มอบไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ส.ค.

ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายที่ 4 คือ น.ส.ชัญญา กานต์นภัส (คนขับรถ) อายุ 59 ปี ทางคณะผู้บริหาร ที่ปรึกษา เลขานุการ สมาชิกสภาเทศบาลมอบเงินค่าจัดการศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 25,000 บาท เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ กรุงเทพมหานคร มอบให้เมื่อวันที่ 3 ส.ค.57 และได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ให้การช่วยเหลือในส่วนของค่าจัดการศพ จำนวน 25,000 บาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

ส่วนราย นางจันทร์หอม จักรแก้ว เจ้าของร้าน โชคชัยเฟอร์นิเจอร์ ขณะนี้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ให้การช่วยเหลือในส่วนของค่ารักษาพยาบาล จำนวน 3,000 บาท อยู่ในระหว่างดำเนินการ

นอกจากนี้ น.ส.สมใจ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนางานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนที่จะมาเติมเต็มในสิ่งที่เราคิดว่า ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องจำนวนคน และอุปกรณ์ ซึ่งปัจจุบันเรามีพนักงานดับเพลิงกว่า 30 คน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ จำนวน 17 คน ก็ต้องยอมรับว่าพนักงานเราหายไปเยอะ มีพนักงานเข้าออกอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากงานดับเพลิงเป็นงานที่หนัก และมีความเสี่ยง ประกอบกับเงินเดือนไม่ได้จูงใจในการทำงาน

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน เราก็ได้มีการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติให้แก่พนักงานทุกคน เป็นเรื่องของการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทุกวันศุกร์ เพื่อให้พนักงานเหล่านี้มีความมุ่งมั่น และเพื่อส่งเสริมศักยภาพบุคลากรด้านงานป้องกันฯ

การจัดระเบียบชายหาดที่ภูเก็ต ให้เสร็จสิ้น ภายใน 14 สิงหาคม

 ผบก.ทร.3 แจงเคลียร์หาดภูเก็ต รื้อถอน บุกรุก ให้เสร็จสิ้น ภายใน 14 สิงหาคม

พลเรือโท ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า การจัดระเบียบชายหาด การจัดระเบียบสังคมเป็นนโยบายหลักของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ซึ่งทัพเรือภาคที่ 3 บูรณาการสนธิกำลังการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการดำเนินงานที่ผ่านมา เข้าบริหารจัดการจัดระเบียบชายหาดที่มีการบุกรุกทำการค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นส่วนใหญ่ ปัญหาแท๊กซี่ป้ายดำไม่ถูกกฎหมาย ปัญหาโรงแรม จำนวนมากที่ไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานเถื่อน การเข้ามาทำงานของชาวต่างประเทศ ที่กระทบกับคนส่วนใหญ่ เหล่านี้ ต้องดำเนินการ แก้ปัญหาจัดการตามลำดับ " มุ่งเน้น ปัญหาหลัก คือ การจัดระเบียบชายหาด ทั้ง 6 จังหวัดอันดามันปัญหาแท๊กซี่ป้ายดำต้องทำให้เป็นตามกฏหมาย จดทะเบียนป้ายดำ เป็นมิเตอร์ และอัตราค่าโดยสาร ที่เป็นธรรม ทางขนส่งจังหวัด ต้องเข้าดูแลให้มีมาตรฐาน ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ การปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี กับ ผู้กระทำผิด ไม่ว่าเป็นข้าราชการ ประชาชน ที่ได้ทำผิดจับกุมทุกราย รวมทั้งเข้าไปจัดการ ผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สถาบันพระมหากษัตริย์”

พลเรือโท ธราธร กล่าว  ฝากถึงประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน หากมีปัญหาใดก็ตาม ทั้งชีวิต ทรัพย์สินตัวท่านเองและสังคม ทัพเรือภาคที่ 3 มีศูนย์ปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง หมายเลข 076-391598 รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทุกรูปแบบเพื่อให้ เกิดความสุขสงบ ในสังคมและประเทศชาติ

ด้าน พันเอกสมชาย โปณะทอง ผบ.ศฝ.นศท.มทบ.41ผู้บังคับการศูนยืการฝึก นักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจัดระเบียบในพื้นที่ภูเก็ต คืบหน้าไประดับหนึ่ง ประเมินผลเมื่อ วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยังมีบางส่วนที่ยังดื้อดึงขัดขืน ได้นัดทางอำเภอท้องถิ่น ใครยังดื้อดึงขัดขืนในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ จัดชุดเข้าไปทำการรื้อถอน

"ตอนนี้ มีประมาณ 4 ราย ที่ยังดื้อดึงขัดขืน บริเวณหาดไตรตรัง และหาดกะหลิม ต้องการให้จบภายใน วันที่ 14 สิงหาคม นี้ ส่วน อุทยานฯสิรินาถ ทางผู้บังคับบัญชากำลังติดตาม ในเรื่องมือปืน ที่ มีข่าวว่าลงมา ทาง เรา ได้ไปพบปะคนที่อยู่ในข่าว เขา ยินดีให้ความร่วมมือ ไม่ได้เป็นไปตามข่าวแต่อย่างใด จึงขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ในห้วงของสถานการณ์เปลี่ยนแปลงการก้าวผ่านไป อาจมีความลำบากใจบ้างแต่เมื่อก้าวผ่านไปแล้วจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เรียบร้อย และสวยงาม ทางแม่ทัพภาคที่ 4 จะลงมาภูเก็ตเร็ว ๆ นี้ โดยก่อนหน้านี้ลงมาแล้ว และ ประมาณกลางเดือนสิงหาคม นี้ จะลงมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อ ประเมินผลการปฏิบัติงาน ตามที่รายงานการปฏิบัติให้กับท่านรับทราบ” พันเอกสมชาย กล่าวในที่สุด


ภูเก็ตเอฟซีพ่ายคาบ้านอัลเมเรีย 1-3 ประตู

ฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ ระหว่างทีมภูเก็ตเอฟซี กับ อัลเมเรีย ทีมดังในลีกลาลีกา สเปน ปรากฏว่าภูเก็ตเอฟซีพ่ายไป 1:3 แบบสุดมันส์ทามกลางสายฝน


เมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาที่สนามสุระกุล นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายประมุขพิสิษฐ์ อัจฉริยะฉาย ประธานสโมสร ภูเก็ต เอฟซี นายอัลฟองโซ การ์เซีย ประธานสโมสรอูเด อัลเมเรีย นาง ธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย อดีตสมาชิกสภาวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต โดยรอยเตอร์ โมไรรา กุนซือ ภูเก็ต เอฟซี ส่งวะสัน นาทะสัน เอกอาทิตย์สมจิตรกัปตันทีม ขณะที่อัลเมเรีย จัดธีรศิลป์ แดงดา นำทัพ

เริ่มครึ่งแรกภูเก็ตเอฟซีได้โอกาสทักทายโดยฟาเบียโนซัดบอลเฉียดเสาออกข้าง นาที16 อัลเมเรียโต้บอลสวนกลับยิงบอลเฉียดเสาออกหลัง นาที 19 ภูเก็ต เอฟซีได้ลูกฟรีคิกโยนบอลให้กองหน้าโหม่งบอล จบเกมครึ่งแรก 0-0 เริ่มครึ่งหลัง นาที 55 อัลเมเรียโยนลูกฟรีคิก แต่ไม่ผ่านกองหน้าภูเก็ตเอฟสกัดบอลออกมา นาที 59 อีเบย์ นักเเตะภูเก็ต เอฟซี โดนใบเหลือง นาที 63 อัลเมเรียโยนบอลจากริมเส้นกองหลังภูเก็ตเอฟซีโหม่งพลาดบอลมาถึงอาเหม็ดซัดด้วยขวาตุงตาข่ายสวยงาม ขึ้นนำ 1-0 ประตู ช่วงท้ายเกม ภูเก็ตเอฟซีเปลี่ยนตัว 3 คน นาที 88 ควินเก่ นักเตะอัลเมเรียขึ้นโหม่งเข้าประตู 2-0 ประตู ถัดจากนั้น 3นาที โซนโกซัดบอลเสียเสาสุดสวย อัลเมเรียขึ้นนำ 3-0 ประตู ช่วงทดเวลาเจ็บเอกอาทิตย์ สมจิตร กัปตันทีมภูเก็ต เอฟซี แปบอลเประตู ไล่ตาม 1-3 ประตู

จบเกมภูเก็ตเอฟซีพ่ายคาบ้านอัลเมเรีย 1-3 ประตู

โครงการคืนความสุขให้แก่ประชาชนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขประชาชน”ครั้งที่ 2 ระหว่าง6-8 สิงหาคมนี้หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดฯช่วยลดค่าครองชีพประชาชน.

