เมื่อเวลา 20.45 น.วันที่ 10 มิ.ย. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 59/2557 เรื่องขยายเวลาการนำส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามตามที่ได้มีคำสั่งที่ 37/2557 ลงวันที่ 29 พ.ค.57 เรื่องให้ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ และประกาศฉบับที่ 53/2557 ลงวันที่ 3 มิ.ย.57 เรื่อง กำหนดให้ผู้กระทำความผิดในบางกรณีไม่อยู่ภายใต้บังคับคำสั่ง คสช.ที่ 37/2557 แล้วนั้น เพื่อให้มีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายต่อไปอีกระยะหนึ่ง คสช.จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ขยายระยะเวลาให้แก่ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ในการนำส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ตามคำสั่งที่ 37/2557 ลงวันที่ 29 พ.ค.57 เรื่อง ให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ ต่อไปจนถึงวันที่ 25 มิ.ย.57 ข้อ 2 ให้ผู้ที่นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 ไม่ต้องรับโทษทางอาญา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ข้อ 3 ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 4 ปี ข้อ 4 ประกาศนี้มิได้บังคับแก่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ที่ถูกจับกุมหรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยก่อนวันที่ 29 พ.ค. 57 และอยู่ระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างคดี ยังไม่ถึงที่สุด ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ หัวหน้า คสช.
ขณะเดียวกัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศที่ 60/2557 เรื่องยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในบางพื้นที่เพิ่มเติม เนื่องจากสถานการณ์ในบางพื้นที่ได้คลี่คลายลงและไม่ปรากฏแนวโน้มของการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ดังนั้น เพื่อเป็นมาตรการผ่อนคลายและบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนจึงให้ยกเลิกการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่ดังต่อไปนี้ 1.จ.กาญจนบุรี 2. จ.ราชบุรี 3. อ.เขาย้อย อ.หนองหญ้าปล้อง อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.บ้านแหลม อ.เก่งกระจาน และ อ.เมือง จ.เพชรบุรี 4. จ.ระยอง 5 จ.จันทบุรี 6. อ.คลองใหญ่ อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ อ.แหลมงอบ อ.เกาะกูด และ อ.เมือง จ.ตราด 7. จ.นครพนม 8. จ.สกลนคร 9. จ.ร้อยเอ็ด 10. จ.เลย 11. จ.สุรินทร์ 12. จ.ตาก 13. จ.สุโขทัย 14. จ.แม่ฮ่องสอน 15. จ.อุตรดิตถ์ 16 จ.แพร่ 17. จ.น่าน 18. อ.สะเดา และ อ.เมือง จ.สงขลา 19. จ.ตรัง และ 20 จ.สตูล สำหรับพื้นที่อื่น ๆให้ยังคงปฏิบัติตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 3/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค. เรื่องห้ามออกนอกเคหสถาน ประกาศ คสช. ฉบับที่ 42/2557 ลงวันที่ 26 พ.ค. เรื่อง แก้ไขห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน และประกาศ คสช.ฉบับที่ 52/2557 ลงวันที่ 3 มิ.ย. เรื่องยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในบางพื้นที่ ทั้งนี้ตั้งแต่บันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ประกาศ ณ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ หัวหน้า คสช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น