เทศบาลนครภูเก็ต ให้ความช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตเหตุเพลิงไหม้ ร้านโชคชัยเฟอร์นิเจอร์
น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงกรณีถึงเกิดเหตุเพลิงไหม้ ร้านโชคชัย เฟอร์นิเจอร์ ว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านโชคชัย เฟอร์นิเจอร์ อาคารเลขที่ 1/39 ถนนศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เป็นตึกแถว 4 คูหา 3 ชั้น ซึ่งมี นางจันทร์หอม จักรแก้ว เป็นเจ้าของร้าน และได้เช่าอาคารหลังนี้เพื่อประกอบกิจการขายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปเพื่อใช้สอยภายในบ้าน
จากการลงพื้นที่ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากญาติ พบว่า ในคืนเกิดเหตุมีผู้อาศัยอยู่ในอาคารจำนวน 5 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย ประกอบด้วย นายมงคล เรือนชัย ผู้จัดการร้าน อายุ 43 ปี นางนุจรี แสงประโคน (ภรรยานายมงคล) อายุ 43 ปี ด.ช.ธีรวัฒน์ เรือนชัย (บุตรนายมงคล) และ น.ส.ชัญญา กานต์นภัส (คนขับรถ) อายุ 59 ปี ที่อยู่ 29/3 หมู่ที่ 2 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ขณะที่ผู้รอดชีวิตคือ นางจันทร์หอม จักรแก้ว อายุ 51 ปี เจ้าของร้าน โชคชัยเฟอร์นิเจอร์
โดยผู้เสียชีวิต 3 รายแรก ทางคณะผู้บริหารเทศบาลฯ และกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต ได้ให้ความช่วยเหลือในส่วนของค่าจัดการศพ และเงินทำบุญที่มอบให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 139,000 บาท ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุร่วมทำบุญ จำนวน 10,000 บาท ด้วย โดยได้มอบไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ส.ค.
ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายที่ 4 คือ น.ส.ชัญญา กานต์นภัส (คนขับรถ) อายุ 59 ปี ทางคณะผู้บริหาร ที่ปรึกษา เลขานุการ สมาชิกสภาเทศบาลมอบเงินค่าจัดการศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 25,000 บาท เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ กรุงเทพมหานคร มอบให้เมื่อวันที่ 3 ส.ค.57 และได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ให้การช่วยเหลือในส่วนของค่าจัดการศพ จำนวน 25,000 บาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
ส่วนราย นางจันทร์หอม จักรแก้ว เจ้าของร้าน โชคชัยเฟอร์นิเจอร์ ขณะนี้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ให้การช่วยเหลือในส่วนของค่ารักษาพยาบาล จำนวน 3,000 บาท อยู่ในระหว่างดำเนินการ
นอกจากนี้ น.ส.สมใจ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนางานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนที่จะมาเติมเต็มในสิ่งที่เราคิดว่า ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องจำนวนคน และอุปกรณ์ ซึ่งปัจจุบันเรามีพนักงานดับเพลิงกว่า 30 คน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ จำนวน 17 คน ก็ต้องยอมรับว่าพนักงานเราหายไปเยอะ มีพนักงานเข้าออกอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากงานดับเพลิงเป็นงานที่หนัก และมีความเสี่ยง ประกอบกับเงินเดือนไม่ได้จูงใจในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชน เราก็ได้มีการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติให้แก่พนักงานทุกคน เป็นเรื่องของการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทุกวันศุกร์ เพื่อให้พนักงานเหล่านี้มีความมุ่งมั่น และเพื่อส่งเสริมศักยภาพบุคลากรด้านงานป้องกันฯ