ประชาชนจำนวนมากได้มาเลือกซื้อสินค้าภายในงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขประชาชน” ซึ่งหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และภาคีเครือข่ายในจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดขึ้น

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ขอให้ทุกกระทรวงดำเนินการตอบสนองต่อประชาชนในนาม "โครงการคืนความสุขให้แก่ประชาชน” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน โดยกำหนดจัดงานทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคโดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 สิงหาคมเวลา 13.00-20.00 น.ที่หน้าบริเวณสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้กลับสี่แยกศาลาประชาคมซึ่งครั้งที่ผ่านมาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12-13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนมีความสุข เกิดความรัก ความสามัคคี และปรองดองในหมู่ประชาชน รวมทั้งได้ซื้อสินค้าราคาถูกเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ภายในงานมีการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย และราคายุติธรรม สินค้าสหกรณ์ สินค้าของกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สินค้า OTOP สินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งมีการจัดเสวนาครูบัญชีอาสา เรื่อง "การทำบัญชีรายบุคคลและการใช้ข้อมูลทางบัญชีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดหนี้ มีเงินออม และตัดสินใจวางแผนการประกอบอาชีพ” โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ภูเก็ต และมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อุทยานห่งชาติสิรินาถยังเดินหน้าทวงคืนผืนป่ามาปลูกป่าทดแทนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ

อุทยานห่งชาติสิรินาถยังเดินหน้าทวงคืนผืนป่าล่าสุดเตรียมนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุก 3-4 ร้อยไร่มาปลูกป่าทดแทนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ ขณะการรือร้านค้าหน้าชายหาดที่รุกเขตอุทยานคืบหน้ากว่า 99 เปอร์เซ็นแล้วยังเหลือรายใหญ่ๆอีก 2-3 เจ้าที่จะรื้อถอนในวันที่ 18 ส.ค.นี้.

ความคืบหน้าการทวงคืนผืนป่าที่นายทุนมีการบุกรุกในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการเดินหน้ากระทำต่อไปเพื่อให้ได้พื้นที่ของรัฐกลับคืนมาเป็นของประชาชนโยผืนป่าทั้งหมดที่ถูกบุกรุกมีประมาณ 379แปลง 2,743 ไร่ รวมมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านบาท นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถเปิดกับผู้สื่อข่าวว่า ทางอุทยานยังดำเนินการทวงคืนผืนป่าอย่างต่อเนื่องโดยในวันนี้( 7 ส.ค.57)ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ชุด เข้าไปดูพื้นที่ประมาณ 3-4 ร้อยไร่ที่มีการบุกรุกซึ่งอยู่ในเขตอุทยานเพื่อนำไปปลูกป่าพื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาเป็นดังเดิมโดยจะทำการปลูกพันธ์ไม้พื้นที่ดังกล่าวในวันที่ 18 สิงหาคมนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 1 ชุดจะลงพื้นที่พบปะกับกลุ่มชาวบ้านที่ยังลังเลว่าจะคืนพื้นที่คืนให้กับอุทยานฯเพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงที่มาที่ไปของพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติที่ต้องนำมาเป็นสมบัติแผ่นดินหากผู้ครองครองรายใดยังไม่ยินยอมคืนพื้นที่หลังวันที่ 18 สิงหาคมนี้ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการคืนพื้นที่โดยสมัครใจนั้นปรากฏว่าขณะมี้มีการคืนแล้ว 7 รายเป็นพื้นที่กว่า 80 ไร่ส่วนที่เหลือก็จะเร่งทำความเข้าใจขอคืนพื้นที่ในวันนี้ไปจนถึงวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ส่วนที่ดินแปลงอื่นที่เป็นของนายทุนทางอุทยานก็จะเดินหน้าฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อนำผืนป่าทั้งหมดกลับคืนมาให้ได้ต่อไป อย่างไรก็ตามในส่วนของการรื้อร้านอาหารที่ก่อสร้างรุกล้ำชายหาดในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถนั้น นายกิตติพัฒน์เปิดเผยว่าขณะนี้ดำเนินการรื้อไปแล้วกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ยังเหลือเพียง 2-3 รายที่เป็นรายใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหาดในยางซึ่งจะนำกำลังเข้ารื้อถอนในวันที่ 18 สิงหาคมนี้หลังจากที่มีการปลูกป่าเสร็จสิ้น

นอกจากนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มนายทุนหรือผู้ที่จะเข้าไปซื้อที่ดินในเขตพื้นที่คาดว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถถึงแม้ว่าจะมีโฉนดถูกต้องตามกฏหมายก็ขอให้ชลอการชื้อไว้ก่อนเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลังหากสิ้นสุดกระบวนการตรวจสอบแล้วเนื้อที่ดังกล่าวก็อาจจะถูกยึดกลับเป็นของแผ่นดินทันที หรือหากจำเป็นต้องมีการซื้อขายจริงๆก็ให้ระบุในสัญญาว่าซื้อ-ขายระหว่างการตรวจสอบการของเอกสารสิทธิ์ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯและกรมที่ดินเพื่อที่จะได้เอาผิดกับผู้ขายหากพื้นที่แปลงนั้น ๆ ถูกยึดคืนภายหลัง

นำลำไยสดมาจากทางจังหวัดทางภาคเหนือมาวางขายกว่า 3 ตัน

สหกรณ์จังหวัดภูเก็ตนำลำไยกว่า 3 ตันมาวางขายในงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชนครั้งที่ 2 เพื่อช่วยระบายลำไยจากภาคเหนือที่ราคาตกต่ำในช่วงนี้

บรรยากาศภายในงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชนครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 -8สิงหาคมนี้ที่บริเวณหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ตสี่แยกศาลาประชาคมเป็นไปด้วยความคึกคักมีประชาชนมาเลือกซื้อสินค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะร้านค้าของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดภูเก็ตที่นำลำไยสดมาจากทางจังหวัดทางภาคเหนือมาวางขายกว่า 3 ตัน โดยมีนายเทวกฤต เข็มขาว สหกรณ์จังหวัดูเก็ต นางสาวสมจิตร เช้าฉ้อง ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกันขายลำไยให้กับประชาชนที่มารอซื้อจำนวนมากซึ่งลำไยดังกล่าวสามารถขายหมดได้ภายในวันเดียว

นายเทวกฤต เข็มขาว สหกรณ์จังหวัดภูเก็ต ระบุ  ด้วยกรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริม สนับสนุนให้สถาบันเกษตรดำเนินธุรกิจรวบรวมและจำหน่ายผลไม้ซึ่งเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมทำให้สินค้าไม่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ผลิตซึ่งทางกรมสหกรณ์มีมาตรการในการบริหารลำใยสดทางจังหวัดภาคเหนือโดยวาง เป้าหมายไว้ 5000 ตัน ให้กระจายไปยังจังหวัดปรายทางผ่านเครือข่ายสหกรณ์และช่องทางการค้าปกติของสหกรณ์ โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตทางสำนักงานสหกรณ์ได้ซื้อลำใยจากเกษตรกรภาคเหนือมา 3 ตันมาวางขายในงานคืนความสุขสู่ประชาชนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีโดยลำใยทั้ง3 พันตันสามารถขายได้หมดภายในวันเดียวทั้งนี้การนำลำใยจากภาคเหนือมาขายที่จังหวัดภูเก็ตเพราะต้องการเพิ่มมูลค่าลำใยให้กับเกษตรกรชาวสวนลำใยซึ่งปัจจุบันพบว่าลำใยในพื้นที่ภาคเหนือตกต่ำเป็นอย่างมากจึงต้องขยายออกขายต่างจังหวัด

จังหวัดภูเก็ตจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557 ผู้ว่าฯ นำประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมทำบุญตักบาตรลงนามถวายพระ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และจุดมอบทุนการศึกษา 104 แก่นักเรียนนักศึกษาที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 12 ส.ค.57 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ข้าราชการตุลาการ เหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา สมาคม สโมสร มูลนิธิ และประชาชนทุกหมู่เหล่า กว่า 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีฟ้า เข้าร่วมในพิธี

โดยได้ร่วมกันไหว้พระ ฟังธรรมเทศนา และร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว มีพระสงฆ์จำนวน 83 รูป ออกบิณฑบาต ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี อ.เมืองภูเก็ต

จากนั้นเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ตลอดจนข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานองค์กรภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีลงนามถวายพระพร และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นอกจากนี้ภายในงานพิธี ได้จัดให้มีการประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา คริสต์ อิสลาม และซิกข์ และพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 104 ทุน

ส่วนช่วงเย็น เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ณ เวทีกลางสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ทางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีถวายสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ เนื่องในวโรกาสวันมหามงคลดังกล่าวด้วย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธี

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วิสาหกิจชุมชนธนาคารหมู่บ้านบกห้องพัฒนา ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง

วิสาหกิจชุมชนธนาคารหมู่บ้านบกห้องพัฒนา ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง
รับการตรวจสอบผลงานในการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ

วันนี้ (05 ส.ค. 57) เวลา 13.30 น. นายนายชาญยุทธ์ ภานุทัต ผอ.กองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบผลงานของวิสาหกิจชุมชนธนาคารหมู่บ้านบกห้องพัฒนา เพื่อประกอบการพิจารณาในการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนธนาคารหมู่บ้านบกห้องพัฒนา หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ โดยมีนายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับ นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าจากที่จังหวัดกระบี่ได้คัดเลือกให้วิสาหกิจชุมชนธนาคารหมู่บ้านบกห้องพัฒนา ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เป็นวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัดส่งเข้าประกวดในระดับเขต ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นวิสาหกิจชุมดีเด่นอันดับที่ 1 ของเขตภาคใต้ตอนบน โดยที่กลุ่มนี้มีผลงานในเรื่องของการทำกิจกรรมออมทรัพย์ที่ดำเนินการในลักษณะของธนาคารหมู่บ้าน และมีการเชื่อมโยงกลุ่มเครือข่ายในหลายกิจกรรมประกอบด้วยเครือข่ายการทำประปาหมู่บ้าน การผลิตเครื่องแกง ลานเทปาล์มน้ำมัน และแปลงเรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชน

ในวันนี้คณะกรรมการดำเนินการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ได้มาตรวจสอบผลงานของวิสาหกิจชุมชนบ้านบกห้องพัฒนา ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เพื่อประกวดในระดับประเทศ โดยจะมีการตัดสินประมาณเดือนกันยายน 2557 เกษตรจังหวัดกระบี่กล่าวอีกว่าการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นจะคัดเลือกจากวิสาหกิจชุมชนที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีแนวโน้มการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อเป็นตัวอย่างแก่วิสาหกิจชุมชนอื่นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และจะประกาศเกียรติคุณแก่วิสากิจชุมชนที่ชนะการประกวดให้ปรากฏต่อสาธารณชนต่อไป

มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ส่งมอบปะการังเทียม

มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ส่งมอบปะการังเทียมให้แก่ชาวประมงจังหวัดชุมพร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ

สืบเนื่องจากพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถึงประโยชน์และผลดีที่เกิดขึ้นจริงจากการสร้างปะการังเทียมให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ทำให้มีปลาเข้ามาอาศัยมากมาย ชาวประมงหาปลาได้มาก รายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาด้วย มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้ร่วมสนองพระหากรุณาธิคุณในเรื่องดังกล่าว โดยสนับสนุนงบประมาณการจัดสร้างปะการัง เทียมให้กับกรมประมง มาตั้งแต่ปี 2555 และในปี 2557 นี้ มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนงบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างปะการังเทียมจำนวน 5 แห่ง มีท้องทะเลจังหวัดชุมพรเป็นหนึ่งในนั้น โดยจะจัดสร้างแหล่งปะการังเทียมขึ้นในพื้นที่บ้านทุ่งมหา ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร และได้หล่อแท่งคอนกรีตเสร็จพร้อมวางแล้วจำนวน 532 แท่ง

ในการนี้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริ กิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้านการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และความห่วงใยต่อพสกนิกร กรมประมง ร่วมกับมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จังหวัดชุมพร และชาวชุมชนตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร กำหนดจัดงาน ส่งมอบปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้แก่ชาวประมงจังหวัดชุมพร เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้งได้รับข้อมูลและความรู้ด้านการจัดสร้างและประโยชน์ของปะการังเทียม รวมถึงจะได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรประมง ผ่านการให้ความรู้ และการแสดงนิทรรศการในงาน

จังหวัดชุมพร สนองนโยบาย คสช.ขยายเวลาจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวถึงสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.57  เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมเกาะมัตตรา  ศาลากลางจังหวัดชุมพร  นายชาติชาย อุทัยพันธ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร  ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ บริการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว จังหวัดชุมพร  เพื่อเป็นการรับทราบปัญหาอุปสรรค การปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความเข้าใจถูกต้องชัดเจน  สามารถดำเนินการเป็นไปในแนวทางเดียวกัน    และสอดคล้องกับประกาศของ คสช. ฉบับที่ 117/2557 ลงวันที่  21 กรกฎาคม 2557  กำหนดให้เปลี่ยนแปลงระยะการเปิดให้บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)      จากเดิมกำหนดให้ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวจังหวัดชุมพร  ดำเนินการจดทะเบียนแรงงาน  ต่างด้าว ตั้งแต่วันที่  22  กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่  21 สิงหาคม 2557  ขยายเวลาดำเนินการไปจนถึงวันที่  31 มีนาคม 2558

สำหรับจังหวัดชุมพร ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ  จะเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ  เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ หอประชุมศูนย์ราชการ (ชั้นล่าง)  ตำบลนาชะอัง  อำเภอเมือง  จังหวัดชุมพร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558  ยกเว้นวันที่ 12 สิงหาคม  2557 จะงดให้บริการ 1 วัน  โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมต้องเพิ่มตามระยะเวลา ดังนี้

ปกครองจังหวัด    -   อายุต่ำกว่า 15 ปี  ค่าทำ ท.ร. 38/1  20 บาท

                    -   อายุ 15 ปี ขึ้นไป   ค่าทำ ท.ร.38/1  20 บาท

                    -   ค่าบัตร                                  60 บาท

จัดหางานจังหวัด   -   ค่าใบอนุญาตทำงาน (วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2558)  900 บาท

โรงพยาบาลจังหวัด    -   อายุต่ำกว่า 7 ปี ค่าประกันสุขภาพ           365 บาท

                       -   อายุ 7 ปีขึ้นไป ค่าประกันสุขภพ           1,600 บาท

                       -   ค่าตรวจสุขภาพ                              500 บาท

                                                           รวม        2,100 บาท

สรุปค่าธรรมเนียม   อายุต่ำกว่า 7 ปี  385 บาท  อายุ 7 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี 2,120 บาท อายุ 15 ปี  แต่ไม่ทำงาน  2,180 บาท  อายุ 15 ปี ขึ้นไป ทำงาน  3,080 บาท

นายชาติชาย  อุทัยพันธ์  ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเนื่องจากระยะเวลาของใบอนุญาตทำงานชั่วคราวนานถึง 8 เดือน  จากเดิมกำหนด 60 วัน ดังนั้น จึงขอแจ้งให้นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบการ นำแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว  กัมพูชา   ที่ยังไม่ได้        จดทะเบียนประวัติและไม่มีใบอนุญาตทำงานไปจดทะเบียนและขออนุญาตทำงานให้ถูกต้อง  เพราะการบริการสะดวก รวดเร็ว  ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง  มีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชุมพร โทรศัพท์  077-504364-5  ในวันและเวลาราชการ

ส่งมอบปะกา​รังเทียมให้​แก่ชาวประม​งจังหวัดชุ​มพร เฉลิมพระเกี​ยรติสมเด็จ​พระนางเจ้า​สิริกิต์ พระบรมราชิ​นีนาถ

มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ส่งมอบปะการังเทียมให้แก่ชาวประมงจังหวัดชุมพร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ

สืบเนื่องจากพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถึงประโยชน์และผลดีที่เกิดขึ้นจริงจากการสร้างปะการังเทียมให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ทำให้มีปลาเข้ามาอาศัยมากมาย ชาวประมงหาปลาได้มาก รายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาด้วย มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้ร่วมสนองพระหากรุณาธิคุณในเรื่องดังกล่าว โดยสนับสนุนงบประมาณการจัดสร้างปะการังเทียมให้กับกรมประมง มาตั้งแต่ปี 2555 และในปี 2557 นี้ มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนงบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างปะการังเทียมจำนวน 5 แห่ง มีท้องทะเลจังหวัดชุมพรเป็นหนึ่งในนั้น โดยจะจัดสร้างแหล่งปะการังเทียมขึ้นในพื้นที่บ้านทุ่งมหา ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร และได้หล่อแท่งคอนกรีตเสร็จพร้อมวางแล้วจำนวน 532 แท่ง

ในการนี้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้านการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และความห่วงใยต่อพสกนิกร กรมประมง ร่วมกับมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จังหวัดชุมพร และชาวชุมชนตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร กำหนดจัดงาน ส่งมอบปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้แก่ชาวประมงจังหวัดชุมพร เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้งได้รับข้อมูลและความรู้ด้านการจัดสร้างและประโยชน์ของปะการังเทียม รวมถึงจะได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรประมง ผ่านการให้ความรู้ และการแสดงนิทรรศการในงาน

ขอเชิญชวนพี่น้องชาวชุมพรในพื้นที่ เข้ารวมงาน ชมนิทรรศการ และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งชมและชื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ในบริเวณงาน ในวันพุธที่ 6 สิงหาคม 2557 ณ ลานหน้าท่าเทียบเรือบ้านทุ่งมหา เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

จังหวัดชุม​พร เตรียมจั​ดงานมหามงค​ลเฉลิมพระช​นมพรรษา 12 สิงหาพระบร​มราชินีนาถ

นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ในวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2557 เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีถวายพระพรชัยมงคลในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา และสนองพระราชดำรัสด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย จังหวัดชุมพร กำหนดจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ ดังนี้

- เวลา 07.00 น. ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 100 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณถนนปรมินทรมรรคา บริเวณสี่แยกมอนเดียร์ - สามแยกทางเข้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร, พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ แม่น้ำท่าตะเภาบริเวณท่าน้ำหลังป้อมตำรวจ
- เวลา 09.00 น.พิธีถวายพระพรชัยมงคล และลงนามถวายพระพร ณ หอประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร
- เวลา 19.00 น. พิธีถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพร ณ เวทีกลางโครงการพระราชดำริหนองใหญ่

จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมในวันและเวลาดังกล่าว พร้อมกับร่วมกันประดับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ และธงชาติ ตามอาคารบ้านพัก และสถานที่ราชการ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นพระราชกุศล

อบจ.ตรังเปิดรับสมัครการแข่งขันฟุตบอลยุวชน อบจ.ตรัง คัพ ประจำปี 2557

นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ร่วมกับโรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง และหน่วยงานอื่น ๆ ได้กำหนดจัดโครงการแข่งขันฟุตบอลยุวชน อบจ.ตรัง คัพ ประจำปี 2557 รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ยุวชนในจังหวัดตรัง ได้แสดงความสามารถพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอล มีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นยุวชนในจังหวัดตรัง มีอายุไม่เกิน 12 ปี กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2557 ณ กองกิจการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ในวันเวลาราชการ และเริ่มทำการแข่งขันในวันที่ 23 สิงหาคม 2557 ขอเชิญชวนผู้สนใจส่งทีมนักกีฬาที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี เป็นยุวชนที่ศึกษาอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาตรัง หรือมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดตรังไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีสัญชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองกิจการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง หมายเลข 0 7521 6167 ต่อ 123,124
   

อบจ.ตรัง ปรับภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูคลองน้ำเจ็ด สานต่อโครงการคลองสวยน้ำใส และป้องกันปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน

นายสมชัย จันทรสกุล รองนายกอบจ.ตรัง ดาบตำรวจชัยวัฒน์ เส้งนุ้ย สมาชิกสภาอบจ.ตรัง เขตอำเภอเมืองตรัง พร้อมด้วยนายช่างอบจ.ตรัง นำรถแบ็คโฮปรับภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อม คลองน้ำเจ็ด บริเวณชุมชนโป๊ะเซ้ง หลังสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง เพื่อสานต่อโครงการคลองสวยน้ำใส ฟื้นฟูคลองน้ำเจ็ด ด้วยการเก็บขยะ ทำความสะอาดคลอง ใช้รถแบ็คโฮขยายคูคลองให้กว้างขึ้น เพื่อความสะดวกในการระบายน้ำในช่วงหน้าฝนที่กำลังจะถึง ป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ชุมชนหลังสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง และทำให้น้ำครำในคลองกลับมาใสสะอาดขึ้น ซึ่งการปรับภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ต้องขอบคุณนายไกร พฤธิ์วงศ์ และนางยุพา เก้าเอี้ยน เจ้าของบ้านเลขที่ 105/61 ถนนรัษฎา ซอย 13 ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง ที่สละทรัพย์สิน (ตัวอาคารข้างบ้าน)เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำรถแบ็คโฮเข้าทำงานได้สะดวก ทั้งนี้ในระหว่างการปรับภูมิทัศน์พื้นที่ พบหลักโฉนดในลำคลองน้ำเจ็ด ซึ่งเป็นเรื่องน่าสงสัยว่านำมาปักได้อย่างไร และดำเนินการออกโฉนดได้อย่างไรกลางคลองสาธารณะ ด้านดาบตำรวจชัยวัฒน์ เส้งนุ้ย สมาชิกสภาอบจ.ตรัง เขตอำเภอเมืองตรังเปิดเผยว่าจากการดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อมใน เขตเทศบาลนครตรัง พบหลักโฉนดที่เกาะกลางคลองสาธารณะแล้วถึง 3 จุด ซึ่งเป็นของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในจุดนี้ทราบว่าเป็นของอดีตข้าราชการรายหนึ่งซึ่งทำการออกโฉนดเมื่อ หลายปีก่อน

แรงงานเขมรกว่า 70 คนบนเกาะมุกต์ตรัง ถูกลอยแพ หลังผู้รับเหมากับเจ้าของรีสอร์ต ตกลงผลประโยชน์ไม่ลงตัว ผู้การลงพื้นที่ประชุมร่วมหน่วยงานแก้ปัญหา

ที่ภายในอาคารคอซิมบี้ ห้องประชุมเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ทางสถานที่ตำรวจภูธรกันตัง ร่วมกับ สถานีตำรวจน้ำกันตัง และอำเภอกันตัง นำแรงงานต่างด้าวชาวเขมร จำนวน 76 คน แยกเป็น แรงงานชาย 54 คน หญิง 20คน และเด็ก 6คน เข้ามาอาศัยเป็นการชั่วคราว เนื่องจากก่อนหน้านี้ แรงงานต่างด้าวชาวเขมรดังกล่าว เดินทางมาเข้ามาทำงานเป็นแรงงาก่อสร้าง ผ่าน นายปรานต์ รักใหม่ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่6 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยรับเหมาก่อสร้างให้กับ กุมวาปีรีสอร์ต บนเกาะมุกต์ อ.กันตัง จ.ตรัง แต่เกิดปัญหาขึ้นทำให้แรงงานทั้ง 76 คน ประสบปัญหาไม่มีงานทำ ทำให้ทางจังหวัดต้องนำแรงงานดังกล่าวเข้าพักอาศัยอยู่ภายในอาคารคอมซิมบี้ เป็นการชั่วคราว ต่อมาเวลา 08.30น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ธนชาติ บุญโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผกก.สภ.กันตัง พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก สืบสวนสอบสวน กก.ตรัง นายปรีชา ถาวรประสิทธิ์ ปลัดอำภอหัวหน้างานฝ่ายความมั่นคงที่ว่าการอำเภอกันตัง พ.ต.ต.ศยธน กระพิน สว.ตม. จ.สตูล พร้อมตัวแทนจากสำนักานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง สำนักงานแรงงานจังหวัดตรัง ร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหา และหาทางแก้ไขให้ความช่วยเหลือแรงงานเขมรดังกล่าว นายปรานต์ กล่าวว่า แรงงานชาวเขมรดังกล่าวตนเป็นผู้ประสานให้เข้ามาทำงานก่อสร้างกุมวาปี รีสอร์ต บนเกาะมุกต์

โดยจัดหาผ่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว แรงงานทุกคนมีพารต์ป็อตถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากที่นำแรงงานดังกล่าวเข้าพื้นที่ ปรากฎว่ามีปัญหากับเจ้าของรีสอร์ตไปเปิดหน้างานให้ทำ ทำให้แรงงานที่นำมาไม่มีงานทำ ซึ่งตนต้องเลี้ยงดูด้วยการให้มีอาการทาน 3 มื้อ กระทั้งมีการแจ้งให้ทางจังหวัดทราบ จึงนำมีการเคลื่อนแรงงานทั้งหมดมาอยู่มีอาคารคอซิมบี้เป็นการชั่วคราว ตนยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือหางานให้แรงงานที่ประสงค์จะอยู่ต่อไปมีงานทำ ขณะที พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นโดยทางผู้ประกอบการชื่อ กุมวาปีรีสอร์ต ที่เกาะมุกต์ มีโครงการก่อสร้างรีสอร์ตขึ้นมา และมีการว่าจ้างให้ผู้รับเหมาไปจัดงานแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นสัญชาติ กัมพูชา มาเป็นแรงงาน โดยแรงงานทั้งหมดที่เข้ามาได้รับอนุญาตจากอำเภอสระแก้ว เข้ามาถูกต้องจำนวน 105 คน หลังจากที่ได้รับอนุญาตทางราชการแล้วได้เดินทางไปยังเกาะมุกต์ในระหว่างที่อยู่บนเกาะมุกต์ คนงานไม่มีงานทำ เนื่องจากมีปัญหาระหว่างผู้รับเหมากับเจ้าของรีสอร์ตเกี่ยวกับราคา โดยผู้รับจ้างต้องการค่าแรงงานและค่าของ ขณะที่เจ้าของรีสอร์ตต้องการให้เป็นเพียงค่าแรงงานอย่างเดียว เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถก่อสร้างได้ คนงานที่มาจึงไม่มีงานทำ ในระหว่างที่รองานนั้นคนงานได้ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อแจ้งผ่านหน่วยราชการ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยให้เหตุผลว่าจะขอกลับบ้าน ต่อมาทางตำรวจน้ำกันตังได้รายงานให้ตนทราบ ตนได้สั่งการให้ทางตำรวจ สภ. กันตัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบพบว่ามีแรงงานชาวเขมรอยู่บนเกาะมุกต์ 73 คน รวมทั้งมีเด็กๆรวมอยู่ด้วย จากนั้นได้ประสาน นายปราบต์ รักใหม่ ผู้รับเหมามาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การว่าเป็นผู้นำแรงงานต่างด้าวมาและมีใบอนุญาตถูกต้อง จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด มาตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ปรากฎถูกต้อง เนื่องจากผู้ประกอบการได้ขออนุญาตนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้งานจริง "ขณะนี้แรงงานที่มาทั้งหมดยังไม่ได้มีการนำไปขึ้นทะเบียน อยู่ในระหว่างการผ่อนผัน เบื้องต้นสรุปว่า ยังไม่ตรวจพบว่าเป็นการค้ามนุษย์ แต่น่าจะมีความผิดเกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขต่างๆ เช่น เรื่องการแจ้งงานไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้ อีกทั้งผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบเงินค่าเดินทางการกินอยู่ให้กับคนงานทั้งหมด ซึ่งมีเจตนาบริสุทธิ์ในการจ้างแรงงาน

ทั้งนี้ทั้งนั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดแยก โดยให้ พม. แรงงาน ตำรวจ สภ.กันตัง ตำรวจน้ำทำการคัดแยก สอบสวนแรงงานทั้งหมดอีกครั้ง ถ้าถูก ถูกบังคับ ขู่เข็ญ ฉ้อโกงแรงาน เข้ากับการค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินคดี รวมถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิของ กุมวาปีรีสอร์ต ว่าได้เอกสารสิทธิมาโดยถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีกาบุกรุกที่สาธารณระจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” สำหรับการใช้ความช่วยเหลือแรงงานนั้นได้มีการประสานกับทางจังหวัด เทศบาลเมืองกันตังให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนการขนถ่ายขนย้ายให้แรงงานกลับบ้าน ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบ หากเกินกำลังทางราชการจะจัดหางบประมาณมาส่วน และให้อาศัยอยู่ภายในอาคารคอซิมบี้ นี้ไปพลางๆก่อน แต่จะพยายามผลักดันโดยเร็ว เพราะเข้ามาเมืองถูกต้องตามกฎหมาย พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวท้ายสุด

ผลการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งขาติ จังหวัดตรัง เข้าเฝ้าและรับประทานรางวัล จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เนื่องในงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557

นางสาวศรีหัทยา ชูสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นแม่แห่งชาติ เพื่อเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อยกย่องแม่ดีเด่น และลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ในส่วนของจังหวัดตรัง ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกแม่ดีเด่น ประเภทแม่ของผู้เสียสละ ได้แก่ นางบุญลาภ วีระสุข อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 3 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง โดยเดินทางเข้าเฝ้าและรับประทานพระฉายาลักษณ์พระราชทาน เกียรติบัตร และเข็มกลัดแม่ดีเด่นแห่งชาติ จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เนื่องในงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557 ในวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2557 เวลา 09.00 น. ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร สำหรับประวัติแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประเภท แม่ของผู้เสียสละ นางบุญลาภ วีระสุข อายุ 67 ปี สมรสกับ นายคล่อง ล้วนเช้ง มีบุตร 4 คน จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อาชีพค้าขาย เป็นบุคคลที่มีความอดทน ขยันหมั่นเพียงทำมาหากิน ประหยัด อดออม รู้จักการใช้จ่ายตามฐานะ ดำรงชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เสียสละแบ่งปัน มีน้ำใจเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลอื่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ประพฤติตนอยู่ในศีล 5 ตั้งมั่นอยู่ในความดี เป็นคนที่มีอารมณ์ขันมองโลกในแง่ดี มีจิตสาธารณะชอบช่วยเหลือคนอื่น เสียสละบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดี และยากจน โรงเรียนบ้านโพธิ์น้อย ต.คลองปาง อ.รัษฎา ปีละ 1,000 บาท มาเป็นเวลานานหลายปี เพื่อนบ้านให้ความเคารพนับถือ ได้รับการยอมรับจากชุมชน และเมื่อถึงแก่กรรมได้บริจาคร่างกายให้กับ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

บ้านมิตรไมตรีนครศรีธรรมราช อบรมเครือข่ายเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

วันนี้ (5 ส.ค.57) ที่โรงแรมทักษิณ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการอบรมเครือข่ายเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งบ้านมิตรไมตรีจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เครือข่ายเกิดความตระหนักรู้และเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนและประชาคมอาเซียน ตลอดจนผลกระทบต่อสถานการณ์ปัญหาด้านสวัสดิการสังคม รวมทั้งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ปัญหาผู้ด้อยโอกาสทางสังคมให้กับเครือข่าย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานและอาสาสมัครสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โรงพยาบาลมหาราช ประธานชุมชน และเจ้าหน้าที่จากภาคเอกชน ได้แก่ สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิใต้เต็กเซียงตึ๊ง และผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง รวมทั้งสิ้น 100 คน

สำหรับเนื้อหาการอบรมประกอบด้วยการบรรยายความเป็นมา วัตถุประสงค์ และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาเซียน ผลกระทบของสังคมอาเซียนต่องานด้านสวัสดิการสังคม และการเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์แนวโน้มผลกระทบจากสังคมอาเซียนด้านปัญหาผู้ด้อยโอกาสทางสังคม นอกจากนี้ได้มีการจัดนิทรรศการมุมความรู้สู่ประชาคมอาเซียน และการตอบคำถามชิงรางวัล

รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีวันพระราชทานกำเนิด รร.จปร.ครบรอบ 127 ปี

รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีวันพระราชทานกำเนิด รร.จปร.ครบรอบ 127 ปี ของกองทัพภาคที่ 4

วันนี้ (5 ส.ค.57) เวลา 06.30 น. พล.ต.นพวงศ์ สุรวิชัย รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือ จปร.ครบรอบ 127 ปี ของกองทัพภาคที่ 4 ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช. โดยมีศิษย์เก่านายทหารโรงเรียนนายร้อย จปร.ในพื้นที่ค่ายวชิราวุธ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยจัดให้มีพิธีถวายราชสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ ศาลาวงกลม หน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 จากนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานนำกล่าวคำถวายราชสดุดี และกล่าวคำปฏิญาณ จากนั้นประกอบพิธีทางพุทธศาสนาทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป

ต่อจากนนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านชะเอียน ค่ายวชิราวุธ เพื่อร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ โดยการมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านชะเอียน และถ่ายรูปร่วมกับคณะอาจารย์ เด็กนักเรียน เพื่อเป็นที่ระลึกด้วย

สำหรับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นนามที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ขนานนามโรงเรียนนายร้อยทหารบก ในกระทรวงกลาโหมเป็น "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 องค์พระผู้พระราชทานกำเนิดสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ปัจจุบันรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตั้งอยู่ที่บริเวณเขาชะโงก อำเภอเมือง ต่อกับอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

กองทัพภาคที่ 4 กำหนดจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2557

กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับหน่วยทหารขึ้นตรง และภาคส่วนในพื้นที่ กำหนดจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2557

พันเอกไชยศักดิ์ พรนิพัทธ์กุล หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2557 กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับหน่วยทหารขึ้นตรง กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้ค่ายทหารทุกค่ายในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ประกอบด้วยการจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านในทุด ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ สโมสรวีรไทย ค่ายวชิราวุธ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไปเช่นกัน ส่วนในระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จะเป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ณ ลานกิจกรรมชั้น 2 สหไทยพลาซ่านครศรีธรรมราช การลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ การสาธิตการทอผ้ายกเมืองนคร การปักผ้าดิ้นทอง จากศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง และบ้านตรอกแค อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากโครงการศิลปาชีพ การประกวดขับร้องเพลง ในรายการ “คืนความสุข ด้วยบทเพลงรักแห่งแผ่นดิน กองทัพภาคที่ 4 Singging Contest 2014” การประกวดขับร้องเพลงเกี่ยวกับความรักของแม่ ,การเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ตามนโยบายของ คสช. และบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อชิงเงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จากกองทัพภาคที่ 4 โดยรางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 3,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 2,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัลๆ ละ 1,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร การประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบคัดเลือก ในวันที่ 11 สิงหาคม 2557 เวลา 13.00 น. และรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เวลา 13.30 น. โดยจะมีศิลปินชื่อดัง “โกไข่” เจ้าของเพลงฮิต “ความคิดถึงกำลังเดินทาง” ร่วมเป็นศิลปินรับเชิญ และเป็นกรรมการร่วมตัดสินการประกวดขับร้องเพลง พร้อมเปิดแสดงมินิคอนเสิร์ต ร้องเพลงเนื่องในวันแม่ และคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย




อุไรวรรณ /ข่าว
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 /ข้อมูลข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

สพม.เขต 12 พร้อมจัดงานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคมนี้

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 พร้อมจัดงานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม 2557 ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช

วันนี้ (5 สิงหาคม 2557) ที่โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยนครศรีธรรมราช นายจำเริญ รัตนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 นครศรีธรรมราช,พัทลุง เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 24 "เด็กไทยมุ่งมั่น สานฝันด้วยปัญญา พัฒนาสู่สากล" ระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม 2557 ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ครู นักเรียน ได้รับการพัฒนาทักษะด้านวิชาการ วิชาชีพ และเป็นการเปิดเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถ ศักยภาพของตนเองอย่างอิสระ สร้างสรรค์ และเพื่อคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมการประกวดแข่งขัน ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคใต้ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2557 โดยมีกิจกรรมการประกวด แข่งขันทักษะวิชาการ วิชาชีพ การจัดนิทรรศการและผลผลิตของนักเรียน การคัดเลือก และนำเสนอผลงานของหน่วยงาน ผู้บริหาร ครูบุคลากร และลูกจ้าง ผู้มีผลงานดีเด่นประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ เพื่อรับรางวัลทรงคุณค่า OBEC AWARDS และผลงานการปฏิบัติที่เป็นเลิศ Best Practices

นายจำเริญ รัตนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต12 กล่าวว่า งานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา เป็นกิจกรรมส่งเสริมการจัดการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารจัดการศึกษา การจัดการเรียนการสอน ซึ่งมุ่งเน้นผู้เรียนในการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 สอดคล้องกับหลักสูตรและปฏิญญาว่าด้วยการจัดการศึกษาของ UNESCO คือ Learn to know, Learn to do, Learn to be and Learn to live together ดังนั้นการจัดกิจกรรมจึงเป็นเวทีที่สร้างกิจกรรมและเปิดโอกาสให้ทั้งผู้เรียนและผู้สอน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน สำหรับการจัดงานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 24 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม 2557 โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดงานในวันที่ 15 สิงหาคม 2557 ณ ห้องประชุมโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช กิจกรรมภายในงานมีการจัดนิทรรศการและผลงานนักเรียน กิจกรรมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้บริหาร ครู และบุคลาการทางการศึกษา ตลอดถึงการแข่งขันทักษะทางวิชาการ วิชาชีพของนักเรียน อาทิ การแข่งขันทักษะภาษาไทย ฝรั่งเศส ภาษาจีน เกาหลี ศิลปะ ดนตรีไทย สากล ช่างอุตสาหกรรม เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังมีการประกวดแข่งขันทักษะดนตรีไทย และดนตรีสากล และอีกหลายวิชาสาขาอาชีพ

จึงขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปร่วมงานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคมนี้ ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช



พรรณี กลสามัญ /ภาพ-ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

“หนึ่งใจ...ติวให้น้อง” สนองพระราชดำริ สนับสนุนให้เยาวชนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมกับ บริษัทโอสถสภา จำกัด และจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดโครงการ “หนึ่งใจ...ติวให้น้อง” สนองพระราชดำริ ในการส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาให้เยาวชน ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน และเตรียมพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ระว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2557

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2557นี้ มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมกับ บริษัทโอสถสภา จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12 กำหนดจัดโครงการ “หนึ่งใจ...ติวให้น้อง” เพื่อสนองพระราชดำริ ในการส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาให้เยาวชน ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน และเตรียมความพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกำหนดศูนย์ติวผ่านระบบ Video Conference ในเครือข่ายศูนย์ต่างๆ ประกอบด้วย ศูนย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช โรงเรียนสตรีทุ่งสง และศูนย์หอประชุมโรงละครองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีศูนย์โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา เป็นศูนย์แม่ข่ายถ่ายทอดสด

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การจัดโครงการ“หนึ่งใจ...ติวให้น้อง” ครั้งนี้ จะมีติวเตอร์ที่มีชื่อเสียง อาทิ ครูลิลลี่ ,ครูพี่แนน ,อาจารย์เจี๋ย และอาจารย์ชัย มาให้ความรู้ในรายวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคม ฟิสิกส์ เคมี และคอร์สเชื่อมโยง โดยผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านระบบ Online ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 http://www.sea12.go.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2557 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มอำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 โทรศัพท์ 0 7534 5050 ต่อ 102 ในวันและเวลาราชการ




อุไรวรรณ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

สภาเทศบาลตำบลหินตก จ.นครศรีธรรมราช เปิดประชุมนัดนัดแรก

สภาเทศบาลตำบลหินตก จ.นครศรีธรรมราช เปิดประชุมนัดนัดแรก หลังสมาชิกได้รับการแต่งตั้ง ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 85/2557

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้( 5 ส.ค.57) ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลหินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน เปิดการประชุมสภาเทศบาลตำบลหินตกนัดแรก ประจำปี พ.ศ. 2557 หลังสมาชิกสภาฯ ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการสรรหา สมาชิกสภาท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งดำเนินการตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 85/2557 เรื่องการได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 โดยจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ดำเนินการสรรหาและได้ประกาศรายชื่อสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหินตก เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา จำนวน 12 คน ประกอบด้วย นายชัยณรงค์ บุญสิงห์ นายสุพจน์ จิตร์เพ็ชร์ นายณรงค์ สุทธิภักดี นายสมพร ไหมบุญแก้ว นายพรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล พ.ต.อ.นาคิน ธีระพงศ์ นางวรรณี ผลาวรรณ์ นางบุญเรือน แรกวาที นางโฉมสุดา สังขมณี นายบุญธรรม กำลังเกื้อ นายเจือ สิริพร และ นางกฤษณพร มีแก้ว โดยมีนายสมศักดิ์ กิตติอุดมพร ปลัดเทศบาลตำบลหินตก ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีตำบลหินตก

โดยก่อนเข้าวาระการประชุมสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหินตกทั้ง 12 คน ได้กล่าวคำปฏิญาณตนในการเข้ารับหน้าที่ของสมาชิก ว่าจะทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประชาชนในเขตเทศบาลนี้ทั้งรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ซื่อสัตย์ สุจริต จากนั้นที่ประชุมจึงได้มีการคัดเลือกประธานสภา ทต.หินตก ได้แก่ นายสมพร ไหมบุญแก้ว รองประธาน นายณรงค์ สุทธิภักดี เลขานุการ นางนิชธาวัลย์ จันทร์แก้ว

ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาได้สรรหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในด้านต่าง ๆ พร้อมกำหนดคุณสมบัติอย่างละเอียด เข้ามาทำหน้าที่สมาชิกสภาท้องถิ่น ดังนั้น เมื่อเข้ามารับหน้าที่ตรงนี้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีตำแหน่งหน้าที่อื่นปฏิบัติอยู่ ขอให้ได้ศึกษาข้อมูล รายละเอียด ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้สนองเจตนารมณ์และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป

สำหรับเทศบาลตำบลหินตก สมาชิกสภาและผู้บริหารท้องถิ่นครบวาระเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 มีงบประมาณรวม 48 ล้านบาท และเมื่อเปิดประชุมสภาเทศบาลแล้ว จากนี้ไป จะต้องเร่งดำเนินการเรื่องข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ต่อไป

เทศบาลนครนครศรีธรรมราชขอเชิญร่วมกิจกรรมรวมพลังชุมชน เขต 1 เทิดไท้พระราชินี 12 สิงหา ถวายความจงรักภักดี สดุดีแม่ของแผ่นดิน

เทศบาลนครนครศรีธรรมราชขอเชิญร่วมกิจกรรมรวมพลังชุมชน เขต 1 เทิดไท้พระราชินี 12 สิงหา ถวายความจงรักภักดี สดุดีแม่ของแผ่นดิน

ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านได้ประกอบพระราชกรณียกิจที่เป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ โดยพี่น้องประชาชนชุมชนเขต 1 ทั้ง 10 ชุมชน พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เขต 1 ได้ตระหนักถึงความสำคัญและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงร่วมกันจัดงาน โครงการรวมพลังชุมชน เขต 1 เทิดไท้พระราชินี 12 สิงหา ถวายความจงรักภักดี สดุดีแม่ของแผ่นดิน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านและเพื่อเสริมสร้างความปรองดอง ความสามัคคีให้แก่ประชาชนชาวเขต 1 ทั้ง 10 ชุมชน โดยกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 11 -12 สิงหาคม เวลา 06.00 – 24.00 น. ณ ชุมชนประตูไชยสิทธิ์ ตั้งแต่บริเวณสี่แยกประตูไชยใต้ถึงถนนศรีธรรมโศก

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการรวมพลังชุมชน เขต 1 เทิดไท้พระราชินี 12 สิงหา ถวายความจงรักภักดี สดุดีแม่ของแผ่นดิน ได้ในวันและเวลาดังกล่าว และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการสังคมฝ่ายพัฒนาชุมชน เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โทร 075-342880 – 2 ต่อ 118

จังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1 ล้านตัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

จังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1 ล้านตัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับเทศบาลตำบลท่ายาง กำหนดจัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 1 ล้านตัว ในวันที่ 7 สิงหาคม 2557 เวลา 14.30 น. ณ บริเวณท่าน้ำชุมชนอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 โดยจัดให้มีพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะ กล่าวถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้เข้าร่วมพิธีร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 1 ล้านตัวลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงขอเชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชนเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงาจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์สร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป

นายไชยวัฒน์ เทพี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายด้านการปฏิรูปในทุกระดับ เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่การปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างสมบูรณ์และยั่งยืนโดยกำหนด Road Mapของการบริหารประเทศในระยะที่ ๑ จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ให้เร็วที่สุดในกรอบเวลา ๒ – ๓ เดือน เริ่มด้วยการจัดตั้งศูนย์การปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่เพื่อลดความขัดแย้งในสังคมตั้งแต่ระดับครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดโดยจัดให้ผู้มีความเห็นแตกต่างกันได้พูดคุยเพื่อหาแนวร่วมกันโดยปราศจากความขัดแย้ง ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน ของ คสช. เป็นการบริหารในช่วงเวลาที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อนรวมถึงแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้า เพื่อวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศที่มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

กรมประชาสัมพันธ์ จึงได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์สร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปขึ้น โดยน้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "รู้รักสามัคคี” สู่การปฏิบัติทุกภาคส่วนเพื่อกระตุ้นจิตสำนึก ให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เห็นความสำคัญและพร้อมให้ความร่วมมือ ในการสร้าง ความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับประเทศต่อไป พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ทั่วประเทศ โดยมีสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา เป็นหน่วยงานหนึ่งในการจัดกิจกรรม

ศูนย์ประชาสัมพันธ์สร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดพังงา จะทำหน้าที่ขยายผลการดำเนินงานของศูนย์ปรองดองจังหวัดพังงาและให้ข้อมูลข่าวสารตลอดจนบูรณาการกิจกรรมต่างๆร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเอกชน และประชาชน โดยเก็บรวบรวมข้อมูล คำสั่ง คสช. ทุกฉบับ การเผยแพร่แผนการปฏิรูป ในระยะต่างๆ เนื้อหาของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทั้ง ๔๘ มาตรา ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยเผยแพร่กิจกรรมร่วมกับ หน่วยงานต่างๆ อาทิ กลุ่มผู้ตรวจบัญชีของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอตะกั่วทุ่ง กิจกรรมปรองดองในการให้ความรู้ด้าน โลจิสติกส์ เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ของพนักงานขับรถบรรทุกจัดโดยสำนักงานขนส่งจังหวัด ณ โรงแรมภูงา กิจกรรมปรองดองในพิธีการลงนามในบันทึกข้อตกลง สวมหมวกนิรภัยร่วมกับ สำนักงานสรรพสามิตจังหวัดพังงาและตำรวจจราจร สภ.เมืองพังงา ร่วมออกหน่วยเคลื่อนที่โครงการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาจังหวัด ณ วัดโคกสวย ตำบลโคกเจริญ อำเภอทับปุด โดยมีแผนจะร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของ คสช. อันจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ได้ร่วมกันเปิดศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ชั้น 1

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยนายสุรินทร์ เพชรสังข์ นายสุชาติ สุวรรณกาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายสมเกียรติ สุวรรณนิมิตร ปลัดจังหวัดพัทลุง และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ได้ร่วมกันเปิดศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ชั้น 1 สนองนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และข้อร้องของประชาชน เพื่อให้การแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน เป็นไปอย่างรวดเร็ว และเป็นระบบ ซึ่งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง เปิดมาแล้วหลายปี โดยรับเรื่องราวร้องทุกข์ ข้อเดือดร้อนของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องที่ประชาชนร้องเรียน เช่น กรณีร้องเรียนเรื่องที่ดิน ก็จะต้องมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดิน เป็นผู้รับเรื่อง สามารถรอบรู้ในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี จะทำให้การแก้ปัญหา เป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น หลังจากนี้ไป ศูนย์ดำรงธรรมที่เปิดใหม่ จะต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชนผู้ร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที และเสร็จสิ้น ในระดับจังหวัด

จึงขอฝากไปยังประชาชน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องต่าง ๆ หรือมีข้อเดือดร้อน สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพัทลุง ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ชั้น 1 หลังใหม่ ได้ทุกวันทำการ

จังหวัดพัทลุง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)

ที่ศาลาประชาคมอำเภอเมืองจังหวัดพัทลุงวันนี้ (๔ ส.ค.๕๗) ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ของจังหวัดพัทลุง ซึ่งที่ทำการปกครองจังหวัดพัทลุง ได้ร่วมกับหน่วยงานสังกัดระทรวงแรงงาน สำนักงานสาธารณสุขพัทลุง และ กอ.รมน.จังหวัดพัทลุง จัดให้มีขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ และแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ออกประกาศฉบับที่ ๗๐/๒๕๕๗ เรื่องมาตรการชั่วคราวในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ โดยให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าลาวและกัมพูชา 

ทั้งนี้สำนักงานจัดหางานจังหวัดพัทลุงได้รับขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ มีผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น ๓๘๓ คน และกลุ่มผู้ได้รับใบอนุญาต ในอนุญาตจะหมดอายุจำนวน ๕๘ คน รวม ๔๔๑ คน โดยแต่ละคนต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการขึ้นทะเบียนรายละ ๓,๐๘๐ บาท แยกเป็นค่าทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยและการคัดรับรองสำเนารายการทะเบียนประวัติ ๘๐ บาท ค่าตรวจสุขภาพ ๕๐๐ บาท ค่าประกันสุขภาพ ๑,๖๐๐ บาท ค่าใบอนุญาตทำงาน ๙๐๐ บาท

สำหรับการจ้างงานแรงงานต่างด้าวในจังหวัดพัทลุง ถือว่ามีไม่มาก เพราะจังหวัดพัทลุงไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานส่วนใหญ่ เป็นงานการก่อสร้าง และแรงงานในภาคการเกษตร ซึ่งคาดว่ารวมทั้งหมดจะไม่เกิน ๕๐๐ คน

กรมการแพทย์จัดงานมหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดสตูล 14สิงหาคมนี้

วันนี้ (4 ส.ค.57) นายแพทย์ประพันธ์ พงศ์คณิตานนท์ ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ เป็นประธาน ประชุมเจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดสตูล ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลสตูล เพื่อหารือเตรียมจัดงานมหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสนง.สาธารณะสุขจังหวัดสตูล กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล เพื่อบริการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ บริการบำบัดข้อเข่าเสื่อม การบริการด้านทันฑกรรม และบริการด้านจักษุ ให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

ผอ.สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กล่าวในโอกาสนี้ว่า เป้าหมายการให้บริการในครั้งนี้ เป็นผู้สุงอายุประมาณ 1,000 คน ประกอบด้วย การบำบัดข้อเข่าเสื่อม 500 คน ด้านทันตกรรม 100 คน และด้านจักษุ 400 คน โดยจะมีการคัดกรองและตรวจรักษาผู้ป่วยให้เสร็จภายในวันเดียว สำหรับผู้ที่ประสงค์ที่เข้ารับการตรวจรักษา สามารถยื่นลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ สนง.สาธารุณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนทุกแห่ง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2557

ประมงพื้นบ้านกว่า 200 คน ปิดถนนทางเข้าท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ เพื่อเรียกร้องค่าเสียที่เรือขุดลอกร่องน้ำ ของบริษัทซีทรานต์เฟอร์รี่ ทำให้อวนเสียหายไม่ชดใช้

ชาวบ้านร่วมตัวปิดท่าเทียบเรือโดยสารซีทรานต์เฟอร์รี่ดอนสักเริ่มส่งผลกระทบต่อการเดินทางในเกาะสมุย

วันนี้( 5 ส.ค.57) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังมีประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 200 คน ร่วมตัวกันปิดถนนทางเข้าท่าเทียบเรือโดยสารของ บริษัทซีทรานต์เฟอร์รี่ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เรือขุดลอกร่องน้ำ ของบริษัทซีทรานต์เฟอร์รี่ ได้ทำให้อวนของประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหายมูลค่าประมาณ 7 แสน บาท ที่ทางบริษัทรับปากกับชาวประมงว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวประมง แต่ทางบริษัทยังไม่ได้มีการดำเนินการชดใช้ให้กับชาวประมง จึงสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวประมง ร่วมตัวกันออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบ

นายไพบูลย์โอมาก นายอำเภอเกาะสมุย ระบุหลังจากที่ทางชาวบ้านได้ ออกมาประท้วงปิดท่าเทียบเรือโดยสาร ของบริษัทซีทรานต์เฟอรี่ท่าเทียบเรือดอนสัก ส่งผลกระทบให้ผู้โดยสารในอำเภอเกาะสมุยที่จะมาใช้บริการ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่จะนำรถลงเรือโดยสาร ไม่สามารถ นำรถออกจากท่าเทียบเรือดอนสักได้ ผู้โดยสารจึงต้องเดินทางไปใช้บริการ เรือโดยสารของบริษัทราชาเฟอร์รี่แทน จึงทำให้รถจำนวนมากหลั่งไหลไปลงเรือโดยสารของบริษัทราชาเฟอร์รี่ ซึ่งยังเปิดให้บริการตามปกติ ทำให้การเดินทางต่อล่าช้าออกไป เนื่องจากมีรถไปรอคิวลงเรือเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้การเดินทางเข้าออกเกาะสมุย ยังคงสามารถเดินทางได้ด้วยเรือบริษัทราชาเฟอร์รี่ แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบ ต่อผู้โดยสารที่จะนำรถลงเรือ ในการเดินทางที่ล่าช้าออกไป

สภาเทศบาลตำบลหินตกนำร่องสภาแห่งแรกที่สมาชิกมาจากการสรรหา ได้ประชุมเพื่อดำเนินการตามประกาศ คสช.เรียบร้อยแล้ว

สภาเทศบาลตำบลหินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นำร่องสภาแห่งแรกที่สมาชิกมาจากการสรรหา ได้ประชุมเพื่อดำเนินการตามประกาศ คสช.เรียบร้อยแล้ว

ตามที่ คสช.ได้มีคำสั่ง ฉบับที่ 85/2557 ให้งดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาท้องถิ่น ในกรณีที่สมาชิกสภาท้องถิ่นครบวาระ โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการตามประกาศสำหรับ เทศบาลตำบลหินตก ที่สมาชิกสภาหมดวาระลงเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2557 และเปิดประชุมสภาครั้งแรกแล้ว

ว่าที่ ร.ต.ฐิตวัฒ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สมาชิกสภาจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ บริการ และการพัฒนาท้องถิ่น ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

สำหรับเทศบาลตำบลร่อนพิบูลย์ ประกอบด้วยชุมชน บ้านไม้หลา และชุมชนสามร้อยกล้า มีประชากรรวมกว่า 8,000 คน มีพื้นที่ 13 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่ทำการเกษตร และค้าขาย นับเป็นสภาแรกที่ดำเนินการตามประกาศ คสช. ส่วน เทศบาลตำบลเขาชุมทอง และเทศบาลตำบลนาบอน ครบวาระในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการสรรหาจะต้องดำเนินการสรรหาสมาชิกสภา เทศบาลละ 12 คน ต่อจากนี้ 

กลุ่มผู้ชุมนุมรุกที่สวนปาล์ม จ.กระบีไม่ยอมย้ายออกอ้าง คำสั่ง คสช.

ทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จ.กระบี่ สนธิกำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง ตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมัน บริษัท ยูนิวานิช จำกัด มหาชน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ หลังครบกำหนดให้เครือข่ายเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินกว่า 1,000 คน ต้องย้ายออกและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทุกชนิดจากสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งหมดอายุสัมปทานมากว่า 1 ปี ภายในวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านอ้างคำสั่ง คสช.ฉบับ ที่ 66 /2557 ซึ่งระบุว่า การปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ยากไร้และผู้ไร้ที่ดินทำกินซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิม

ฝ่ายความมั่นคง จึงเตรียมเรียกแกนนำกลุ่ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม กับ พล.ต.สนอง คงยั่งยืน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาข้อสรุปในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ ต่อไป

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจับกุมนักค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด และยาไอซ์ 100.80 กรัม

ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ขยายผล ล่อซื้อและสามารถจับกุมนักค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด และยาไอซ์ 100.80 กรัม

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 28กรกฎาคมนี้ว่า พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิราภัย ผู้กำกับการสืบสวนร่วมกันเป็นผู้อำนวยการ สนับสนุน การปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด และพ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธ และยาเสพติด ตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8

ทั้งนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามแผนระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดสามารถจับกุมนายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 2 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ที่ห้องพักเลขที่ 88/744 แฟลต เอื้ออาทร อาคาร 7 หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พร้อมยึดของกลาง รวม 5 รายการ คือ ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมประมาณ 100.80 กรัม พันด้วยกระดาษสาสีเหลือง และซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วสีขาว วางอยู่บนกล่องพลาสติก ภายในห้องนอน,ยาบ้าเม็ดสีส้ม มีอักษรWY ปรากฏบนเม็ด บรรจุอยู่ในถุงซิป สีฟ้า จำนวน 10 ถุง รวม 1980 เม็ด และ รวมยาบ้าสีเขียว อีกถุงละ 2 เม็ด รวมเป็นทั้งหมด 2,000 เม็ด ,เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง ,อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด และโทรศัพท์มือถือ อีก 1 เครื่อง และพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า - ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย

สำหรับการจับกุมนักค้ายาเสพติด รายนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พยายามแกะรอยหรือติดตามสืบสวน สอบสวนขยายผลมาจากการจับกุม นางสาวเสวลักษณ์ หรือจ๊ะ อาจหาญ พร้อมยึดของกลาง ยาไอซ์ 66.53 กรัม เมื่อเร็วๆนี้ และ ผู้ต้องหารายนี้ ให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาไอซ์มาจากนายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ อีกต่อหนึ่ง และ ชุดจับกุมจึง ใช้วิธีการล่อซื้อ และสามารถจับกุม ได้พร้อมของกลางทั้งหมด ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ดี ในชั้นสอบสวน นายอำนาจ หรือน้อต รสสุคนธ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเอง ที่ไปรับ มาจากบริเวณ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณหลังมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กรุงเทพมหานคร โดยติดต่อซื้อผ่าน จากเอเยนต์ ที่ชื่อว่า นางเจ้ ไม่ทราบนามสกุล โดยติดต่อทางหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ คือยาไอซ์ 1 ขีด ในราคา 160,000 บาท และยาบ้า 1 มัด 2,000 เม็ด ราคา 240,000บาท โดยเครือข่าย ของ นางเจ้ เป็นผู้นำเอายาเสพติด มาวางไว้ และนัดหมายให้ไปเอา จากนั้น โดยสารรถประจำทางสาวกรุงเทพมหานคร - ภูเก็ต ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และ นำมาจำหน่าย ต่อให้กับนางสาวเสาวลักษณ์ หรือจ๊ะ อาจหาญ ตามที่ ทั้งคู่ ตกลงกัน คือ ยาไอซ์ ราคาขีดละ 250,000 บาท และ ยาบ้า 2,000 เม็ด ราคา 280,000 บาท แต่ถูกซ้อนแผน ล่อซื้อ และ เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมตัวได้เสียก่อน

ชลประทานระนอง เร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นรองรับฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ยืนยันอ่างเก็บน้ำแข็งแรงดี

ชลประทานระนอง เร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นรองรับฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ยืนยันอ่างเก็บน้ำแข็งแรงดี

นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง กล่าวจากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องของจังหวัดระนอง ทำให้ระดับน้ำภายในอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น ต.หาดหาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใช้ในการอุปโภคของ อ.เมืองระนอง มีปริมาณน้ำเต็ม 100% โดยในขณะนี้ทางโครงการชลประทานระนองได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ โดยได้ติดตั้งท่อเหล็กจำนวน 8 ท่อ เพื่อทำกาลักน้ำ ซึ่งจะระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นอีก 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากเดิมที่ระบายได้ 350,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ในขณะนี้สามารถระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นได้วันละ 550,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เหลือ 60% ของอ่าง จึงจะหยุดระบายน้ำออก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่บริเวณคลองหาดส้มแป้น พร้อมยืนยันว่าอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นอยู่ในสภาพที่ดีแข็งแรง

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง ฝากเตือนไปยังประชาชนที่อยู่บริเวณทางผ่านของน้ำจากคลองหาดส้มแป้นให้อยู่ใน ความไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำล้นตลิ่ง และเก็บข้าวของที่จำเป็นขึ้นที่สูง

โครงการ ๑ ไร่ ๑ แสน เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา ร่วมกับหอการค้าจังหวัดพังงา สนับสนุนการเกษตร น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำโครงการ ๑ ไร่ ๑ แสน เพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร

นายสุทีป สุธาประดิษฐ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพังงา กล่าวถึง โครงการ ๑ ไร ๑ แสนนั้น ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ โดยแปลงสาธิตนั้นจะแบ่งพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน และปลอดจากสารเคมี โดยมีพื้นที่หลักคือ การทำนา รอบนาข้าวเป็นพื้นที่น้ำเพื่อเลี้ยงปลา ส่วนคันดินด้านข้างจะเป็นพื้นที่ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรมแบบผสมผสาน เพื่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่องและเป็นการสร้างความสุขให้แก่เกษตรกร

ด้านนายสุทธิโชค ทองชุมนุม ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา กล่าวด้วย หอการค้าได้วางยุทธศาสตร์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรขึ้น ภายใต้โครงการ ๑ ไร่ ได้เงิน ๑ แสน ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับในปีนี้จังหวัดพังงา ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ ๔ อำเภอ รวม ๔ แปลง คือที่บ้านตากแดด อำเภอเมือง, บ้านบ่อแสน อำเภอทับปุด, บ้านลำภี อำเภอท้ายเหมือง และบ้านบางวัน อำเภอคุระบุรี โดยมีเป้าหมายให้มีแปลงสาธิต โครงการ ๑ ไร ๑ แสนให้ครบทุกอำเภอ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมยินดีกับชาวมุสลิมเนื่องในวัน ตรุษอีฎิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ศักราช 1435

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมยินดีกับชาวมุสลิมเนื่องในวัน ตรุษอีฎิ้ลฟิตริ ปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ขอพระผู้เป็นเจ้าประทานความสุขความดีงามและความสันติสุขแก่ทุกท่าน

ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้ วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ตรงกับวันจันทร์ที่28 กรกฎาคม 2557 พร้อมขอวิงวอนต่อองค์อัลเลาะห์ทรงประทานสุขภาพกายที่แข็งแรง ขอให้ทุกท่านมีชีวิตยืนอยู่บนหลักดุลยภาพและอิสลาม รวมทั้งการ อภัยทานและการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างญาติมิตร เพื่อนบ้าน และพี่น้องร่วมชาติ ด้วยภราดรภาพ และความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติสืบไป ทางด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ความดีที่พี่น้องมุสลิมได้ร่วมกันทำ จะเป็นส่วนของของการสร้างสันติสุข

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมัสยิดรวมกว่า 100 แห่ง ทุกแห่งมีชาวมุสลิมร่วมประกอบพิธีด้วยความยินดีในความสำเร็จของการปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์อัลเลาะฮ์

โครงการ “ค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557”

อำเภอตะกั่วป่า จัดฝึกอบรมค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557 ณ ศาลาการเปรียญวัดนิกรวราราม(วัดย่านยาว) อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

วันนี้ (28 ก.ค. 2557) ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีกิจกรรมเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และกลุ่มเสี่ยง ในโครงการ "ค่ายคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคม รุ่นที่ 1/2557” ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาการเปรียญวัดนิกรวราราม หรือ วัดย่านยาว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

การจัดค่ายพัฒนาคุณธรรม เพื่อพัฒนาสังคมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อลดจำนวนผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดลง เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน รวมทั้งความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงจำเป็นต้องกระทำโดยเร่งด่วน ในลักษณะเชิงบูรณาการ ทั้งในด้านการป้องกันผู้เสพรายใหม่ การปราบปรามผู้ค้า และการบำบัดรักษาผู้เสพ ผู้ติด ควบคู่กันไป รวมทั้งต้องสร้างการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ การอบรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจำนวนทั้งสิ้น 62 คน